𝕏 แพล็ตฟอร์มที่ไม่เคยตกยุคและเป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่มาโดยตลอด และยังได้ชื่อว่าโซเชียลมีเดียที่เป็นที่สุดแห่งคอมมูนิตี้ของ “ชาวด้อม” หรือจะเรียกว่าแฟนคลับ ของศิลปิน ดารา คนดัง ฯลฯ ซึ่งต้องบอกว่า 𝕏 คือโซเชียลมีเดีย ต้นตำรับของแพลตฟอร์มที่มีคอมมูนิตี้แฟนด้อมทรงพลังมากที่สุด ฐานประชากรในแฟนด้อมบน 𝕏 มีมากกว่าที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้อมศิลปินเกาหลี ด้อมคู่จิ้นทั้งไทยและต่างประเทศ ฯลฯ และยังเป็นที่ทราบกันดีว่าหากจะติดตามความเคลื่อนไหวของ ศิลปินคนดังคนไหน หรืออยากรู้ความเคลื่อนไหวของด้อมไหน ต้องมาที่ 𝕏 ก่อนเป็นลำดับแรก
ผนวกกับที่ในปัจจุบันการทำการตลาดที่เรียกว่า ‘Fandom Marketing’ มาแรงมาก ทำเมื่อไหร่ก็ปังเมื่อนั้น และอาจมีเพียง 𝕏 เท่านั้นด้วย ที่มอบพลังให้กับการทำ ‘Fandom Marketing’ ได้อย่างเหนือชั้นกว่าใคร ความพร้อมด้วยเครื่องมือ และ Solutions มากมายที่ 𝕏 ช่วยให้สามารถเจาะลึกเข้าถึงกลุ่มแฟนด้อมได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับเปลี่ยนพลังของแฟนด้อมช่วยให้แบรนด์ขายของและติดเทรนด์โลกได้อย่างง่ายดาย เพราะฉะนั้นแล้วเราลองมาดูกันให้ลึกเลยว่า 𝕏 ช่วยสร้างพลังธุรกิจและมาร์เก็ตติ้งผ่านกลยุทธ์ Fandom Marketing ได้อย่างไร
ทำความรู้จัก 𝕏 ในฐานะ ‘Global Town Square’
โซเชียลมีเดียคือสังคมออนไลน์ที่ผู้คนหลากหลายมารวมตัวกันแบ่งปันความคิดเห็นและประสบการณ์ แต่สำหรับ 𝕏 นั้นมีความพิเศษกว่าใคร โดยผู้คนทั่วโลกให้การยอมรับว่า 𝕏 คือ ‘Global Town Square’ พื้นที่สาธารณะดิจิทัลที่ผู้คนทั่วโลกสามารถมารวมตัว แบ่งปัน และมีส่วนร่วมในการสนทนาได้ ดังนั้น ผู้คนบน 𝕏 จะไม่พลาดสิ่งที่กำลังเกิดและไวรัลในพื้นที่ของตนเองและทั่วโลก
มากไปกว่านั้น ในบริบทของแฟนด้อม 𝕏 ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วไป แต่เป็น ‘Global Town Square of Fandom’ ด้วย นั่นคือการเป็นพื้นที่ที่ให้แฟน ๆ ไม่ว่าจะเป็น T-POP, K-POP, คู่จิ้น BL(Boys Love) และ GL(Girls Love) ของภาพยนตร์ แฟนด้อมรายการโทรทัศน์ ดนตรี หนังสือ เกม และปรากฏการณ์ป็อปคัลเจอร์อื่นๆ มารวมตัวกันเพื่อสร้างความตื่นเต้น เฉลิมฉลอง ถกเถียง และเชื่อมต่อกันในสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ นั่นทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าร่วมกับฐานแฟนด้อมขนาดใหญ่ได้ พร้อมทั้งผสานเข้ากับช่วงเวลาและโมเมนต์สำคัญได้อย่างลงตัว
พลังแห่ง “แฟนด้อม” บน 𝕏 มากทั้งแพสชั่นและมันนี่
คำกล่าวข้างต้นไม่เกินจริง ยืนยันด้วยผลรีเสิร์ช ซึ่งมีข้อมูลระบุว่า แฟนด้อมที่ติดตามคนดังหรืออินฟลูเอ็นเซอร์ มีแนวโน้มที่จะใช้ 𝕏 มากกว่าโซเชียลมีเดียอื่นๆ มากถึง 45% เมื่อเทียบกับผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อความสนใจอื่นๆ ขณะที่โซเชียลมีเดียอื่นมีเพียง 4% เท่านั้น ที่มีความสนใจในคอมมูนิตี้ของแฟนด้อม
และหากพูดถึงการใช้จ่าย (Spending) ก็ต้องบอกว่า แฟนด้อมบน 𝕏 ยืนหนึ่ง โดยเฉพาะยูเซอร์ไทย สำหรับ ผู้ใช้ 𝕏 ชาวไทย (ซึ่งเป็นชาวด้อม) มากกว่า 1 ใน 3 อยู่ใน ‘กลุ่มผู้มีรายได้สูง’ และยังพบว่า 33% มีรายได้สูงกว่าผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วไป ขณะที่ผู้ใช้งานในแพลตฟอร์มอื่น มีเพียง 24% เท่านั้นที่มีการเพิ่มขึ้นในเซ็กเมนต์พรีเมียม
Insight ชาว 𝕏 อิทธิพลกับการตัดสินใจซื้อ
นอกจากนี้ เรายังพบว่า แฟนด้อมบน 𝕏 ชอบเป็น #คนไทยคนแรก โดยพบว่า 60% ชอบที่จะลองสิ่งใหม่เป็นคนแรกเสมอ เมื่อเทียบกับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วไป ในขณะที่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียอื่นๆ เป็นคนชอบลองของใหม่โดยเฉลี่ยเพียง 46% เท่านั้น
การตัดสินใจซื้อของ แฟนด้อมบน 𝕏 ก็ยังถูกป้ายยาได้ง่าย โดยพบว่า มากกว่า 68% มักจะตัดสินใจซื้อแบรนด์ที่พวกเขาเห็นโฆษณาทันที ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วไป
และอีกพฤติกรรมที่มีผลต่อการตัดสินใจที่น่าสนใจคือ พบว่า แฟนด้อมบน 𝕏 มีพฤติกรรม #ของดีบอกต่อ ถ้าพบกับสินค้าใหม่ผลิตภัณฑ์ใหม่ แฟนด้อมบน 𝕏 พร้อมที่จะบอกสิ่งนี้กับครอบครัวและเพื่อนฝูงมากถึง 55% เมื่อเทียบกับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วไป
รู้จัก 4 สุดยอด Fandom Marketing Solution ทรงพลังจาก 𝕏 ช่วยแบรนด์ขายของ พร้อมมัดใจชาวด้อม
หลังทำความรู้จักกับพฤติกรรมชาวด้อมบน 𝕏 แล้ว แต่ 𝕏 จะเป็นโซลูชั่นอะไร และเครื่องมืออะไรบ้าง ที่จะช่วยแบรนด์และนักการตลาดในการทำแคมเปญด้วยกลยุทธ์ Fandom Marketing เรามาดูกัน
#1 Fandom Takeover เปลี่ยน creative ที่หลากหลาย ให้เอาใจแฟนด้อม
สำหรับ Fandom Takeover แบบ Takeover Creative Switching คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเปลี่ยน creative โฆษณาได้ระหว่างวัน เพื่อนำเสนอ creative ที่หลากหลายและตรงใจ Fandom ในแต่ละช่วงเวลา ที่ถือได้ว่าโดดเด่นกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งมักจะมีแค่การแสดงผลแบบเดียวตลอดเวลา ซึ่งไม่สอดรับกับพฤติกรรมของแฟนด้อมที่ต้องการจะเห็น creative ที่มีรูปของศิลปินที่เขาชื่นชอบแบบหลากหลายใน
โมเมนต์ต่างๆ
อีกหนึ่งเคสจากความสำเร็จของ ICONSIAM ผู้ชนะรางวัลจาก 𝕏 โดย Thailand Social Awards ซึ่งทำแคมเปญโปรโมท “The Amazing Thailand Countdown 2025 at ICONSIAM” บนแพลตฟอร์ม 𝕏 โดยใช้กลยุทธ์ Trend Takeover+ และ Timeline Takeover ผนวกกับพลังของ Fandom Marketing สร้างการรับรู้และกระตุ้นความตื่นเต้นให้กับงานเคาท์ดาวน์ที่ไอคอนสยาม มีเป้าหมายให้ได้ 100% SOV (Share of Voice) สำหรับงาน พร้อมกับกระตุ้นให้ผู้ใช้ 𝕏 พูดถึงงานล่วงหน้า สร้างบรรยากาศแห่งความตื่นเต้น เชื่อมโยงผู้คนให้ติดตามและรับชมการแสดงสดผ่านแพลตฟอร์ม ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้ สามารถสร้างบทสนทนาได้มากกว่า 237,000+ บทสนทนาในเวลา 24 ชั่วโมง ได้ค่า Engagement สูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 12 เท่า ทำให้แคมเปญนี้สร้างให้ ICONSIAM กลายเป็น Destination หลักสำหรับการเฉลิมฉลองปีใหม่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์พร้อมความสำเร็จอย่างท่วมท้น
#2 Fandom Allowlisting เปลี่ยนคำชมของแฟนด้อม ให้กลายเป็นโฆษณาของแบรนด์
