Central Park โครงการใหญ่ใจกลางเมืองที่หลายคนจับตา เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 กันยายน 2568 ไม่ใช่เพียงแค่ศูนย์การค้าแห่งใหม่ แต่คือโครงการมิกซ์ยูสระดับโลกในนาม “Dusit Central Park” ด้วยมูลค่าโครงการรวมสูงถึง 46,000 ล้านบาท โดยภายในโครงการประกอบไปด้วยโรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัยและศูนย์การค้าไว้ในที่เดียว ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนทำเลที่เรียกได้ว่าเป็น Super Core CBD หรือใจกลางย่านธุรกิจที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ
แนวคิดโครงการสู่การ “สร้างชีวิต”
โดย คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของเซ็นทรัลพัฒนา ชี้ให้ภาพของ “เซ็นทรัล พาร์ค” อย่างชัดเจนไว้ว่า “ที่นี่ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด Here for All of You ซึ่งเป็นปรัชญาในการออกแบบพื้นที่สำหรับทุกคน ทุกเจเนอเรชัน จุดเด่นที่ทำให้เซ็นทรัล พาร์ค แตกต่างและน่าตื่นเต้นที่สุด คือการคืนพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่าน Roof Park หรือสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ถึง 7 ไร่ใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไทย”
สวนแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงต้นไม้ประดับอาคาร แต่ถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกับ “ปอดของกรุงเทพฯ” อย่างสวนลุมพินีได้อย่างลงตัว ช่วยให้ความรู้สึกถึงการใช้ชีวิตคนเมืองที่ไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากธรรมชาติอีกต่อไป ทั้งทำงาน ช้อปปิ้ง ทานข้าว และหลบหลีกความวุ่นวายไปนั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้ได้ทันที
ในด้านสถาปัตยกรรม ตัวอาคารยังคงรักษาเรื่องราวและความทรงจำของพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้เอาไว้ โดยเฉพาะการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกของโรงแรมดุสิตธานีเดิม ผสานเข้ากับความทันสมัยด้วยจอ LED ดิจิทัลทรงโค้งขนาดยักษ์กว่า 518 ตารางเมตร ที่สามารถแสดงผลงานศิลปะแบบ 3D ได้ กลายเป็นจุดนัดพบและจุดถ่ายรูปแห่งใหม่ที่ดึงดูดสายตาผู้คนนับล้านคู่ต่อวัน
“กินอะไรดี?” คำถามที่มีหลากหลายคำตอบ
นอกจากความโดดเด่นด้วยสวนลอยฟ้าแล้ว เซ็นทรัล พาร์ค ยังตั้งเป้าหมายสู่การเป็น “Culinary Landmark of Asia” หรือหมุดหมายด้านอาหารแห่งใหม่ของเอเชีย ที่ไม่ใช่แค่การรวบรวมร้านอาหารจำนวนมาก แต่เป็นการคัดสรรประสบการณ์การทานที่หลากหลายอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น
ร้านอาหารที่มาเปิดครั้งแรกในประเทศไทย (First-time in Thailand) สำหรับสายชิมที่ชอบลองของใหม่ที่จะได้ลิ้มรสร้านดังระดับโลกที่มาเปิดสาขาแรกในไทย ไม่ว่าจะเป็น KIWAMIYA ร้านเทปันยากิสเต็กวากิวต้นตำรับจากญี่ปุ่นที่หลายคนต้องบินไปต่อคิว, Super Matcha ชาเขียวพรีเมียมสุดฮิตจากเกาหลี, Long Jing อาหารจีนฟิวชันจากหางโจว หรือ โควไบ พรีเมียมชาบู โดยจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการ
ร้านดังในคอนเซปต์ร้านใหม่ กับหลายแบรนด์ที่คุ้นเคยกันดีที่จะมาเปิดตัวคอนเซปต์ร้านใหม่ที่ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน เช่น DOWNTOWN BY FRAN’S, MAGURO KAPPOU ที่ยกระดับร้านมากุโระไปอีกขั้น, หรือแม้แต่ Bar B Q Plaza และ Nose Tea ที่มาในรูปแบบพิเศษ กลุ่มร้านอาหารยักษ์ใหญ่ ที่พร้อมเปิดอาณาจักร อาทิ เครือไอเบอรี่กรุ๊ปจัดเต็มด้วยร้านอาหารไทยในบรรยากาศโรงน้ำชาอย่าง บุรามาลี, โต๊ะคิม, ทองสมิทธ์ และอื่นๆ อีกมากมาย
แหล่งรวม Michelin Guide และสตรีทฟู้ด อีกหนึ่งไฮไลต์สำหรับสายกินจะอยู่ที่ชั้น LG กับโซน Park Side Market ที่สร้างนิยามใหม่ของศูนย์อาหาร โดยรวบรวมร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำจาก Michelin Guide และร้านสตรีทฟู้ดเจ้าดังจากทั่วกรุงเทพฯ กว่า 70 ร้าน รวมแล้วกว่า 1,000 เมนู นอกจากนี้ยังมีโซนสำหรับคอกาแฟและของหวานโดยเฉพาะ ที่รวบรวมแบรนด์ตัวท็อปกว่า 50 แบรนด์มาไว้ด้วยกัน
