สร้างชุมชนต้นแบบแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำหลากอย่างยั่งยืน ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ลุ่มน้ำปราจีนบุรี ปีที่ 4

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ภัยธรรมชาตินับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหลายครั้งส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินหรือร้ายแรงถึงขั้นคร่าชีวิต ประเทศไทยคือหนึ่งประเทศที่ประสบภัยทางธรรมชาติบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอุทกภัย

เมื่อปี พ.ศ.2554 ประเทศไทยเจอวิกฤตภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เหตุการณ์ครั้งนั้นถูกนิยามว่า “มหาอุทกภัย” พื้นที่ในประเทศถูกน้ำท่วมประมาณ 150 ล้านไร่ จำนวน 65 จังหวัด ส่งผลเสียในวงกว้างทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านการส่งออก ด้านการเกษตร ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างเจอวิกฤตกันถ้วนหน้า มูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งหนึ่งองค์กรธุรกิจที่ประสบปัญหาร่วมด้วยคือบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

วิกฤษครั้งนั้น ทำให้กลุ่มบริษัทฮอนด้าตระหนักรู้ถึงภัยธรรมชาติที่สร้างผลเสียแก่ประเทศชาติรอบด้าน จึงได้จัดตั้งกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทยในปี 2555 เพื่อเป็นกองทุนฉุกเฉินไว้ช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ โดยจะร่วมสมทบเงินมูลค่า 1,000 บาทต่อการขายรถยนต์หนึ่งคัน บริจาค 100 บาทต่อการขายรถจักรยานยนต์หนึ่งคัน และบริจาค 10 บาทต่อการขายเครื่องยนต์อเนกประสงค์หนึ่งหน่วย ปัจจุบันมีเงินสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 ถึงเดือน ก.ค.2561 ทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านบาท

ภาพถ่ายหมู่ร่วมกัน ก่อนเริ่มกิจกรรมสร้างฝายและปลูกหญ้าแฝก

สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ครั้งนี้ถือเป็นปี 4 ที่ทางกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สานต่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำปราจีนบุรี ทำการฟื้นฟูฝายเก็บน้ำในพื้นที่คลองโสม ตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี แก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำหลาก พร้อมผลักดันสู่ชุมชนต้นแบบ

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ร่วมปลูกต้นไม้

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับมือปัญหาภัยแล้งและป้องกันน้ำหลากคือ ชาวบ้านต้องรู้สึกรักและรู้สึกเป็นเจ้าของแหล่งน้ำเสียก่อน ทางกองทุนและมูลนิธิเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการผลักดันและให้ความรู้แก่ชาวบ้าน ซึ่งหัวหอกสำคัญคือชุมชนต้องเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก เพื่อให้เกิดการพัฒนาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน

ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

 

ด้าน ดร. รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปี โครงการพัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำปราจีนบุรี เห็นทิศทางในทางที่ดี ชุมชนมีส่วนร่วมในการรักษาแหล่งน้ำมากขึ้น ปัญหาต่าง ๆ เริ่มทุเลาลง โดยในปีนี้ได้มีการปลูกหญ้าแฝกและสร้างฝายชะลอน้ำ ทั้งนี้เตรียมผลักดันให้เป็นชุมชนต้นแบบในระดับจังหวัดต่อไป สำหรับโครงการนี้ในระยะเวลา 4 ปี ให้งบสนับสนุนมูลค่ากว่า 26.21 ล้านบาท ชาวปราจีนบุรีได้รับประโยชน์กว่า 5,043 ครัวเรือน

จิตอาสาร่วมแรงร่วมใจสร้างฝายหินและปลุกหญ้าแฝก (2) นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร,คุณพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจ.ปราจีนบุรี ร่วมปลูกหญ้าแฝก จิตอาสาร่วมแรงร่วมใจสร้างฝายหินและปลุกหญ้าแฝก (5) จิตอาสาร่วมแรงร่วมใจสร้างฝายหินและปลุกหญ้าแฝก (4)


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Roboots
Tech Savvy Lv.14