Fandom Allowlisting คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถคัดกรองและนำคำชื่นชม ความคิดเห็นเชิงบวก หรือการพูดถึงแบรนด์โดยธรรมชาติของ Fandom มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญโฆษณาได้ โดยการทำ whitelist หรือ allowlist ที่รวบรวมข้อความจากกลุ่มแฟนด้อมซึ่ง (ต้อง) ได้รับอนุญาตมาโปรโมทต่อ
และจุดนี้เองที่ทำให้ 𝕏 ได้เปรียบในการต่อยอด Fandom Marketing เพราะเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่เอื้อต่อการทำ Conversation Allowlisting ด้วยรูปแบบการสนทนาแบบเปิด เป็นพื้นที่ที่ให้แฟนด้อมแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ทำให้มีฐานข้อมูลความคิดเห็นที่เป็นธรรมชาติและหลากหลาย ระบบของ 𝕏 ยังสามารถทำการคัดกรองตามเงื่อนไขที่กำหนดได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นคำสำคัญ ข้อความเชิงบวก หรือแม้แต่การค้นหาจากผู้ใช้ที่มีอิทธิพลใน Fandom นั้นๆ ก็สามารถทำได้ด้วย
เคสหนึ่งที่น่าสนใจของแบรนด์เครื่องสำอางที่ร่วมงานกับศิลปิน K-pop สามารถใช้ Fandom Allowlisting เพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากแฟนๆ ที่ซื้อสินค้าและแชร์ประสบการณ์บวกบน 𝕏 โดยอัตโนมัติ จากนั้นนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาแสดงเป็นโฆษณาแบบ social proof ที่มีความน่าเชื่อถือสูงกว่าการโฆษณาโดยตรงจากแบรนด์ เพราะมาจากผู้ใช้จริงในกลุ่ม Fandom เดียวกัน
#3 Fandom Keyword Ads สร้าง conversion จากการค้นหาของ Fandom
Fandom Keyword Ads คือระบบโฆษณาที่แสดงผลตามคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับแฟนด้อมบน 𝕏 ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับศิลปินหรือแฟนด้อมที่สนใจได้อย่างตรงจุด โดยแสดงโฆษณาที่เชื่อมโยงกับคำค้นหาเหล่านั้นได้
สิ่งนี้สร้างความได้เปรียบอย่างไร เนื่องจากว่า 𝕏 มีการทำ Keyword Ads เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ Fandom มักใช้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับศิลปินแบบ real-time มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น โดยเฉพาะในช่วงที่มีกิจกรรมสำคัญ เช่น คอนเสิร์ต งานเปิดตัวอัลบั้ม หรือกระแสที่กำลังได้รับความนิยม ทำให้การโฆษณาผ่านคำค้นหาบน 𝕏 มีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความตั้งใจในการรับข้อมูล และพร้อมที่จะ convert มากกว่า
หนึ่งเคสจากการทำ Fandom Keyword Ads ได้แก่ แบรนด์แฟชั่นที่ออกคอลเลคชั่นพิเศษร่วมกับศิลปิน สามารถใช้ Fandom Keyword Ads เพื่อแสดงโฆษณาเมื่อแฟนๆ ค้นหาคำว่า “[ …… เป็นชื่อศิลปิน] outfit” หรือ ” …… เป็นชื่อศิลปิน] fashion” หรือแม้แต่ hashtag เฉพาะที่แฟนด้อมใช้ในการพูดถึงสไตล์การแต่งตัวของศิลปิน เท่านี้ก็สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในแฟชั่นและมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าในคอลเลคชั่นนั้นๆ เพิ่มขึ้นได้
#4 Fandom Special Features เซอร์ไพรส์แฟนด้อมได้มากกว่าด้วย Feature พิเศษ
