เปิดกลยุทธ์ ลัมโบร์กินี เปลี่ยนผ่านสู่ “ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า” หลังเปิดตัว Lamborghini Revuelto รถ “ปลั๊กอินไฮบริด” รุ่นแรกในไทย

  • 425
  •  
  •  
  •  
  •  

แบรนด์ “ลัมโบร์กินี” (Lumborghini) เป็นแบรนด์รถยนต์ซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี เดินทางในตลาดด้วยความสำเร็จมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 1963 นับจนถึงปีนี้ก็ครบรอบ 60 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในเวลานี้ที่โลกกำลังเดินหน้าสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก้าวไปสู่เป้า Net Zero ในปี 2050 นั่นจึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ค่ายรถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่มีสเน่ห์ที่สมรรถนะและเสียงของเครื่องยนต์สันดาบที่เร้าใจผู้ขับขี่ ดังนั้นลัมโบร์กินีจึงจำเป้นต้องเปลี่ยนผ่านไปในเส้นทางนี้เช่นกัน และ ลัมโบร์กินี ก็ได้เตรียมกลยุทธ์ที่จะก้าวไปสู่จุดนั้นแล้ว

ลัมโบร์กินี ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง

ก่อนจะไปถึงแนวทางการเปลี่ยนผ่านปัจจุบันลัมโบร์กินี ยังคงมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของยอดขายและผลประกอบการ โดยในไตรมาสแรกของปี 2023 นี้ทำยอดขายได้สูงทำสถิติที่ 2,623 คันเพิ่มขึ้น 3% รายได้เพิ่มขึ้น 22.8% และกำไรมีสัดส่วนถึง 35.7% เพิ่มขึ้น 5.7 จุด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 และหากพูดถึงตลาดในเอเชียนับย้อนไป 5 ปีตลาดรถซูเปอร์คาร์ในภูมิภาคนี้เติบโตขึ้นถึง 40% และยังสามารถเติบโตต่อไปได้อีก

คุณฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี เล่าว่าเหตุผลในการผลักดันความสำเร็จคือ ผลิตภัณฑ์อย่าง “ลัมโบร์กินี ฮูราคาน” (Lamborghini Huracan) และ “ลัมโบร์กินี อูรุส” (Lamborghini Urus) เป็นสองรุ่นที่ขายได้ดีและ Sold Out ไปแล้วโดยเฉพาะ “อูรุส” ซูเปอร์เอสยูวี ที่ 70% ของลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นนี้เป็นลูกค้าใหม่ เหตุผลที่สองคือตัว เครื่องยนต์ V12 ก็ได้รับการตอบรับจากตลาดดีมาก และในเรื่องของกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทำให้ลูกค้าสามารถ Personalize ทุกอย่างได้ตามความต้องการ โดยคุณฟรานเชสโก ระบุว่ายอดขายลัมโบร์กินี เติบโตมาโดยตลอดแม้จะเป็นช่วงโควิด ที่ยอดไม่ลดลงแต่กลับกันกลับมียอดขายเพิ่มขึ้น

เปิดพรมแดนใหม่สู่พลังงานไฟฟ้า

กลับมาที่กลยุทธ์การเปลี่ยนผ่าน ลัมโบร์กินี เริ่มต้นกระบวนการ Hybridization หรือการเชื่อมโยงขุมพลังเครื่องยนต์สันดาบเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการแล้วด้วยการเปิดตัว “ลัมโบร์กินี เรวูเอลโต” (Lamborghini Revuelto) เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมาซึ่ง “เรวูเอลโต” นับเป็นรถซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์ลัมโบร์กินี ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% ในอนาคต

สำหรับ “ลัมโบร์กินี เรวูเอลโต” ซูเปอร์คาร์ขุมพลัง HPEV ศัพท์ใหม่ที่มาแทนที่ PHEV ย่อมาจาก High Performance Electrified Vehicle เป็นซูเปอร์คาร์ระดับเรือธงรุ่นใหม่เป็นโมเดลที่ 6 ของซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์ V12 สามารถเค้นพละกำลังสูงสุดได้ถึง 1,015 แรงม้า จากการผสานการทำงานทั้งเครื่องยนต์ V12 และมอเตอร์ไฟฟ้าสามตัวให้อัตราเร่งจาก 0–98 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที และไต่ความเร็วสูงถึง 200 กม./ชม. ในเวลาน้อยกว่า 7 วินาที และไต่ถึงความเร็วสูงสุดซึ่งถูกจำกัดไว้ที่ 350 กม./ชม

