KBTG หรือ บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป กลายเป็นบริษัทเทคฯ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อ “Future You” โปรเจกต์เอไอที่ช่วยให้เราสามารถคุยกับตัวเองในอนาคตเพื่อพัฒนาตัวเอง ได้รับรางวัล 2025 World Changing Ideas Awards 2025 จาก Fast Company สื่อชั้นนำด้านนวัตกรรมและธุรกิจระดับโลก นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ KBTG ที่ทำให้เห็นความมุ่งมันในการสร้างนวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของมนุษย์ชาติและสิ่งนี้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ Human-First,AI-First ของ KBTG อย่างชัดเจน
World Changing Ideas Awards รางวัลไอเดียเปลี่ยนโลก
“World Changing Ideas Awards” คือรางวัลที่จัดขึ้นโดย Fast Company สื่อด้านเทคโนโลยีและธุรกิจชั้นนำของโลก รางวัลนี้จะมีประกาศขึ้นทุก ๆ ปี เพื่อยกย่ององค์กรที่อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมที่ “เปลี่ยนโลก” และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อทำให้โลกที่เราอยู่นั้นปลอดภัย ยั่งยืน และเท่าเทียมมากขึ้น
รางวัล World Changing Ideas Awards มีกระบวนการคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลอย่างเข้มข้น โดยในปีนี้มีนวัตกรรมส่งเข้าประกวดกว่า 1,500 โปรเจกต์จากทั่วโลก ซึ่งคณะกรรมการจะพิจารณาคัดเลือกจนเหลือเพียง 100 โปรเจกต์เท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “Future You” ของ KBTG โดยได้รับเลือกในสาขา Academic Excellence ซึ่งเป็นสาขาที่มอบให้กับงานวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับมหาวิทยาลัย และสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง

คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่ม KBTG กล่าวถึงความสำคัญของรางวัลนี้ว่า โปรเจกต์ Future You ได้รับรางวัล World Changing Idea จาก Fast Company ซึ่งเป็นสื่อระดับท็อปของโลกด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และดีไซน์ การได้รับรางวัลนี้ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาก
“ผมว่าประเทศไทยตอนนี้เราต้องการข่าวดีมาก ๆ รางวัลนี้ทำให้เห็นว่าศักยภาพด้านเทคโนโลยีของคนไทยสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่และได้รับการยอมรับ ทำให้เห็นว่าวันนี้ KBTG สามารถผลักดันขีดจำกัดในเรื่องของ AI ของคนไทย จนคว้ารางวัลระดับโลกมาได้” คุณกระทิงเล่า
จาก “โดราเอม่อน” สู่ Future You”
ถามว่าโปรเจกต์ “Future You” คืออะไร? อธิบายง่าย ๆ ว่ามันคือแพลตฟอร์ม AI ที่ให้ผู้ใช้งานได้สนทนากับ “ฝาแฝดดิจิทัล” (Digital Twin) ของตัวเองในอนาคต เราสามารถให้ข้อมูลพื้นฐาน เป้าหมายชีวิตของเราให้ AI สร้างตัวเราเองตอนที่เราอายุ 60 ปี โดยเราสามารถคุยกับตัวเราเองคนนั้นในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้เราเดินหน้าสู่เป้าหมายและประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ซึ่งเราสามารถถามได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องส่วนตัว เรื่องการเรียน เรื่องสุขภาพไปถึงการใช้ชีวิตรูปแบบต่าง ๆ ได้
Future You พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง KBTG กับสถาบันชั้นนำระดับโลกอย่าง MIT, UCLA และ Harvard University โดยทีมผู้สร้างนำโดย ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร นักวิจัยชาวไทยคนแรก ในสาขา Fluid Interfaces คนแรกที่ MIT Media Lab และ KBTG Fellow บอกเอาไว้ว่าเป็นงานที่ได้แรงบันดาลใจจากการมองเห็นอนาคตเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในปัจจุบันให้ดีขึ้น
