แอลจี โชว์ฟอร์มแกร่งเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2568 กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์โตเด่น ดันรายได้ทุบสถิติสูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

[ข่าวประชาสัมพันธ์]

 

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ จำกัด (แอลจี) เผยผลประกอบการรวมประจำไตรมาส 3 ของปี 2568 มีรายได้รวม 21.87 ล้านล้านวอน (หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5.03 แสนล้านบาท) และมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่688.9 พันล้านวอน (หรือประมาณ 1.58 หมื่นล้านบาท)

ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนผลการดำเนินงานอันแข็งแกร่งในไตรมาสนี้มาจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Home Appliance Solution: HS) และกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ (Vehicle Solution: VS) ซึ่งสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น แม้ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา หรือภาวะชะลอตัวของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV)  ผลลัพธ์นี้สะท้อนความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอธุรกิจของแอลจี ควบคู่ไปกับความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน โดยกลยุทธ์นี้ครอบคลุมตั้งแต่การรุกขยายธุรกิจโซลูชันสำหรับองค์กร (B2B) เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์และระบบปรับอากาศ (HVAC) การสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์ (Non-hardware) เช่น ธุรกิจบอกรับสมาชิก (Subscription) และการขยายแพลตฟอร์ม webOS ไปจนถึงการพัฒนานวัตกรรมโมเดลธุรกิจที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง (D2C)

โดยในไตรมาส 3 นี้รายได้จากกลุ่มธุรกิจ B2B ของแอลจีเติบโตขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน แตะระดับ 5.9 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.36 แสนล้านบาท) ขณะที่รายได้จากธุรกิจบริการสมาชิกสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าพุ่งขึ้นถึง 31% คิดเป็นรายได้ 7 แสนล้านวอน (ประมาณ 1.61 หมื่นล้านบาท)

 

ผลประกอบการและแนวโน้มรายกลุ่มธุรกิจไตรมาส 3 ประจำปี 2568

 

กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Home Appliance Solution หรือ HS) 

สำหรับกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (HS) ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการเติบโต โดยในไตรมาสนี้สามารถทำรายได้ไปถึง 6.58 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.51 แสนล้านบาท) และมีกำไรจากการดำเนินงาน 365.9 พันล้านวอน (ประมาณ 8.42 พันล้านบาท) ปัจจัยความสำเร็จมาจากการดำเนิน ‘กลยุทธ์สองแนวทาง’ (Two-track Strategy) ที่รุกเจาะทั้งตลาดพรีเมียมและตลาดแมสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจบอกรับสมาชิกและช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ การปรับปรุงประสิทธิภาพฐานการผลิตยังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยลดผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลโดยตรงให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 4 แอลจีคาดการณ์ว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วโลกจะยังคงเผชิญกับความท้าทายสูง เนื่องจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่ยังคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า ประกอบกับการแข่งขันในตลาดที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว แอลจีวางแผนที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจบอกรับสมาชิกและช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรักษาจุดยืนในการสร้างการเติบโตเชิงคุณภาพ ขณะเดียวกัน จะมุ่งปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนและลดต้นทุนคงที่ เพื่อรักษาและเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

กลุ่มธุรกิจโซลูชันด้านสื่อและความบันเทิง (Media Entertainment Solution หรือ MS) 

ด้านกลุ่มธุรกิจโซลูชันด้านสื่อและความบันเทิง (MS) เผชิญกับความท้าทายด้านความสามารถในการทำกำไร  มีรายได้ 4.65 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.07 แสนล้านบาท) ขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงาน ปรับตัวลงมาอยู่ในแดนลบที่ 302.6 พันล้านวอน (ประมาณ 6.96 พันล้านบาท) เป็นผลจากการทุ่มงบประมาณด้านการตลาดเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน และการรับรู้ค่าใช้จ่ายพิเศษจากโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสนี้

โดยแอลจีจะมุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานในธุรกิจทีวี ควบคู่ไปกับการต่อยอดแพลตฟอร์ม webOS ผ่านการสร้างรายได้จากโฆษณาและเพิ่มความหลากหลายของคอนเทนต์ พร้อมกันนี้ จะเดินหน้ารุกตลาดในกลุ่มประเทศซีกโลกใต้ (Global South) ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีแนวโน้มความต้องการที่แข็งแกร่ง

 

กลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์ (Vehicle Solution หรือ VS)

กลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทุบสถิติรายได้สูงสุดใหม่สำหรับไตรมาส 3 ที่ 2.65 ล้านล้านวอน (ประมาณ 6.1 แสนล้านบาท) และสร้างกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทที่ 149.6 พันล้านวอน (ประมาณ 3.44 พันล้านบาท) ความสำเร็จดังกล่าว ยังส่งผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit Margin) พุ่งทะยานผ่านระดับ 5% ได้เป็นครั้งแรก

แม้การเปลี่ยนแปลงนโยบายเงินอุดหนุน EV ของสหรัฐฯ อาจเป็นความท้าทายระยะสั้นในไตรมาส 4 แต่แอลจีได้วางกลยุทธ์เพื่อรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรไว้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นการปรับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ (Product Mix) ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และการบริหารจัดการโครงสร้างต้นทุนเชิงรุกเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

กลุ่มธุรกิจโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco Solution หรือ ES) 

ในส่วนของกลุ่มธุรกิจโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อม (ES) ทำรายได้ที่ 2.17 ล้านล้านวอน (ประมาณ 4.99 หมื่นล้านบาท) และมีกำไรจากการดำเนินงาน 132.9 พันล้านวอน (ประมาณ 3.06 พันล้านบาท) ซึ่งการเติบโตของรายได้ได้รับแรงหนุนจากยอดขายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจบอกรับสมาชิก ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยนั้น เป็นผลโดยตรงจากการที่บริษัทขยายการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต

แอลจีมีแผนจะสร้างการเติบโตโดยจะมุ่งเน้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของแต่ละภูมิภาค พร้อมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ในตลาดที่มีศักยภาพสูงอย่าง ระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ (HVAC) และเครื่องทำความเย็นสำหรับภาคอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า ความสำเร็จล่าสุดที่ตอกย้ำถึงศักยภาพของกลยุทธ์นี้คือ การที่บริษัทสามารถคว้าสัญญาจัดหาระบบระบายความร้อนสำหรับศูนย์ข้อมูล AI (AI Data Center) ในภูมิภาคสำคัญทั่วโลก ทั้งอเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย ซึ่งโครงการเหล่านี้จะถูกใช้เป็นกรณีศึกษาอ้างอิง (Strategic References) ที่สำคัญในการขยายตลาดให้เติบโตต่อไป พร้อมกันนี้ แอลจียังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อนำโซลูชันแห่งอนาคตอย่าง ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Cooling) และกำลังขยายความร่วมมือเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบจุ่ม (Immersion Cooling) ออกสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำตลาดโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูล

[ข่าวประชาสัมพันธ์]


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE