‘ไอคอนสยาม’ ขึ้นแท่น Top 3 โครงการอสังหาฯ ค้าปลีกระดับโลก บนเวที ‘MAPIC Awards 2025’ กับบทพิสูจน์ความสำเร็จริมเจ้าพระยา

 

ในวันที่ ‘ไอคอนสยาม’ ยังเป็นเพียงแนวคิดการลงทุนจำนวนมหาศาลกว่า 60,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 55 ไร่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งกรุงธนฯ คำถามมากมายสะท้อนความกังวลว่า การลงทุนในครั้งนี้จะคุ้มค่าจริงหรือไม่? เพราะในยุคนั้น ‘ฝั่งกรุงเทพฯ’ ยังปลอดภัยกว่าในการลุยสนามแข่งศูนย์การค้า ไอคอนสยามจึงเป็นเหมือนเกมเดิมพันที่ ‘สยามพิวรรธน์’ รู้ดีว่าจะแพ้ไม่ได้

แต่ข้อกังขาเหล่านั้นได้เลือนหายไปตามกาลเวลา เมื่อระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 7 ปี นับจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันแรกเมื่อปี 2561 ได้พิสูจน์ความสำเร็จของไอคอนสยามได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นผลงานเชิงประจักษ์ที่ไอคอนสยามสร้างแรงกระเพื่อมเชิงบวกให้กับสังคมโดยรอบ ทั้งการสร้างงาน สร้างรายได้ และดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากมาย รวมถึงยังมีรางวัลต่างๆ กว่า 53 รางวัลทั้งจากในไทย และต่างประเทศรับรอง สะท้อนความสำเร็จของคนไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

 

MAPIC Awards 2025 การคัดเลือก ‘อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก’ ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรอบ 30 ปี

รางวัลล่าสุดอย่าง ‘MAPIC Awards 2025’ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา คุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ เผยว่า ในวงการนี้ รางวัลนี้เรียกได้ว่าเหมือนรางวัลออสการ์ ของวงการรีเทล คือที่สุดในเซกเตอร์แล้ว”

สำหรับเวที MAPIC จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส โดยเป็นพื้นที่ให้นักลงทุน ผู้พัฒนาโครงการ ผู้บริหาร ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมค้าปลีกได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ นวัตกรรม และแนวโน้มใหม่ๆ ในวงการค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 4,000 คน จาก 75 ประเทศทั่วโลก

MAPIC Awards นับเป็นส่วนหนึ่งของงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเช่นกัน โดยมีการมอบรางวัลในสาขาต่างๆ ให้กับโครงการ และแบรนด์ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรม และการพัฒนาเมืองในประเทศ โดยไอคอนสยามเองเคยชนะเลิศรางวัลสาขา ‘Best Shopping Centre ปี 2019’ มาแล้ว

แต่ความพิเศษในปี 2025 นี้คือ การฉลองครบรอบ 30 ปี MAPIC ที่ทางงานได้จัดให้มีการมอบรางวัลพิเศษ ‘Most Influential Retail Property Project of the Past 30 Years’ เฉพาะในปีนี้เท่านั้น และมอบให้กับโครงการที่มีอิทธิพลสูงสุดในโลกในรอบ 3 ทศวรรษ หรือ 30 ปีนี้

โดยไอคอนสยามเป็นโครงการหนึ่งเดียวจากประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียที่ได้เข้ารอบสุดท้าย ขึ้นแท่น 1 ใน 3 โครงการที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ร่วมกับ Puerto Venecia (สเปน) และ Westfield London (สหราชอาณาจักร) ซึ่งคัดเลือกมาจากทั้งหมด 15 โครงการทั่วโลก ในรอบ 30 ปี

ในงานเดียวกันนี้ คุณชฎาทิพ จูตระกูล ยังได้รับรางวัล ‘Pioneers of Places Awards’ รางวัลเชิดชูเกียรติระดับ Lifetime Achievement ที่มอบให้แก่ผู้นำระดับนานาชาติที่มีผลงานโดดเด่นในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมค้าปลีก และการพัฒนาเมือง นับเป็นคนไทย และคนเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนี้ ร่วมกับผู้นำระดับโลกอีก 4 ท่าน

 

ผลลัพธ์จาก ‘The Makers’ กับแนวคิด ‘ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้’ สู่การพัฒนาพื้นที่ และเศรษฐกิจริมเจ้าพระยาให้แข็งแกร่ง

 

คุณชฎาทิพยังเผยอีกว่า ในองค์กรสยามพิวรรธน์จะมีหนึ่งคำพูดถึงยึดถือตลอดมานั่นคือ ‘ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้’ นับจากวันที่ไอคอนสยามยังเป็นแนวคิดที่หลายคนสงสัย สู่วันที่ขึ้นแท่นเบอร์ต้นของโลก นั่นคือผลลัพธ์ของความเชื่อ และความตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จตามคำมั่นสัญญาที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่วันเริ่มโครงการ พร้อมให้นิยามคำว่า ‘The Makers’ ซึ่งหมายถึงคนไทยทั้งประเทศที่สนับสนุนไอคอนสยามมาอย่างดีโดยตลอด

