สร้างความตระหนกไปทั่วโลก หลังสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจีนสูงถึง 145% ผลพวงจากการตั้งกำแพงภาษีดังกล่าวส่งผลให้จีนโต้กลับทั้งกำแพงภาษีและระงับการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเห็นผลทันทีเมื่อผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ ชิ้นส่วนหลักที่ประกอบอยู่ในอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อาจต้องสูญเสียเงินรวมจากผู้ผลิตทั้ง 3 รายในสหรัฐฯ มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปีจากการเรียกเก็บภาษีตามนโยบายประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
โดยที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ชิปรายใหญ่ 3 อันดับแรกของสหรัฐฯ อย่าง Applied Materials, Lam Research และ KLA คาดการณ์ว่า แต่ละบริษัทอาจต้องสูญเสียรายได้ราว 350 ล้านดอลลาร์ต่อปีจากนโยบายภาษีดังกล่าว ขณะที่ผู้ผลิตรายเล็กอย่าง Onto Innovation อาจต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนับสิบล้านดอลลาร์ ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตชิปส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน
ส่งผลให้ในเวลาต่อมารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรในกลุ่มสินค้าที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตชิป เพื่อลดแรกกดดันจากกลุ่มธุรกิจอิเลคทรอนิกส์ แต่เพื่อกระตุ้นให้มีการตั้งฐานการผลิตในสหรัฐฯ มากขึ้นตามนโยบายของทรัมป์ รัฐบาลจึงได้เริ่มสอบสวนการนำเข้าชิปเหล่านี้รวมถึงหาทางออกในการลดการพึ่งพาจีน รวมไปถึงการสอบสวนการนำเข้าแร่ธาตุสำคัญของสหรัฐฯ ทั้งหมด
โดยจะมีการศึกษากลไกของตลาดสำหรับแร่ธาตุที่สำคัญทั้งหมด รวมถึงโคบอลต์ นิกเกิล และแร่ธาตุหายาก 17 ชนิด เพื่อตรวจสอบอัตราภาษีที่เป็นไปได้โดยไม่กระทบต่อธุรกิจ
ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาสามารถสกัดและแปรรูปลิเธียมในปริมาณเพียงเล็กน้อย โดยมีเหมืองนิกเกิลเพียงแห่งเดียวแต่ไม่มีโรงหลอมนิกเกิลและไม่มีเหมืองหรือโรงกลั่นโคบอลต์ แม้จะมีเหมืองทองแดงหลายแห่ง แต่สหรัฐอเมริกามีโรงหลอมทองแดงเพียงสองแห่งเท่านั้นและต้องพึ่งพาประเทศอื่นในการแปรรูปทองแดง
โดยแร่ธาตุหายากที่จีนระงับการส่งออกถูกใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาวุธเพื่อการป้องกันประเทศ ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงาน และอิเล็กทรอนิกส์ ข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้จีนมีอำนาจเหนือสหรัฐฯ ผ่านแร่ธาตุและการแปรรูปเป็นอาวุธหลักในการโต้ตอบ
Source: Reuters (Tariff) , Reuters (Mineral)