ลัมโบร์กินี เรวูเอลโต ยังเป็นซูเปอร์คาร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวที่นอกจากช่วยรีดแรงม้าเพิ่มได้แล้วยังสามารถขับในโหมด City โหมดไฟฟ้าล้วนสำหรับขับในเมืองไร้มลพิษไร้เสียงรบกวนได้ระยะทางราว 10 กม./ชาร์จ และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 3.8 kWh กลับจนเต็มด้วยระบบเบรค regeneration ได้ด้วยเวลาเพียง 6 นาที (เสียบปลั๊กชาร์จเต็มใน 30 นาที) โดย ลัมโบร์กินี เรวูเอลโต เปิดราคาในไทยที่ 47.49 ล้านบาท

กระบวนการ Hybridization สู่ Electrification

คุณฟรานเชสโก้ ระบุว่า ลัมโบร์กินี เตรียมการเปลี่ยนผ่านไปตามหมุดหมายแบบเป็นขั้นตอน โดยเวลานี้อยู่ในช่วงของการ Hybridization คือการเปลี่ยนรถยนต์ทุกรุ่นของแบรนด์ให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในสิ้นปี 2024 ซึ่งหมายถึงการที่รถลัมโบร์กินีทุกรุ่นจะพัฒนาโดยมีการใช้พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเป็นส่วนประกอบเริ่มจากในปี 2023 นี้ที่เปลี่ยนผ่านจาก “ลัมโบร์กินี อาเวนทาดอร์” ไปสู่ “ลัมโบร์กินี เรวูเอลโต” ต่อไปในปี 2024 ก็จะเปลี่ยนผ่าน “ลัมโบร์กินี ฮูราคาน” และ “ลัมโบร์กินี อูรุส” ด้วยเช่นกัน ก่อนที่ในปี 2025 รถทุกรุ่นจะเป็นไฮบริดทั้งหมด

หลังจากนั้นในปี 2028 ลัมโบร์กินี จะเปิดตัวรถซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรก เรียกว่าเข้าสู่กระบวนการ Electrification คือการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าเพื่อตอบโจทย์การลดมลภาวะ ก่อนที่ในช่วงปี 2030-2035 จะพิจารณาตามสถานการณ์ว่ากฎกติกาในแต่ละประเทศทั่วโลกจะเปิดทางให้กับรถเครื่องยนต์สันดาบมากน้อยแค่ไหนก็จะพิจารณาถึงสัดส่วนกันอีกครั้ง

ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี

กระแสตอบรับ “ลัมโบร์กินี เรวูเอลโต้” ดีมาก

คุณฟรานเชสโก้ ระบุว่ากลยุทธ์ในการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาบมาสู่ HPEV นั้นได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าเนื่องจากยังคงเอกลักษณ์เครื่องยนต์ V12 ปราศจากเทอร์โบเอาไว้มาผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าได้นับว่าเป็นความสำเร็จในขั้นแรก โดยเฉพาะยอดจองรถนั้นยาวไปจนถึงปี 2025 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า 100% ไม่ใช่เรื่องง่าย

การเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นซูปเปอร์คาร์ไฟฟ้าล้วนที่ยังคงเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินีนั้น คุณฟรานเชสโก้ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ยืนยันว่ารถลัมโบร์กินีไฟฟ้าล้วนจะต้องคงเอกลักษณ์สำคัญเอาไว้จนคนที่ขึ้นไม่ขับไม่รู้ว่ากำลังขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% สิ่งสำคัญในการพิจารณาก็คือเรื่องของ “สมรรถนะ” และ ”การควบคุม” ที่ต้องเร้าใจ ในเรื่องนี้ลัมโบร์กินีก็ต้องปรับน้ำหนักของตัวรถให้เหมาะสม และต้องหาวิธีการเพื่อให้รถมี “เสียง” ที่เร้าใจระหว่างการขับขี่เพื่อทำให้คนขับกระตือรือร้นแต่ก็ยอมรับว่าอาจจะทำให้เสียงเหมือนเครื่องยนต์คงเป็นไปได้ยาก ซึ่งในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน Hybridification นี้ก็จะเป็นอีกช่วงเวลาที่จะได้ประเมินถึงความท้าทายเหล่านี้ต่อไป


  • 425
  •  
  •  
  •  
  •