Fandom Special Features คือฟีเจอร์พิเศษบน 𝕏 ที่แบรนด์สามารถใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและแปลกใหม่ให้กับแฟนด้อมได้ ประกอบด้วย Hashmoji (อิโมจิที่แสดงเมื่อใช้ hashtag เฉพาะ), Hashfetti (เอฟเฟกต์คอนเฟตติ ที่แสดงที่หน้า search เมื่อกดที่ hashtag) และ Custom Like (เปลี่ยนไอคอนกดไลค์เป็นรูปแบบพิเศษ)
ไฮไลท์ของฟีเจอร์นี้คือ เป็นฟีเจอร์ interactive ที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับพฤติกรรมของแฟนด้อมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ hashtag การกดไลค์ หรือการแชร์เนื้อหา เป็นการสร้างกิมมิกที่สุดจะเก๋ไก๋ทำให้บทสนทนาและการโพสต์บน 𝕏 ดูน่าสนุกและน่าสนใจ ส่งเสริมให้แบรนด์สามารถสร้างความตื่นเต้นและสร้างการมีส่วนร่วมได้โดยไม่รบกวนประสบการณ์การใช้งานปกติ อีกทั้งยังสามารถสร้างการรับรู้ในวงกว้างได้อย่างรวดเร็วผ่านการแชร์ของแฟนด้อมนั่นเอง
เคสที่น่าสนใจจากแบรนด์เครื่องดื่มที่สนับสนุนคอนเสิร์ตของศิลปิน มีการใช้ Hashmoji โดยสร้างอิโมจิพิเศษที่เป็นโลโก้ของแบรนด์ผสมกับสัญลักษณ์ของศิลปิน ซึ่งจะปรากฏเมื่อแฟนด้อมใช้ hashtag ของคอนเสิร์ต พร้อมกับใช้ Hashfetti ที่จะแสดงเอฟเฟกต์คอนเฟตติร่วงลงมาที่หน้า search เมื่อเหล่าแฟนด้อมกดดู Hashtag นั้นๆ หรือการทำ Custom Like เป็นสีประจำวงเมื่อกดไลค์โพสต์ที่มี hashtag นั้น และปรับเปลี่ยนปุ่มไลค์เป็นรูปสัญลักษณ์พิเศษที่เป็นการผสมผสานระหว่างแบรนด์และศิลปิน ทำให้แฟนด้อมรู้สึกสนุก ตื่นเต้น และอยากใช้งานฟีเจอร์พิเศษเหล่านี้มากขึ้น
2 Success case study จากแบรนด์ชั้นนำสร้างพลังความสำเร็จของ Fandom Marketing ผ่าน 𝕏
Maybelline_TH: แคมเปญ #TENxMAYBELLINE
หนึ่งในเคสความสำเร็จจากการใช้กลยุทธ์ Fandom Marketing บน 𝕏 ได้แก่ แคมเปญ “TENxMAYBELLINE” ซึ่งแบรนด์เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ได้แก่ “เตนล์–ชิตพล ลี้ชัยพรกุล” จาก NCT และ “WayV” ซึ่งใช้งานฟีเจอร์ของ 𝕏 มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Custom Notifications, Hashfetti, Hashmojis, Auction, Trend Takeover+ และ Timeline Takeover ร่วมกับรูปแบบโฆษณาที่สะดุดตา ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ พร้อมสร้างการจดจำแบรนด์ในระยะยาว
ความสำเร็จครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงพลังของแคมเปญรูปแบบ Interactive ที่จัดจังหวะเวลาได้อย่างเหมาะสมบน 𝕏 จนกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการสร้างการมีส่วนร่วมและการมองเห็นแบรนด์ แคมเปญนี้ไม่เพียงแค่บรรลุเป้าหมาย แต่ยังเกินความคาดหมาย และเป็นกรณีศึกษาที่ยอดเยี่ยมสำหรับการวางกลยุทธ์ทางการตลาดในอนาคต โดยโซลูชันที่ใช้ มีดังนี้
- Hashfetti Activation – ฟีเจอร์สุดพิเศษที่ช่วยสร้างกระแสไวรัล เมื่อ Maybelline ผสานแฮชแท็กของแบรนด์เข้ากับอีโมจิแบบโต้ตอบ สร้างการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลบนแพลตฟอร์ม
- Hashmojis – อีโมจิแบบกำหนดเองที่ปรากฏโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ผู้ใช้ทวีตด้วยแฮชแท็กของแคมเปญ ช่วยเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ และกระตุ้นให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น
