ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในทุกมิติของธุรกิจ การเป็นผู้นำไม่ได้วัดกันที่ความรู้ด้านการตลาดหรือการเงินเพียงเท่านั้น แต่ทุกวันนี้ยังต้องมีความสามารถในการปรับตัว การมองเห็นโอกาส และการนำเทคโนโลยีมาสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมี “เป้าหมาย” ด้วยเช่นกัน
สิ่งนี้คือโจทย์ใหญ่ที่คนทำงาน นักการตลาด และผู้บริหารรุ่นใหม่ต้องเผชิญ และเป็นที่มาของแนวคิดด้านการศึกษาที่น่าจับตามองจาก GLOBIS University มหาวิทยาลัยบริหารธุรกิจ (Business School) อันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น ที่ Disrupt วงการการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ และกำลังจะเข้ามาสร้างแรงกระเพื่อมให้กับการพัฒนาผู้นำในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
GLOBIS ไม่ได้มองว่า MBA คือหลักสูตรที่สอนทฤษฎีในด้านการบริหารธุรกิจเท่านั้น แต่เป็นพื้นที่สำหรับสร้าง “ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์” (Visionary Leaders) ผ่านสองหัวใจหลักที่โลกธุรกิจวันนี้ต้องการ นั่นคือ “Technovate” (Technology + Innovation) และ “Kokorozashi” (โคโคโระซาชิ) หรือเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในใจ
ทำไมต้องมหาวิทยาลัยจากญี่ปุ่น?
หลายคนอาจมองว่าญี่ปุ่นคือประเทศที่กำลังเผชิญกับสังคมสูงวัย (Aging Society) แต่ในวิกฤตนั้นกลับเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมเช่นกันนั่นก็คือธุรกิจต้องนำเทคโนโลยีและ AI มาใช้ ซึ่งในแง่นี้ไ่ม่ได้ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น แต่นำมาใช้เพื่อความอยู่รอด ซึ่งแตกต่างจาก Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกาที่เน้นการสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมาก่อน แล้วจึงผลักดันออกสู่ตลาดเพื่อสร้างความต้องการในภายหลัง
เทรนด์นี้กำลังจะกลายเป็นภาพอนาคตของประเทศไทยในไม่ช้าการเรียนรู้จากโมเดลของญี่ปุ่นที่กำลังก้าวสู่ “Society 5.0” ซึ่งเน้นนวัตกรรมที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนไทยอีกต่อไป ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็น “ตัวอย่าง” อนาคตของประเทศเราไปแล้ว ดังนั้น GLOBIS จึงเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมให้ผู้นำไทยได้เข้าใจบริบทนี้ได้อย่างชัดเจนกว่ามหาวิทยาลัยในประเทศอื่นๆได้นั่นเอง
ถอดสมการผู้นำแห่งอนาคต: Technovate x Kokorozashi
คุณโยชิโตะ โฮริ ผู้ก่อตั้ง GLOBIS University ได้อธิบายสมการของการเป็น “ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์” (Visionary Leader) ผ่านองค์ประกอบ 3 ส่วนนั่นก็คือ “ความรู้ด้านการบริหารจัดการ”, “ความรู้ด้านเทคโนโลยี” และ เป้าหมายยิ่งใหญ่ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคม
เมื่อมีความรู้ Management Knowledge และมี “เป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้” แต่ขาดความเข้าใจ Technology and Innovation คุณจะกลายเป็นผู้นำที่เปราะบางต่อการถูก Disrupt ได้ง่าย เพราะตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก
เมื่อมีความรู้ด้านการบริหารและตามทันเทคโนโลยี แต่ขาดเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ คุณจะเป็นผู้จัดการที่เก่งกาจและทันสมัย แต่ไร้ซึ่งแรงผลักดันจากภายใน ทำให้ “หมดไฟและหลงทางได้ง่าย” เพราะไม่รู้ว่ากำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปเพื่ออะไร
เมื่อมีความเข้าใจในเทคโนโลยีและมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่ขาดความรู้ด้านการบริหาร คุณจะเป็นนักเทคโนโลยีที่มีอุดมการณ์ แต่ “ประสบปัญหาในการนำไอเดียไปสู่ตลาด” เพราะไม่สามารถแปลงวิสัยทัศน์ให้กลายเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้
ซึ่งเมื่อองค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนนี้ซ้อนทับกันอย่างสมบูรณ์ จะเกิดเป็นสูตร Technovate x Kokorozashi ที่จะได้ออกมาเป็น Visionary Leader โดยความหมายของ Technovate นั้นคุณโยชิโตะบอกว่า ไม่ใช่แค่การสอนให้รู้จักเครื่องมือ AI แต่คือการปลูกฝังวิธีคิดในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาขับเคลื่อนธุรกิจในฐานะผู้นำ