ดร.พัทน์ อธิบายถึงจุดเริ่มต้นของแนวคิดของ Future You ว่า “ไอเดียของโปรเจกต์นี้เริ่มต้นจากเรื่องราวของโดราเอม่อนที่สามารถพาโนบิตะได้นั่งไทม์แมชชีนไปเห็นตัวเองในอนาคตได้ ทำให้เกิดแนวคิดว่าถ้าเรามีเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราเห็นอนาคตได้ มันคงจะดีมาก ที่จะทำให้เรากลับมาเปลี่ยนแปลงปัจจุบันเพื่อให้อนาคตดีขึ้นได้”
เทคโนโลยี AI พลิกข้อจำกัดสู่จุดแข็งด้วยจิตวิญญาณตะวันออก
งานวิจัย “Future You” ที่นำโดยดร.พัทน์ ใช้เวลาพัฒนามาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้ก็ได้รับความสนใจในระดับนานาชาติมากมาย เช่นได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติอย่าง IEEE Frontiers in Education ซึ่งเป็นการนำเสนอในมุมมองของการศึกษาที่ช่วยให้คนคิดถึงอนาคตมากขึ้น มีการทดสอบกับผู้ใช้งานจริงและแสดงให้เห็นว่า AI Digital Twin ที่พัฒนาขึ้นสามารถเพิ่ม “Future Self-Continuity” หรือความต่อเนื่องของตัวเองในอนาคต ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และยังสามารถลดความวิตกกังวลหรือความเครียดของผู้ใช้งานได้ด้วย
ก่อนหน้าที่จะคว้ารางวัล “World Changing Ideas Awards” โปรเจกต์ “Future You” ยังได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Guardian, Wall Street Journal, Daily Mail, Wired Magazine, BBC และ Popular Science ความสำเร็จได้รับการยอมรับมากมายขนาดนี้ทำให้มีผู้เข้าใช้งานในกว่า 190 ประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว
ดร.พัทน์ อธิบายว่าเบื้องหลังของ Future You มี AI หลายโมเดลอยู่เบื้องหลัง และเป็นการพลิกข้อจำกัด เรื่อง Hallucination ของ AI ปรับมาสู่ Guided Hallucination ที่ช่วยจินตนาการอนาคตให้กับผู้ใช้งานได้
“โมเดลของเราไม่ได้เน้นความแม่นยำเพราะแน่นอนว่าไม่มีใครรู้อนาคต แต่เราเปลี่ยนข้อจำกัดเรื่อง Hallucination ให้กลายเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คนสามารถจินตนาการอนาคตในแบบต่าง ๆ ได้ และหากอนาคตที่สร้างขึ้นมาไม่เป็นที่ต้องการ ผู้ใช้งานก็สามารถลองกลับไปเปลี่ยนพฤติกรรมและดูว่าอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรได้” ดร.พัทน์ เล่า
นอกจากนี้ ดร.พัทน์ ยังเล่าถึงข้อสังเกตที่น่าสนใจเบื้องหลัง Future You เอาไว้ด้วยว่ามีแนวคิด “ปรัชญาในสไตล์ตะวันออก” แฝงอยู่และไม่เหมือนเทคโนโลยี AI ของโลกตะวันตก “ทุกวันนี้คนพูดถึง AI กับ Productivity หรือการช่วยคนทำงานเร็วขึ้น แต่ Future You สนใจ AI กับการเติบโตของความเป็นมนุษย์ เราเรียกว่า AI for Human Flourishing คือการที่เทคโนโลยีทำให้คนมีความเป็นมนุษย์ที่แบ่งบานมากขึ้น ให้พวกเขาได้สะท้อนตัวตนมากขึ้น”
Future You กำลังต่อยอดไปไกล

แม้ Future You จะเริ่มต้นจากการเป็นงานวิจัยต้นแบบ (Research Prototype) แต่ “Future You” เองก็ถูกนำไปประยุกต์ใช้แล้วหลากหลายรูปแบบ ซึ่ง ดร.มนต์ชัย เลิศสุทธิวงค์, Deputy Managing Director, and Head of AI R&D, KBTG ก็พูดถึงการต่อยอดในประเทศไทยหลายด้านเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็น “ด้านการศึกษา” ที่ KBTG มีแผนที่จะร่วมมือกับ “กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา” (กสศ.) เพื่อนำแนวคิดของ “Future You” ไปช่วยสร้าง Growth Mindset และแรงจูงใจให้กับนักเรียนมัธยมต้น ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียนด้อยโอกาสกว่า 300,000 คนในประเทศไทย
