UNIQLO ขอเปลี่ยนชุดความคิด “เสื้อตัวในแบบไหนก็เหมือนกัน” ท้าผู้บริโภคให้ใส่เพื่อสัมผัสความต่าง

  • 16.9K
  •  
  •  
  •  
  •  

[บทความนี้เป็น Advertorial]

ท่ามกลางตลาดแฟชั่นที่กำลังเติบโต และมีการแข่งขันที่ดุเดือด เหตุใด UNIQLO แบรนด์เสื้อผ้าที่ดูจะสวมใส่สบาย แฟชั่นไม่จัดจ้านหวือหวา ถึงเป็นที่นิยม และกินพื้นที่การตลาดได้กว้างขนาดนี้ “เสื้อผ้าที่ดีต้องมีนวัตกรรม” ดูจะเป็นคำที่เหมาะสมกับแบรนด์ UNIQLO ที่สุด เพราะทุกวันนี้ผู้คนเลือกซื้อเสื้อผ้าจากนวัตกรรมและฟังก์ชั่นการใช้งานมาเป็นอันดับต้นๆ สำหรับหน้าร้อนนี้เราขอพูดถึง AIRism เสื้อซับในที่เป็น อีกหนึ่งนวัตกรรมของทางแบรนด์ เพราะด้วยการเป็นเสื้อซับในที่คิดมาครบ ตอบโจทย์การสวมใส่ในชีวิตประจำวัน แต่ทั้งๆ ที่ตอบโจทย์ และมีคุณภาพจริง เหตุใดคนส่วนมากถึงยังคงใส่เสื้อซับในแบบเดิมๆ?

จุดแข็งและคุณสมบัติของ airism ที่เหนือกว่าคู่แข่ง

AIRism เสื้อตัวใน หรือ เสื้อซับในที่มีคุณภาพสูง คิดฟังก์ชั่นมาเพื่อการใช้ชีวิตประจำวัน และแก้ทุกปัญหาของเสื้อซับในในปัจจุบันได้จริง ด้วย 4 คุณสมบัติ ที่ถือเป็นจุดแข็ง และทำให้ AIRism เป็นเสื้อซับในที่แตกต่างจากเสื้อซับในทั่วๆ ไป คือ

  1. “Dry” แห้งเร็ว ในขณะที่ดูดซับเหงื่อและความชื้นได้ดีกว่า
  2. “Cool” ระบายความร้อนดี ทำให้รู้สึกเย็นเวลาสวมใส่
  3. “Smooth” เนื้อผ้ามีความนุ่มลื่น ใส่สบาย ไม่ระคายเคืองผิว
  4. “Anti-Odor” ช่วยระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์
ทัศนคติ และ ความเคยชิน กำแพงสูงของ UNIQLO ที่ต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้

ความท้าทายสุดหินของ UNIQLO ครั้งนี้ ไม่ได้แค่อยู่ที่จะทำให้ AIRism มียอดขายสูงขึ้นไปอีกได้อย่างไร หากแต่เป็นการทะลาย “ทัศนคติ” และ “ความเคยชิน” ของคนไทยที่มีต่อเสื้อซับในที่ว่า การใส่เสื้อซับในทำให้อึดอัดและร้อน รวมถึงเสื้อซับในใส่ไว้ด้านใน ดังนั้นจะใส่แบบไหนก็ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นความคิดที่ผิด เพราะการใส่เสื้อซับในที่ไม่ได้คุณภาพ มีผลเสียมากมาย เช่น เสื้อซับในที่เนื้อผ้าไม่ได้คุณภาพ ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว หรือเสื้อซับในที่ระบายความร้อนได้ไม่ดี ทำให้เกิดเป็นกลิ่นอับและแบคทีเรียสะสมระหว่างวันได้ เป็นต้น AIRism จึงไม่เหมือนเสื้อซับในทั่วๆ ไป ตรงที่สวมใส่ได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมคิดนวัตกรรมมารองรับกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและกิจกรรมระหว่างวันของผู้สวมใส่ ทำให้ใครก็ตามเมื่อได้ลองใส่ AIRism แล้วจะรู้สึกถึงผลลัพธ์ที่แตกต่างจากเสื้อซับในอื่นๆ ที่เคยใส่มา

แต่ทำยังไงล่ะ เพื่อให้คนก้าวข้ามผ่านความเชื่อเดิมๆ มาลอง?!