ในด้านผลลัพธ์เชิงเมืองและเศรษฐกิจ ไอคอนสยาม ภายใต้การบริหารโดยสยามพิวรรธน์ ร่วมทุนกับแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ นำเสนอแผนพัฒนาริมเจ้าพระยาที่ทำให้มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นจาก 250,000 เป็น 700,000 บาท/ตร.วา ทั้งยังดันธุรกิจริมแม่น้ำให้เติบโตกว่า 60% และกระตุ้นให้เกิดโครงการใหม่กว่า 60 โครงการในรัศมี 1 กม. สร้างงานกว่า 400,000 อัตรา พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศแล้วกว่า 115 ล้านคน

 

ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากการยึดมั่นใน 4 กลยุทธ์หลักที่เป็นรากฐานของการพัฒนาไอคอนสยามตั้งแต่วันแรก

– ปฏิวัติวงการรีเทล ผสานอัตลักษณ์ไทยกับค้าปลีกระดับโลก: ยกระดับ Retail Experience & Entertainment ด้วยการรวมศิลปะ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย และนวัตกรรมเข้ากับมาตรฐานสากลอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

– พัฒนาเมืองอย่างเป็นระบบ: ผลักดันการเติบโตเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ผ่านโครงสร้างพื้นฐานการเดินทางครบทั้งรถ เรือ และราง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตรอบพื้นที่

– พลังความร่วมมือทุกภาคส่วน: ทำงานร่วมกับรัฐ เอกชน ชุมชน และ SMEs จนเกิดการพัฒนาโครงการที่แข็งแรงและยืดหยุ่น ฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ ได้อย่างสง่างาม

– Shared Value เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับสังคม: ไม่มุ่งผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่สร้างคุณค่าให้ผู้ประกอบการไทยกว่า 35,000 ครอบครัว และผลักดันดีไซเนอร์ไทยกว่า 800–1,000 รายจาก Local heroes สู่ Global heroes อย่างจริงจัง

 

แบรนด์ระดับโลกเชื่อมั่น เลือกไทยเป็น ‘สาขาแรก-คอนเซปต์สโตร์’ มูลค่าลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท

 

ด้วยความแข็งแกร่งนี้ ทำให้แบรนด์ชั้นนำกว่า 51 แบรนด์เลือกเปิดสาขาแรกที่ไทย หรือเปิดคอนเซปต์สโตร์เฉพาะที่ไทย โดยมีมูลค่าลงทุนรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ยกตัวอย่างเช่น

แฟล็กชิปสโตร์ใหม่

– Hermès ซึ่งเปิดร้านแบบ Duplex แห่งแรกในไทย ปรับขยายพื้นที่พร้อมนำเสนอคอนเซปต์ใหม่

– Prada ขยายเป็น Duplex แห่งแรก 

– Tiffany & Co. ขยายพื้นที่ขนาดใหญ่พร้อมคอนเซปต์ดีไซน์ใหม่

ร้านขนาดใหญ่ที่สุดในไทย

– Loro Piana เปิดสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ 

– Giorgio Armani เปิดห้อง Made-to-Measure ตัดเย็บสูทครอบคลุมทุกหมวดหมู่ 

– Moncler เปิดแฟล็กชิปสโตร์เต็มรูปแบบ

คอนเซปต์ใหม่ครั้งแรกในเอเชีย

– Fendi เปิดตัวคอนเซปต์ใหม่ล่าสุดระดับภูมิภาค

สาขาแรกในประเทศไทย

– Brunello Cucinelli 

– Zimmermann 

– ON Official Store แห่งแรกและเป็น Flagship ที่ใหญ่ที่สุดในไทย พร้อมทำสถิติยอดขายเปิดร้านวันแรกสูงที่สุดในโลก

Global Landmark Store ระดับโลก

– POP MART เปิด Global Landmark Store ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ใหญ่ที่สุดนอกจีน)

เมกะสโตร์ใหญ่ที่สุดในไทย / ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

– Gentle Monster และ Tamburins เปิดเมกะสโตร์ขนาดใหญ่ที่สุดในไทย และเป็นสาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คอนเซปต์ใหม่ครั้งแรกในโลก

The North Face เปิดร้าน ONE BOX PRO Concept Store ครั้งแรกของโลก

 

 

ในท้ายที่สุดคุณชฎาทิพเผยว่าความภาคภูมิใจสูงสุดของสยามพิวรรธน์คือการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก รางวัลนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ และเกียรติยศร่วมกันของคนไทยทุกคน พร้อมทำเต็มที่ในการเป็น ‘แม่เหล็ก’ ให้คนทั้งโลกกลับมาเยือนประเทศไทยครั้งแล้วครั้งแล่า และหลงรักประเทศไทยอีกครั้งอยู่เสมอ