ขณะที่ Kokorozashi คือสิ่งที่ลึกซึ้งกว่าคำว่า “Ikigai” (อิคิไก) ที่หลายคนคุ้นเคย เพราะมันคือ “เป้าหมายในชีวิตที่ยิ่งใหญ่” ที่จะสร้างแรงผลักดันให้เราอยากตื่นขึ้นมาสร้างความเปลี่ยนแปลงในทุกๆ วันนั่นเอง
เฌอปราง นักเรียน GLOBIS และ Brand Ambassador คนล่าสุด
เราทราบกันดีว่า เฌอปราง อารีย์กุล มีอีกหนึ่งบทบาทนอกจากฐานะอดีตสมาชิกและผู้จัดการวง BNK48 นั่นก็คือการเป็นนักศึกษาปริญญาโท Full-time ที่มหาวิทยาลัย GLOBIS วิทยาเขตโตเกียว ซึ่งก็เป็นอีกคนที่สะท้อนวิธีคิดของคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจถึงความจำเป็นในการ Reskill และ Upskill เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นของตัวเอง
เฌอปรางเล่าว่าเธอค้นพบความถนัดด้านการบริหารจัดการในช่วงที่ทำงาน แต่ก็รู้สึกว่ายังขาดความรู้ทางธุรกิจโดยตรง การได้ทดลองเรียนหลักสูตร Pre-MBA ของ GLOBIS แบบออนไลน์ก่อน ทำให้เธอได้สัมผัสกับแนวทางการเรียนที่เน้นการลงมือทำจริงและยืดหยุ่น ซึ่งตอบโจทย์ความฝันที่อยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศพอดี
“สิ่งที่ทำให้เฌอตัดสินใจเลือกเรียนที่ GLOBIS คือหลักสูตรที่แตกต่าง ที่นี่ไม่ได้สอนแค่ธุรกิจ แต่สอนให้เราเข้าใจตัวเอง ค้นหาทิศทาง และตระหนักว่าจะสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้สังคมได้อย่างไร” เฌอปรางกล่าว นอกจากนี้ การที่ GLOBIS ให้ความสำคัญกับแนวคิด Kokorozashi, การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้, และการได้เรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่มีเพื่อนๆ จากหลากหลายประเทศ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอเลือกที่นี่เพื่อค้นหา “เป้าหมายต่อไปของชีวิต”
เรื่องราวของเฌอปราง ที่ก้าวเข้าสู่รั้ว GLOBIS ทำให้เราเห็นว่าความเป็นผู้นำไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกธุรกิจ แต่สามารถสร้างได้จากทุกประสบการณ์ และการมี “Kokorozashi” ที่ชัดเจนคือสิ่งสำคัญที่จะนำทางไปสู่ความสำเร็จได้เช่นกัน
GLOBIS “Ecosystem” ที่ครบวงจร
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ GLOBIS นอกจากแนวคิดการเรียนการสอนก็คือ การมีระบบนิเวศทางธุรกิจที่สมบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลัก คือ คน (People), ทุน (Capital), และความรู้ (Knowledge) โดย GLOBIS นอกจากจะมีการเรียนการสอน MBA แล้วยังเป็นบริษัทที่ปรึกษาและจัดอบรมองค์กรชั้นนำ มีแพลตฟอร์ม E-learning ที่ทำให้ความรู้เข้าถึงง่าย และยังมี Venture Capital (GLOBIS Capital Partners) ที่ลงทุนในสตาร์ทอัพไปแล้วกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
ที่สำคัญคือ Startup Ecosystem ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีไอเดีย สามารถพัฒนาธุรกิจของตัวเองผ่านโปรแกรมต่างๆ ตั้งแต่ G-Incubate, G-Challenge (เวทีประกวดแผนธุรกิจชิงเงินลงทุนสูงถึง 10 ล้านเยน) ไปจนถึง G-Growth ที่พร้อมสนับสนุนให้เป็นบริษัทชั้นนำต่อไปได้
เรียนรู้ได้ในแบบที่เป็นคุณ: จาก nano-MBA สู่ Full-time MBA
GLOBIS เข้าใจดีว่าคนทำงานยุคใหม่ต้องการความยืดหยุ่น จึงออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ที่หลากหลายให้เลือกได้ตามความพร้อมและเป้าหมายของแต่ละคน
- nano-MBA เริ่มต้นเรียนรู้คอนเซ็ปต์ธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา
- Pre-MBA เป็นการทดลองเรียนในคลาส MBA จริงแบบไม่ผูกมัด สามารถเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่สนใจในไทย และเก็บหน่วยกิตไว้ต่อยอดได้
- Full-time หรือ Part-time & Online MBA เป็นการเรียนเต็มหลักสูตรเพื่อคว้าปริญญา MBA ไม่ว่าจะเลือกไปสัมผัสประสบการณ์เต็มที่ 1 ปีที่โตเกียว หรือเรียนออนไลน์ควบคู่ไปกับการทำงาน
ในโลกที่หมุนเร็ว การลงทุนกับความรู้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด และที่สำคัญกว่าก็คือการเลือกแหล่งให้ความรู้ที่ใช้และเข้าใจถึงอนาคต สามารถมอบเครื่องมือและวิธีคิดให้ผู้ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้จริงกับธุรกิจและการใช้ชีวิตสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและมีเป้าหมายในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
สำหรับใครที่สนใจหลักสูตร MBA มหาวิทยาลัย GLOBIS สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.globis.ac.jp/