ชูจุดเด่นไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างถึง 8 ชั้น
เพื่อให้ยังคงเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถเข้ามาใช้บริการได้ง่าย ไม่หลง เซ็นทรัล พาร์คจึงถูกออกแบบมาให้แต่ละชั้นมีคาแรกเตอร์และเรื่องราวที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หลากหลายของผู้คนและง่ายในการค้นหา โดยเริ่มจากชั้น LG โซน Parkside Market พื้นที่ของร้านอาหารที่เปิดตั้งแต่เช้า 8 โมงถึง 4 ทุ่ม รองรับนกที่ตื่นเช้า นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีโซน Take Home ที่รวมของอร่อยจากย่านดัง และร้านรวมสินค้าคราฟต์ของไทย
ชั้น G โซน Parkside Food Hall พื้นที่ต้อนรับที่เชื่อมต่อกับสวนด้านนอกที่เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารบรรยากาศดีที่นั่งได้ตลอดวัน พร้อมด้วย ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ แฟล็กชิปสโตร์โฉมใหม่ในสไตล์ Modern Thai Heritage ชั้น 1st โซน About Fashion สำหรับอัปเดตเทรนด์แฟชั่นและบิวตี้ พร้อมแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ (Prestige Cosmetic Brands) และร้านกาแฟดังที่ตั้งอยู่ตรงจุดเชื่อมต่อกับ BTS Skywalk
ชั้น 2nd โซน Fashion Playground พื้นที่ของคนรุ่นใหม่ที่รักการแต่งตัวและแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง พร้อมรวบรวมแบรนด์ยอดนิยมอย่าง LACOSTE, NIKE, UNIQLO และ POP MART สำหรับนักสะสมอาร์ตทอย ชั้น 3rd โซน Active Energy ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ใส่ใจสุขภาพ ด้วยแบรนด์เสื้อผ้าออกกำลังกาย (Activewear) และไลฟ์สไตล์แฟชั่น มีแบรนด์ที่มาเปิดครั้งแรกในไทยอย่าง ADIDAS KIDS และ ICEBREAKER
ชั้น 4th โซน Life Essentials รวบรวมทุกสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ Gadget และ IT จากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมบริการจากธนาคาร, สปาและศูนย์สุขภาพ ไปจนถึงร้านแว่นตาดีไซน์เก๋อย่าง IC! BERLIN ชั้น 5th โซน Parkside Eatery หนึ่งไฮไลต์กับร้านอาหารระดับพรีเมียมสำหรับมื้อพิเศษ ทั้งร้านที่เปิดครั้งแรกในไทยและร้านในตำนาน และชั้น 6th โซน The Glasshouse พื้นที่รับประทานอาหารบนดาดฟ้าที่มาพร้อมวิวพาโนรามิกสุดพิเศษ ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมนี้
เฉลิมฉลองการเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่
วันเปิดตัว 4 กันยายนนี้ เซ็นทรัล พาร์ค ได้เตรียมกิจกรรมพิเศษไว้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เสียงเพลงสนุกๆ จาก DJ Parkside, โชว์ดนตรี Soul และ R&B จาก Ardawan และวง The Misc. Strings ไฮไลต์พิเศษคือ Edible Exhibition หรือนิทรรศการศิลปะที่กินได้จริงครั้งแรก สร้างสรรค์โดย “มะเหมี่ยว กินเค้ก” ศิลปินนักทำเค้กชื่อดัง ร่วมด้วยตัวแทนคนรุ่นใหม่อย่าง ‘เจมมี่เจมส์’ และ ‘พราว อรณิชา’ ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจากวงดูโอ้หญิง LANDOKMAI และศิลปินอาร์แอนด์บี WIM
นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญ “Hello Neighbor!” ที่มอบส่วนลดพิเศษให้กับพนักงานออฟฟิศและผู้อยู่อาศัยในย่านโดยรอบ และโปรโมชันฉลองเปิดศูนย์ฯ ให้ได้ลุ้นรางวัลใหญ่ ทั้งรถยนต์ Mercedes-Benz C 350e AMG Dynamic, บัตรกำนัลห้องพักสุดหรูจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ และคะแนน The 1Card รวม 1,000,000 คะแนน
การเปิดตัวของ เซ็นทรัล พาร์ค เป็นการเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งที่ 43 ของเซ็นทรัลพัฒนา ที่พร้อมนำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ของการใช้ชีวิตในเมือง ที่มอบความสุขจากการความอร่อยทั่วทุกมุมโลก และความสงบของธรรมชาติ พร้อมแล้วที่จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม สัมผัสกับจังหวะชีวิตใหม่ที่ใจกลางเมือง
