ในยุคดิจิทัลที่ลูกค้ามีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลมากขึ้น การที่ธุรกิจค้าปลีกสามารถสร้างความเชื่อมั่นและแสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างโปร่งใสจึงเป็นเรื่องสำคัญ โลตัสได้เล็งเห็นถึงความท้าทายนี้และตอบสนองด้วยการเปิดตัวกิจกรรม My Lotus’s Fest 2025 ช้อปสตอรี่ เปิดบันทึกความคุ้ม “My Shop Story” ซึ่งเปลี่ยนข้อมูลที่ลูกค้ามอบให้กลับไปเป็นประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ลูกค้าเอง
5 กลยุทธ์หลักสำหรับปี 2025
โลตัสได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2025 ผ่าน 5 กลยุทธ์หลักที่มุ่งเน้นการส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าสมาชิกกว่า 18 ล้านคนทั่วประเทศ โดยในครึ่งปีที่ผ่านมามีการช้อปที่ร้านกว่า 784 ล้านครั้ง จากทั้งโลตัสและโลตัสโกเฟรช โดยผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ที่น่าสนใจ ดังนี้
- SAVE – การส่งมอบความคุ้มค่า: เป็นการส่งมอบความประหยัดผ่านส่วนลด คูปอง และระบบคอยน์ มูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท
- SMART – การส่งมอบความสะดวกสบาย: สร้างสรรค์และพัฒนาประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ชาญฉลาดให้แก่ลูกค้า โดยมีการส่งมอบกว่า 13 ล้านออเดอร์ ครอบคลุม 734 อำเภอทั่วประเทศ
- HEALTH – การส่งเสริมสุขภาพ: ส่งมอบสุขภาพดีผ่านผลิตภัณฑ์อาหารผักผลไม้สดใหม่ โดยเฉพาะแอปเปิ้ลที่มียอดขายกว่า 18 ล้านลูก
- CARE – การดูแลสัตว์เลี้ยง: ด้วยเทรนด์ Pet Parents ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น โลตัสจึงส่งมอบความสุขและการดูแลสัตว์เลี้ยงกว่า 1.3 ล้านตัวในครัวเรือนของลูกค้า
- B2B – การสนับสนุนธุรกิจ: สนับสนุนการเติบโตของผู้ประกอบการด้วยการจัดหาสินค้าคุณภาพกว่า 19,000 ตัน ในราคาต้นทุนที่เหมาะสมให้แก่ร้านค้าและร้านอาหาร
สุดล้ำด้วยการนำนวัตกรรม AI มาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า
มากไปกว่านั้นสำหรับกิจกรรม “ช้อปสตอรี่ เปิดบันทึกความคุ้ม” โลตัสยังได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการช้อปปิ้งและระดับความคุ้มค่าที่ได้รับ, ความถี่ในการเยือนร้านค้าและมูลค่าส่วนลดที่ได้รับ, ประเภทสินค้าที่มีความชื่นชอบ รวมไปถึงการจำแนกประเภทลูกค้า เช่น นักช้อปมือใหม่ สายเฮลตี้เซฟเวอร์ หรือกูรูนักช้อปนอกจากนี้ ระบบยังให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการช้อปปิ้งทั้งในด้าน SAVE เพื่อให้ประหยัดกว่าเดิม, SMART เพื่อให้ดีกว่าเดิม และ HEALTHY เพื่อให้มีสุขภาพดีกว่าเดิมด้วย
การวิเคราะห์กลยุทธ์การใช้ข้อมูลของโลตัส: การสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่น
การเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นจุดแข็งสำคัญของกลยุทธ์นี้ โลตัสได้สร้างกรอบความคิดใหม่โดยการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าข้อมูลของลูกค้าถูกนำมาใช้เพื่อสร้างประโยชน์โดยตรงให้แก่เจ้าของข้อมูล ผ่านการสร้างโปรไฟล์การช้อปปิ้งที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์จริง แทนที่จะเป็นเพียงการเก็บรวบรวมข้อมูลในฐานข้อมูลเท่านั้น
นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยี AI เป็นเครื่องมือสื่อสาร ช่วยลดความรู้สึกที่ไม่พึงประสงค์ต่อการวิเคราะห์พฤติกรรม และเปลี่ยนให้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวด้านการช้อปปิ้งที่คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำ ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ระดับพรีเมียมแม้ในการช้อปปิ้งทั่วไป กลยุทธ์นี้เปลี่ยน “การเก็บข้อมูล” ให้กลายเป็น “การให้บริการเพิ่มมูลค่า” ที่ลูกค้าต้องการและชื่นชม
สร้างโปรแกรมตอบแทนและสิทธิประโยชน์
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการมัดใจลูกค้าและขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ทางแบรนด์ยังได้เตรียมคูปองส่วนลดหลากหลายประเภทสำหรับการช้อปปิ้งในครึ่งปีหลัง ไม่ว่าจะเป็น คูปองสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เพื่อเสริมความมั่นใจและความสวยงาม คูปองอาหารเพื่อสุขภาพและการควบคุมน้ำหนัก รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับวิธีการเข้าร่วมกิจกรรม ลูกค้าสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้ แอปพลิเคชันไลน์ โลตัส หรือ โลตัสโกเฟรช และ เว็บไซต์ https://my.lotuss.com/promotions/myshopstory
รวมถึง โปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิกมายโลตัส มีโปรโมชั่นพิเศษ “สมัครฟรี รับฟิน 3 ต่อ” ดังนี้
- สิทธิประโยชน์ที่ 1: คูปองส่วนลดรวมมูลค่า 600 บาท
- สิทธิประโยชน์ที่ 2: ไอศกรีม Soft Serve ฟรี มูลค่า 8 บาท
- สิทธิประโยชน์ที่ 3: 20 คอยน์ฟรี เมื่อมีการช้อปปิ้ง 20 บาทขึ้นไป (เงื่อนไข: สมัครสมาชิกและทำการซื้อครั้งแรกในวันเดียวกัน)
ระยะเวลาโปรโมชั่น: 26 มิถุนายน 2568 – 20 สิงหาคม 2568 นี้เท่านั้น
ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่า กลยุทธ์ของโลตัสสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้าแสดงให้เห็นถึงแนวทางใหม่ในการสร้างความเชื่อมั่นและความโปร่งใสในยุคดิจิทัล เมื่อธุรกิจสามารถแสดงให้เห็นถึงการให้ประโยชน์จริงจากข้อมูลที่ได้รับ ลูกค้าก็พร้อมที่จะแบ่งปันข้อมูลเพื่อรับประสบการณ์ที่ดีขึ้นด้วยอย่างแน่นอน