สรุปปรากฎการณ์ประเทศไทย 2025 พร้อมผลโหวต “ที่สุด” ของคนไทย

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

นอกจากเรื่องของเศรษฐกิจที่ต้องทำให้หลายคนจดจำปี 2025 ไปอีกนานแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ล้วนแต่เป็นปรากฎการณ์สร้างความทรงจำที่จะไม่มีวันลืมปีนี้ไปอย่างเด็ดขาดแน่นอน และเพื่อให้จดจำเหตุหการณ์สำคัญในปี 2025 ด้าน LINE TODAY ได้เผยอินไซต์การเสพข่าวของคนไทยตลอดปี 2025 ผ่าน “A YEAR IN REVIEW 2025” โดยรวบรวมทุกเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนภาพ “ปีแห่งความสั่นสะเทือน” อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังได้จัดทำ LINE TODAY POLL OF THE YEAR 2025 ที่เปิดเป็นสาธารณะให้ผู้คนทั่วประเทศเข้ามาร่วมโหวตทางออนไลน์ ตั้งแต่ในช่วงวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา โดยมีคะแนนโหวตรวมกว่า 1.2 ล้านคะแนน ในแต่ละเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น

โดยเริ่มต้นที่ 11 เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยที่ต้องจดจำ เริ่มกันที่

  1. ​​บรรยากาศแห่งความอาลัย พระพันปีหลวงเสด็จสวรรคต

การเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นับเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความโศกอาดูรและสะเทือนใจคนไทยทั้งแผ่นดิน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนต่างร่วมกันแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้ง น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาอย่างยาวนาน และจะสถิตอยู่ในใจของปวงชนตราบนิรันดร์

 

  1. มหันตภัยร้ายถาโถมเมืองไทย

เป็นอีกปีที่ประเทศไทยต้องเผชิญภัยธรรมชาติรุนแรง เริ่มกันตั้งแต่ต้นปี 2568 กับ “ธรณีพิบัติภัย” ที่แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยโดยตรง แต่ผลกระทบกับสร้างความเสียหายใหญ่หลวงกับประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีที่ประเทศเมียนม่า แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงกรุงเทพฯ

อาคารสูงหลายแห่งต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ แต่เสียหายรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นกับ “อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่” ที่พังถล่มลงมาอย่างไม่ไม่มีใครคาดคิดคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก สร้างความสะเทือนใจไปทั่วประเทศ โดยมียอดการเข้าชมข่าวกว่า 155 ล้านครั้ง และได้รับการโหวตให้เป็น “ข่าวแห่งปี 2025” ด้วยคะแนนสูงถึง 17.61%

นอกจากนี้ ประเทศไทยต้องรับมือกับ “อุทกภัย” ช่วงครึ่งปีหลัง แต่ที่สร้างความสูญเสียอย่างมากคือ มหาอุทกภัยที่ภาคใต้ครอบคลุม 9 จังหวัด ประชาชนกว่า 1 ล้านครัวเรือนสูญเสียทั้งทรัพย์สินและสมาชิกในครอบครัว ความเสียหายทางเศรษฐกิจเบื้องต้นกว่า 25,000 ล้านบาท ที่สำคัญกรณีถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักและได้รับความสนใจจากผู้ใช้งาน LINE TODAY กว่า 12 ล้านครั้ง

เมื่อรวมเหตุการณ์ภัยพิบัติทั้งหมดตลอดปี เนื้อหาหมวด “ภัยพิบัติ” บน LINE TODAY มียอดการติดตามสูงถึง 295 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นกว่า 133% จากปีก่อน สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า “ปี 2025 คือปีแห่งการสั่นสะเทือนอย่างแท้จริง”

 

  1. ปมศรัทธาหมู่มารในคราบผ้าเหลือง

หนึ่งในเรื่องที่ร้อนแรงของปีนี้อย่างวงการ “พระสงฆ์” ที่พระระดับชั้นผู้ใหญ่ต้องร่วงระนาวกลายเป็นปุถุชนคนธรรมดาก็มีมากมาย เมื่อกรณี “วัดไร่ขิง” ที่ถูกตรวจสอบพบการยักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท ต่อด้วยคดี “เจ้าคุณอาชว์” เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ที่ถูกแฉสัมพันธ์สีกากอล์ฟ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 385 ล้านบาท เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ “ผ้าเหลืองร้อน” นำไปสู่พระชั้นผู้ใหญ่ดาหน้าลาสิกขา

และกรณี “หลวงพ่ออลงกต” กับ “หมอบี” ที่สร้างความปวดใจให้พุทธศาสนิกชน ที่ถูกโยงเข้ากับการยักยอกและฟอกเงินวัดพระบาทน้ำพุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถยึดทรัพย์คืนได้มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท รวมแล้วหมวดข่าว “ศาสนา” บน LINE TODAY มียอดการเข้าชมทะลุ 144 ล้านครั้ง ชี้ชัดว่า ปี 2025 เป็นปีที่ความศรัทธาถูกตั้งคำถามมากที่สุดในรอบหลายปี

