กางแผนกลยุทธ์เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย จาก Insight สู่ “ความเข้าใจผู้อยู่อาศัย” หัวใจหลักฝ่าความท้าทายตลาดปัจจุบัน

  • 19
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ในสภาวะที่ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงเผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจ, อัตราดอกเบี้ย, ภาระหนี้ครัวเรือน, และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT กลับสามารถฝ่าฟันความท้าทายต่างๆ จนสามารถสร้างยอดขายได้ แม้ในช่วงที่โอกาสต่างๆ มีอยู่อย่างจำกัด

โดยได้พิสูจน์ให้เห็นด้วยยอดพรีเซลล์รวมกว่า 1 พันล้านบาทจาก 3 โครงการใหม่ที่เปิดตัวในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนที่ผ่านมา ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาโดยบังเอิญ แต่เกิดจากการยึดมั่นในกลยุทธ์หลักที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของ “ความเข้าใจพื้นที่และผู้อยู่อาศัย” ซึ่งถือเป็นแกนหลักในการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง

 

คุณภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย FPT

 

ในมุมมองของ คุณภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย FPT เห็นว่า แม้ตลาดบ้านแนวราบจะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็มีปัจจัยบวกสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริโภค เช่น มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ, อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลง, และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่ช่วยให้การเชื่อมต่อจากชานเมืองเข้าสู่ย่านธุรกิจ (CBD) สะดวกมากขึ้น

 

กาง 3 กลยุทธ์หลักสู่ความสำเร็จ

ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว FPT สามารถปิดยอดพรีเซลล์โครงการใหม่ 3 โครงการรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใน 2 วันหลังเปิดขาย ผลลัพธ์ที่ได้เกิดจากกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน เริ่มจาก

การให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภคในทุกมิติ (Prioritising consumer needs) ถือเป็นกลยุทธ์หลักที่ FPT ให้ความสำคัญอย่างมากผ่านการเจาะลึกอินไซต์ (Insight) ของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่และแต่ละกลุ่มเป้าหมายอย่างจริงจัง โดยนำข้อมูลที่ได้มาปรับใช้ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การวางแนวคิด, การออกแบบตัวบ้าน, พื้นที่ใช้สอย, ฟังก์ชัน ไปจนถึงการออกแบบบริการหลังการขาย

 

 

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ยกตัวอย่าง โครงการโกลดีน่า (GOLDINA) สุขุมวิท – แบริ่ง โครงการทาวน์โฮมพรีเมียมแบรนด์ใหม่นี้ พัฒนาโดยนำเสนอดีไซน์บ้านรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด “Urban Energy with Inner Peace” ซึ่งสะท้อนกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความทันสมัย เรียบง่าย แต่ยังคงความสวยงามอย่างมีสไตล์ ภายในตัวบ้านยังออกแบบให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง เช่น พื้นที่ซัก ตาก รีดในร่มที่ช่วยลดปัญหาเรื่องฝนตกหรือฝุ่นละอองในอากาศ

การออกแบบพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเสริมได้ตามไลฟ์สไตล์ ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับการใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เลี้ยง รวมถึงการเลือกใช้วัสดุและนวัตกรรมที่คำนึงถึงความยั่งยืนและการประหยัดพลังงานเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ โครงการนี้สามารถสร้างยอดพรีเซลล์ได้ถึง 350 ล้านบาท

 

 

หรืออย่าง โครงการบ้านเดี่ยว แกรนดิโอ (GRANDIO) ที่รวม 2 โครงการทั้งที่แกรนดิโอ ขอนแก่น – มิตรภาพและแกรนดิโอ โคราช – เทอร์มินอล สามารถสร้างยอดพรีเซลล์รวมถึง 650 ล้านบาท โดยออกแบบภายใต้แนวคิด “A Dream Comes True” ด้วยแบบบ้านสไตล์ Luxury European ที่สะท้อนความสวยงามของบ้านในฝัน ผสานเข้ากับทำเลศักยภาพ ทั้งด้านระบบคมนาคม สาธารณูปโภค การศึกษา และระบบสาธารณสุข

 

 

แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่ม และความสามารถในการปรับตัวเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการเฉพาะเจาะจง ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ในเมืองหรือครอบครัวที่มองหาบ้านในหัวเมืองใหญ่ การออกแบบฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น พื้นที่ซักรีดในร่ม หรือพื้นที่อเนกประสงค์ สะท้อนถึงการคิดนอกกรอบและมองการณ์ไกลถึงการใช้ชีวิตจริงของผู้อยู่อาศัย

 

สร้างคุณค่าของบ้านและความแข็งแกร่งทางการเงิน

นอกจากกลยุทธ์ที่เข้าถึงความต้องการผู้บริโภคผ่าน Insight แล้ว FPT ยังมีการกลยุทธ์เพื่อสร้างคุณค่าให้ผู้อยู่อาศัยอย่างเป็นรูปธรรม (Creating tangible value) โดยมุ่งเน้นการส่งมอบบ้านที่ไม่เพียงแต่เป็นทรัพย์สินเท่านั้น แต่เป็น “พื้นที่การใช้ชีวิต” ที่อำนวยความสะดวกและเติมเต็มความฝันของผู้อยู่อาศัยได้จริง โดยเดินหน้าขยายโครงการคุณภาพจากกรุงเทพฯ สู่หัวเมืองหลักในต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น และนครราชสีมา เป็นการขยายฐานลูกค้าและโอกาสทางธุรกิจในตลาดที่มีศักยภาพ

ซึ่งกลยุทธ์นี้ตอกย้ำแนวคิดที่ว่า บ้านในยุคปัจจุบันไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิตของผู้คน การที่ FPT มองบ้านในมุมมองที่กว้างขึ้น ช่วยสร้างความแตกต่างและคุณค่าที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน

ที่สำคัญ FPT ยังเน้นการสร้างฐานะการเงินที่แข็งแกร่งและยั่งยืน (Financial Stability) ด้วยการสร้างรากฐานธุรกิจที่มั่นคงจากการเป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทยที่มีครอบคลุม 3 ประเภทธุรกิจ ทั้งกลุ่มที่อยู่อาศัย, กลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าทั่วประเทศไทย รวมไปถึงอินโดนีเซียและเวียดนาม และกลุ่มพาณิชยกรรม ที่เน้นไปที่อาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ, พื้นที่รีเทล, และโรงแรมในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ ทำให้ FPT สามารถลงทุนและพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะที่ตลาดเผชิญแรงกดดัน

นอกจากนี้ FPT ยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) และทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT) ด้วยความหลากหลายของพอร์ตโฟลิโอธุรกิจช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความยืดหยุ่นทางการเงิน ทำให้ FPT สามารถลงทุนในโครงการใหม่ๆ และขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

FPT ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการติดตั้งโซลาร์เซลล์ รวมถึงการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกในภูมิภาคที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED ระดับ Gold สำหรับที่อยู่อาศัย แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนและผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญขอรับ

ด้วย 3 กลยุทธ์ดังกล่าว คือหัวใจหลักในการสร้างความสำเร็จของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ที่เห็นได้จากยอดพรีเซลล์ทะลุพันล้านบาท ท่ามกลางความท้าทายของตลาด และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ FPT ในการสร้างสรรค์พื้นที่ เพื่อประสบการณ์ที่ดีคงอยู่ (Inspiring experiences, creating places for good.)


  • 19
  •  
  •  
  •  
  •