ใน “ด้านการแพทย์และสุขภาพจิต” KBTG มีการเสนอแนวคิด “Future You” ให้กับคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อใช้ในการวิจัยด้าน “สุขภาพจิต” โดยหวังว่าจะช่วยเป็นช่องทางให้ผู้ป่วยสามารถพูดคุยและได้รับคำแนะนำในเวลาที่ต้องการได้ทันที
นอกจากนี้ Future You ยังมีความร่วมมือกับ Harvard Medical School ในการพัฒนาแพลทฟอร์มเพื่อใช้ในการบำบัดผู้ป่วยด้วยซึ่ง ดร.พัทน์ เล่าว่า ผล Pilot ค่อนข้างเป็นบวกจากการสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วยซึ่งก็พบว่าแม้แต่ผู้ป่วยอายุ 50-60 ปี ก็ยังต้องการเห็นตัวเองในอนาคตเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาต่อเนื่อง เช่น เคมีบำบัดรักษามะเร็ง โดย Future You สามารถทำให้ผู้ป่วยมีมุมมองต่ออนาคตที่ดี เรียกว่ามีผลจิตวิทยามาก ๆ เลยทีเดียว
ในมุมของ KBTG เอง ก็อาจนำเทคโนโลยีของ “Future You” มาช่วยในด้านการวางแผนการเงินและการวางแผนชีวิตของผู้ใช้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานเห็นความสำคัญของการวางแผนระยะยาว การเก็บเงิน หรือการลงทุนได้เช่นกัน
KBTG แนวหน้าของไทยในโลก AI
ความสำเร็จนี้ไม่ใช่แค่การยอมรับในเชิงไอเดียและผลลัพธ์ของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ KBTG ยังได้รับการยอมรับไปพร้อมๆกันด้วยโดย คุณกระทิงยังได้รับเชิญจาก Fast Company ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก Fast Company Global Impact Council สภาที่รวมผู้นำจากองค์กรที่ได้รับรางวัล World Changing Ideas Awards เพื่อมาพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ และเก็บเกี่ยวข้อมูลเชิงลึก โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและโลกให้ดีขึ้น
คุณกระทิง เล่าว่า การได้เข้าไปอยู่ในสภานี้ทำให้ KBTG ได้อยู่ตรงจุดที่เป็นแนวหน้าที่สุดของเทคโนโลยี AI รวมไปถึงเรื่อง AI Governance ในระดับโลก ซึ่งช่วยให้ KBTG สามารถมีส่วนร่วมและรู้ก่อนใครเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแล AI ในระดับโลก และยังสามารถนำความรู้นี้มาช่วยประเทศไทยในการกำหนดกรอบนโยบาย AI ได้อย่างตรงจุด
ความสำเร็จของ “Future You” กับการได้เข้าไปอยู่ทำเนียบ World Changing Ideas Awards ของ Fast Company ไม่ได้เป็นเพียงความภาคภูมิใจของ KBTG แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบุคลากรและองค์กรในประเทศไทย ที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดด้านเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกได้จริงๆ
คุณกระทิงปิดท้ายว่า การที่ KBTG ก้าวไปอยู่ในพื้นที่ปลายสุดของเทคโนโลยี AI ระดับโลกนอกจากจะเป็นประโยชน์กับองค์กรในแง่ผู้นำเทคโนโลยีสามารถทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับโลกได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยยกระดับ Ecosystem ของประเทศไทยให้แข็งแกร่งด้วย พร้อมกับย้ำว่า KBTG ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของไทยไม่ได้มีหน้าที่แค่ส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจ แต่คือการ “push the boundary” ผลักดันขอบเขตของความเป็นไปได้ของประเทศไทยอยู่เสมอ
#KBTG #MIT #MITMediaLab #FutureYou #Fastcompany #FCWorldChangingIdeas #BeyondBanking