ปีนี้ไม่ได้แค่มาขายของ แต่ UNIQLO มาเพื่อสร้างประสบการณ์และพฤติกรรมใหม่

โจทย์ในการกลับมาของ UNIQLO AIRism ในปี 2019 นี้จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มยอดขายของเสื้อประจำปี แต่เป็นการเปลี่ยนหรือสร้างกบฏเชิงพฤติกรรมให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของเสื้อซับในมากขึ้น และกระตุ้นให้เปลี่ยนมาทดลองเสื้อซับในที่ดีกว่า ผ่านการสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างนั้นได้ด้วยตัวเอง โดยพุ่งเป้าไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ใส่เสื้อซับในเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งในวัยมหาลัย พนักงานออฟฟิศ และ ครอบครัวที่มีลูก เพราะการเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มคนใส่เสื้อซับในอยู่แล้วนั้นย่อมง่ายกว่า การเปลี่ยนคนที่ไม่เคยใส่เสื้อซับในให้มาสวมใส่

Uniqlo เริ่มต้นเกมนี้ด้วยการท้าทายความเชื่อตั้งแต่ tagline “ซับตัวจริงต้อง AIRism” เพื่อตอกย้ำ กับผู้บริโภคว่าเสื้อซับใน AIRism ของ UNIQLO เหนือกว่าด้วยคุณสมบัติมากมาย โดยทำการตลาดทั้ง แบบ online และ on ground ในส่วนของ online สื่อสารผ่านการทำวิดีโอ โดยให้กลุ่ม KOL ที่มีชื่อเสียงและเป็นกลุ่มเป้าหมาย ให้ทดลองสวมใส่เสื้อซับในของ AIRism ใช้ชีวิตที่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรม โดยมีการเปรียบเทียบโดยตรงกับเสื้อซับในทั่วไปแบบผ้าคอตตอน เพื่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเสื้อซับในตัวไหนใส่สบายกว่ากัน เพื่อเปลี่ยนความเชื่อว่า “เสื้อซับในไหนๆ ก็เหมือนกัน” อีกทั้งสำหรับ on ground มีการตั้งบูธให้ทุกคนสามารถเข้ามาทดสอบคุณสมบัติของ AIRism พร้อมแจกสินค้าตัวอย่างให้กลุ่มเป้าหมายที่ใส่เสื้อซับในเป็นประจำได้ลอง โดยทั้งการตลาดแบบ online และ on ground ได้มีการแจก AIRism ให้ไปทดลองใส่จริงกว่า 8,000 ตัวเลยทีเดียว

นับเป็นก้าวที่สำคัญและยิ่งใหญ่ของ UNIQLO ที่เปลี่ยนอุปสรรค ให้เป็นโอกาส โดยลุกขึ้นมาให้ความรู้ที่ถูกต้องในการเลือกสวมใส่เสื้อซับใน ใครจะรู้ว่าเสื้อซับใน สิ่งที่เราคิดกันเสมอว่าแบบไหนก็เหมือนกัน จริงๆ แล้วต่างกันที่ฟังก์ชั่นการใช้งานขนาดนี้ ต้องยอมรับว่าเสื้อ AIRism ของ UNIQLO ถูกคิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน และโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาดจริงๆ

สำหรับใครที่สนใจ ขอท้าให้คุณได้ลอง แล้วคุณจะสัมผัสความต่าง

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://s.uniqlo.com/thwairismfb0222

[บทความนี้เป็น Advertorial]


  • 16.9K
  •  
  •  
  •  
  •