ในแวดวงสินค้าอุปโภคบริโภคไทยระยะหลังนี้ Augmented Reality หรือที่เรียกย่อๆกันว่า AR มักถูกหยิบมาเล่นทางการตลาดผ่านซอง กล่อง หีบห่อ
เช่น ให้เข้าไปในเว็บไซต์สินค้า และยกซองขนมส่องกับกล้องเว็บแคมแล้วจะเห็นตัวการ์ตูนหรือภาพอื่นๆเด้งออกมาจากซอง แล้วจะได้เล่นเกมส์ ได้ชิงรางวัล เป็นต้น และบางแบรนด์ก็สร้างแอพมือถือให้ลูกค้าโหลดไป เพื่อที่จะเปิดส่องซองสินค้า แล้วจะเห็นภาพเอฟเฟคหรือเล่นเกมส์เช่นกัน แต่เป็นบนจอมือถือ
… ทั้งสองแบบนี้ แต่ละแบรนด์ก็แยกกันสร้างแอพ แยกกันสร้างเว็บไซต์ของตัวเองกันไป ไม่มาเกี่ยวข้องกัน
แต่ล่าสุด มี business model ใหม่ ! ที่น่าสนใจในอังกฤษ โดยบริษัทซอฟต์แวร์ที่ชื่อ Blippar ทำตัวเป็นศูนย์กลางของโปรโมชั่นและเกมส์แบบ AR ของทุกแบรนด์ โดยเสนอให้สินค้าทุกยี่ห้อทุกชนิดมาใช้ระบบของ Blippar โดยไม่ต้องพัฒนาแอพเอง แค่ส่งข้อมูล ซอง กติกาเกมส์ ฯลฯ มา
แล้วจากนั้นเมื่อผู้บริโภคผู้ใช้ยกมือถือที่ลงแอพ Blippar ไว้ส่องไปที่สินค้าทั้งหลายที่เป็นลูกค้าของ Blippar ก็จะได้เห็นกราฟฟิคและเกมส์ AR แบบต่างๆเด้งออกมาจากซอง กล่อง ฯลฯ ซึ่งก็ใช้ได้กับ QR code ด้วย
ลองนึกภาพตามว่า ถ้า Blippar มีลูกค้าเป็นแบรนด์ดังๆหลายๆสิบแบรนด์ เวลาเราๆผู้บริโภคเดินไปในซูเปอร์มาร์เก็ต จะพบว่าส่องมือถือไปที่สินค้าตัวไหนก็มีอะไรให้เล่นตลอดเวลา จะน่าสนุกแค่ไหน
สินค้าไหนอยากให้ผู้บริโภคเล่นได้แม้จะยังไม่ซื้อ ก็อาจจะใช้ซองหรือกล่องภายนอกเป็นตัวเล่น AR เลยก็ได้ ผู้บริโภคจะได้ลองเล่นได้เลยที่ชั้นวางสินค้าโดยยังไม่ซื้อ
แต่สินค้าไหนที่อยากจะสงวนสิทธิ์การเล่นเกมส์ให้ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วเท่านั้น ก็อาจจะซ่อนจุด scan AR หรือ QR ไว้ในซองในกล่อง
ส่วนฝั่งแบรนด์สินค้า ก็จ่ายค่าบริการให้ Blippar ในราคาที่ต่ำกว่าลงทุนพัฒนาแอพเอง แถมยังต้องโปรโมทให้ผู้บริโภคดาวน์โหลดไปลงอีก ประหยัดไปได้เป็นเงินมหาศาล
แม้ว่าบริษัท Blippar เพิ่งก่อตั้งในอังกฤษมาได้ไม่กี่เดือน แต่ด้วยโมเดลธุรกิจนี้ ทำให้ Blippar กลายเป็นบริษัทที่น่าจับตามองอย่างมาก อาจจะเป็นผู้มาพลิกโฉมวงการค้าปลีกได้อย่างที่เราๆคิดไม่ถึงในอนาคต … และนักการตลาดไทยก็ไม่ควรพลาดติดตามเทรนด์นี้กันนะครับ
