ไม่ต้องเลือกเพลงเอง! Spotify จับมือ ChatGPT สร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัวจาก Prompt แค่พิมพ์บอก

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ในยุคที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว การแข่งขันในสมรภูมิดิจิทัลวัดกันที่ว่าใครจะนำเทคโนโลยีนั้นมาสร้างประสบการณ์ที่ “ใช่” และ “โดนใจ” ผู้บริโภคได้มากกว่ากัน ซึ่ง ล่าสุดมีปรากฏการณ์การ Collabs ครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสองยักษ์ใหญ่ต่างวงการนั่นก็คือ Spotify เจ้าพ่อวงการ Music Streaming และ ChatGPT แชทบอท AI ที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้ ที่จับมือกันเปลี่ยนวิธีการค้นหาและฟังเพลงของเราไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อ AI กลายเป็นดีเจส่วนตัว

ลองจินตนาการดูว่าถ้าเราสามารถบอกความรู้สึก หรือสถานการณ์ที่เรากำลังเจออยู่ แล้วมีคนจัดเพลย์ลิสต์เพลงในแบบที่เราชอบมาให้ทันที มันจะดีแค่ไหน? ฟีเจอร์ใหม่นี้ทำให้สิ่งนั้นให้เป็นจริงได้แล้ว

สำหรับวิธีใช้ ผู้ใช้งาน Spotify (ทั้งแบบฟรีและพรีเมียม) สามารถเปิด ChatGPT ขึ้นมา แล้วพิมพ์คำสั่งอะไรก็ได้ที่มีคำว่า ‘Spotify’ ตามด้วยสิ่งที่ต้องการ เช่น:

  • “Spotify ช่วยจัดเพลย์ลิสต์เพลงเศร้าๆ อกหัก แต่ขอแบบมูฟออนได้หน่อย”
  • “Spotify ขอเพลงสำหรับเปิดตอนขับรถไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน”
  • “Spotify อยากได้พอดแคสต์แนวพัฒนาตัวเอง ที่เกี่ยวกับเทคนิคการทำงาน Productive”

เพียงเท่านี้ ChatGPT ก็จะสร้างเพลย์ลิสต์หรือแนะนำพอดแคสต์จาก Spotify มาให้ทันทีในหน้าแชท พร้อมให้กดฟังในแอป Spotify ได้เลย

Spotify กับกลยุทธ์ขยายฐานผู้ใช้งาน

การนำ Spotify เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ไม่ใช่แค่การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆเท่านั้น แต่มองได้ว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดาที่น่าสนใจในหลายมุมเช่นกันไม่ว่าจะเป็น

  1. ขยาย Ecosystem ไปอยู่ในที่ที่ผู้ใช้อยู่แล้ว (Extend the Ecosystem): แทนที่จะรอให้ผู้ใช้เปิดแอป Spotify, Spotify เลือกที่จะวิ่งเข้าไปหาผู้ใช้ในแพลตฟอร์มที่พวกเขากำลังใช้งานอย่าง ChatGPT ซึ่งมีฐานผู้ใช้มหาศาลอยู่ทั่วโลก เป็นการสร้าง Touchpoint ใหม่ที่ทรงพลังและลดแรงเสียดทาน (Friction) ในการเข้าถึงบริการ
  2. ยกระดับ Personalization ด้วย Conversational AI: การตลาดแบบ Personalization ก้าวไปอีกขั้น จากที่เคยแนะนำเพลงตามประวัติการฟัง ตอนนี้มันคือการ “ตอบสนองตามบริบทและความรู้สึก ณ เวลานั้น” ผ่านการสนทนาที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสร้างความรู้สึกพิเศษและเข้าใจผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
  3. ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ผู้นำด้านนวัตกรรม: การจับมือกับผู้นำด้าน AI อย่าง OpenAI ทำให้ภาพลักษณ์ของ Spotify ดูทันสมัยและเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้
  4. สร้าง Data ที่ลึกกว่าเดิม: ข้อมูลจาก Prompt ของผู้ใช้ที่สั่งให้สร้างเพลย์ลิสต์ คือขุมทรัพย์ชั้นดีที่ทำให้ Spotify เข้าใจ “เหตุผลเบื้องหลัง (Intent)” การฟังเพลงของผู้คนได้ลึกซึ้งกว่าแค่การกดฟังเพลงปกติ ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาบริการและแคมเปญการตลาดในอนาคตได้อีกมหาศาล

Sten Garmark, SVP, Global Head of Consumer Experience at Spotify กล่าวถึงวิสัยทัศน์นี้ว่า “วิสัยทัศน์ของ Spotify คือการอยู่เคียงข้างคุณทุกที่ทุกเวลา การนำ Spotify เข้ามาอยู่ใน ChatGPT ครั้งนี้ คือการสร้างวิธีใหม่ที่ทรงพลังให้แฟนๆ ได้เชื่อมต่อกับศิลปินและครีเอเตอร์ที่พวกเขารัก ผ่านการสนทนาได้ทุกเมื่อที่แรงบันดาลใจเกิดขึ้น”

วิธีใช้?

  1. เปิดแชทใน ChatGPT (ได้ทั้งบนเว็บและมือถือ)
  2. พิมพ์คำสั่งที่มีคำว่า “Spotify”
  3. ในครั้งแรก ระบบจะให้เราเชื่อมต่อกับบัญชี Spotify ของเราก่อน
  4. หลังจากนั้นก็เริ่มสั่งให้ AI จัดเพลงหรือพอดแคสต์ตามใจเราได้เลย

ฟีเจอร์นี้พร้อมให้บริการแล้วสำหรับผู้ใช้ ChatGPT ทุกรูปแบบ (Free, Plus, Pro) ในกว่า 145 ประเทศทั่วโลก

การจับมือกันระหว่าง Spotify และ ChatGPT ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งมูฟสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าอนาคตของการตลาดและบริการดิจิทัล คือการสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ เป็นส่วนตัว และขับเคลื่อนด้วย AI อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่นักการตลาดและคนทำธุรกิจต้องจับตาดูและเรียนรู้ที่จะปรับตัวตามให้ทัน


  •  
  •  
  •  
  •  
  •