- Trend Takeover+ และ Timeline Takeover – ตำแหน่งโฆษณาที่ช่วยให้แคมเปญปรากฏในพื้นที่สำคัญบน X ด้วยการดีไซน์ที่ดึงดูดสายตาและช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงสามารถดึงความสนใจของผู้ใช้และสร้างการจดจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
SRICHAND IN-SKIN: แคมเปญ #SRICHANDxBamBam
SRICHAND แบรนด์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชื่อดัง เปิดตัวแคมเปญ “SRICHAND IN-SKIN” ควบคู่กับการประกาศให้ “แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” ศิลปินระดับโลก เป็น Brand Ambassador คนแรก โดยความร่วมมือครั้งสำคัญดังกล่าวมุ่งเน้นการยกระดับภาพลักษณ์และขยายตัวตนของแบรนด์ในแพลตฟอร์ม 𝕏 พร้อมสร้างกระแสการรับรู้ (Massive Awareness) และเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายหลัก พร้อมกับการกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม (Participation) การพูดคุย (Conversations) และเพิ่ม Engagement ของแบรนด์
ทาง SRICHAND ตัดสินใจใช้ทั้ง Trend Takeover+ และ Timeline Takeover โดยในช่วงการเปิดตัวแคมเปญใช้ฟีเจอร์ Trend Takeover+ เพื่อครองพื้นที่ 100% SOV และเสริมกำลังสร้างบทสนทนาด้วย Timeline Takeover เพื่อให้แคมเปญโดดเด่นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีการใช้ฟีเจอร์ Hashmoji อีกด้วย โดยทางแบรนด์ได้สร้าง Hashmoji (อีโมจิพิเศษที่ปรากฏเมื่อทวีตด้วยแฮชแท็กนี้) เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมร่วมพูดคุยสนทนาผ่านแฮชแท็ก #SRICHANDxBamBam และจูงการมีส่วนร่วมกับแคมเปญมากยิ่งขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้ ปรากฏว่า
- ยอดการมองเห็น (Impressions) มากกว่า 42M รวมในเดือนธันวาคม 2024
- บทสนทนา (Conversations) มากกว่า 142K ภายใน 24 ชั่วโมง
- มียอดพูดถึง (ระหว่าง 1–31 ธันวาคม 2024) โดยผู้ใช้พูดถึงแฮชแท็กของแบรนด์ #SRICHANDxBamBam รวมกว่า 950,000 ครั้ง
- ในขณะที่ภาพรวมคอมเมนต์เป็นไปในเชิงบวก แสดงให้เห็นถึงความประทับใจของแฟนๆ ที่มีต่อการทำงานร่วมกันระหว่างแบรนด์กับศิลปินเป็นอย่างดี กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งหมดนี้น่าจะพอทำให้เห็นว่า หากตัดสินใจทำกลยุทธ์ Fandom Marketing แพล็ตฟอร์ม 𝕏 คือตัวเลือกที่ดีที่สุด เหมาะสมมากที่สุด ในการใช้เป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งตอบโจทย์และตรงเป้ามากกว่าที่จะทำไปบนสื่ออื่น ซึ่งอาจจะไม่แมทชิ่งกันเลย อีกทั้ง 𝕏 เองก็มีฟีเจอร์มากมายให้ได้เลือกใช้อย่างเหมาะสมตามแต่ละแคมเปญการตลาดที่คิดขึ้นมา เพราะฉะนั้นแล้วการวางกลยุทธ์ที่ดีก็สร้างบนแพลตฟอร์มที่ใช่ด้วย ถึงจะช่วยส่งให้แคมเปญสำเร็จถึงปลายทางได้อย่างยอดเยี่ยม.
หากนักการตลาดที่สนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง Fandom Marketing Solutions บน แพล็ตฟอร์ม 𝕏 สามารถติดต่อทีมงาน 𝕏 ในประเทศไทยผ่านทีมงาน MediaDonuts (𝕏 Official Partner) ได้ที่
Email : marketing.th@mediadonuts.com
Facebook : https://www.facebook.com/mdbathailand
Linkedin : https://www.linkedin.com/company/mdba-thailand/