Loft เจาะกลุ่มคนวัยทำงานและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยหรือกลุ่มที่เรียกว่า Expat ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
ที่ผ่านมาร้านลอฟท์มีฐานสมาชิกประมาณ 30,000 ราย เพิ่มขึ้น 30% โดยฐานลูกค้ากว่า 80% เป็นลูกค้าชาวไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนและคนวัยทำงานตอนต้น มีการซื้อเฉลี่ยต่อครั้งอยู่ที่ 600 บาท ขณะที่กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติมีสัดส่วน 20% โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยว 15% กลุ่ม Expat 5%
ล่าสุดทำแคมเปญร่วมกับบัตรเครดิต JCB ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น จากนั้นจะขยายไปยังกลุ่ม Expat เชื้อชาติอื่นๆ ทั้งนี้นอกจากจะขยายลูกค้ากลุ่มใหม่แล้ว ลอฟท์ยังมีการสร้างแบรนด์ลอยัลตี้เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำมากขึ้น
Key success ของ Loft คือกการ renovate ร้าน การปรับ layout นำเสนอสินค้าและไอเดียแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ สำหรับในปีนี้ Loft มีการเพิ่มกลุ่มสินค้ากลุ่มใหม่คือ Neatness ซึ่งได้รับความนิยมในญี่ปุ่นและเป็นสินค้าขายดีอันดับที่ 1 ในร้าน Loft ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นสินค้าที่ดูแลให้ผู้บริโภคดูดี เช่น ถุงน่องใส่แล้วดูผอม หรืออุปกรณ์ในการนวดต่างๆ และยังมีสินค้าดูแลร่างกายภายนอกอื่นๆ ที่จะนำมาเสนอ ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มสินค้าประเภทคอสเมติกหรือเครื่องสำอางประทินผิว
ปัจจุบันร้านลอฟท์มีสินค้าจำหน่ายกว่า 50,000 รายการ แบ่งเป็น สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ 60% สินค้าภายในประเทศ 30% ส่วนที่เหลืออีก 10% เป็นสินค้าเฮาส์แบรนด์ของลอฟท์ ที่ใช้ชื่อว่า ซีไมล์ Zmile โดยผลประกอบการในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้ 25% สูงกว่าเป้าเล็กน้อย โดยมีลูกค้ามาใช้บริการวันละ 8,000-10,000 คน