 

  1. ทองคำพุ่งแตะทะลุ 6 หมื่นภาษีทรัมป์ป่วน

เศรษฐกิจไทยยังคงต้องเผชิญแรงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ หรือ “ภาษีทรัมป์” ที่ประเทศไทยก็ไม่รอดโดนไป 36% ข่าวนี้กลายเป็นกระแสร้อนแรงบน LINE TODAY มียอดการติดตามกว่า 65 ล้านครั้ง และถูกโหวตให้เป็นหนึ่งใน “ข่าวต่างประเทศแห่งปี” ด้วยคะแนนสูงถึง 25.4%

ภาคที่ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนหดหายยังคงอยู่ในความสนใจ พอๆ กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นทั้ง “ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2” และ “คนละครึ่งพลัส” สะท้อนภาพเศรษฐกิจของไทย แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือการลงทุนใน “ทองคำ” ที่ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์แตะบาทละกว่า 60,000 บาท ทำให้ได้รับการโหวตเป็นหนึ่งในข่าวยอดนิยมแห่งปี ด้วยคะแนน 21.52%

 

  1. สงครามกระทบทั่วโลก ไทย-กัมพูชารบไม่จบ

นอกจากเศรษฐกิจแล้ว โลกยังคงเผชิญกับสงครามหลายสมรภูมิ แต่ที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทย คือ ความขัดแย้งตามแนวชายแดน ไทย–กัมพูชา ยังคงยืดเยื้อและทวีความรุนแรง มีการใช้อาวุธหนักตอบโต้กันหลายครั้ง ส่งผลให้ทั้งทหารและพลเรือนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสเดือดบนโลกโซเชียล ผู้คนรวมพลังภายใต้แฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด สะท้อนพลังความรักชาติและความห่วงใยต่อบ้านเมือง

แม้จะมีการร่วมลงนามใน “ปฏิญญาสันติภาพ” แต่การสู้รบยังไม่จบและต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแบบนาทีต่อนาที ส่งผลให้ข่าวหมวดนี้ได้รับการโหวตจากผู้ใช้งาน LINE TODAY ถึง 13.41% ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุดในปี 2025

 

  1. การเมืองไทยไม่เหมือนชาติใดในโลก 

ต่อเนื่องความความขัดไทย–กัมพูชา ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นยผลมาจากคลิปเสียงหลุดระหว่าง “อดีตนายกฯ แพทองธารชินวัตร” และ “ฮุน เซน” ส่งผลให้คำว่า “อุ๊งอิ๊ง” ถูกค้นหาบน LINE TODAY ถึง 106 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นกว่า 72 ล้านครั้งจากปีก่อน กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของปี และนำไปสู่คำวินิจฉัยของศาลให้ “แพทองธาร ชินวัตร” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในที่สุด

นำมาสู่ความวุ่นวายทางการเมือง และนำไปสู่การจับมือกันของพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย โดยมี อนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ขณะที่ ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี ทำให้ประเด็นเกี่ยวกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้รับความสนใจสูงสุดบน LINE TODAY มียอดเข้าชมกว่า 190 ล้านครั้ง และร้อนแรงข้ามปีด้วยการประกาศยุบสภาของนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ในช่วงต้นปี 2026

 

  1. กระแสมาสคอตมาแรงครองไวรัล

เปลี่ยนจากเรื่องราวหนักๆ ไปสู่เรื่องฮีลใจ เมื่อกระแสมาสคอตมาร์เก็ตติ้งกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทุกแบรนด์ต้องมี ไม่ว่าจะเป็น “หมีเนย” “โพก้าซัง” และอีกหลากหลายมาสคอตไอดอลขวัญใจโซเชียล ที่กลายเป็นเทรนด์ไวรัลพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง จนได้รับการโหวตสูงสุด 34.19% คว้าตำแหน่ง “ปรากฏการณ์แห่งปี 2025” ไปครอง

อีกหนึ่งพลังแห่งความน่ารักที่ยึดหัวใจคนไทยที่ตามมาในอันดับ 2 คือ “น้องเกล” หรือ “เจ๊เกล” ลูกสาววัย 3 ขวบของ “ชมพู่ อารยา” ที่ไม่ว่าจะขยับตัว พูดคำไหน หรือทำท่าใด ก็กลายเป็นกระแสทันที จนคำว่า “เติมเกล” กลายเป็นคีย์เวิร์ดประจำปี ภาพและคลิปไวรัลอย่าง “มอสมีแม่ไหม” หรือท่าเต้นโก๊ะ ๆ ในเพลง When I’m with You ของ “ลิซ่า – ลลิษา” ต่างถูกแชร์ต่ออย่างถล่มทลาย ด้วยคาแรกเตอร์ใสๆ ปนความกวนเบาๆ ที่ทำให้ “เจ๊เกล” เป็นที่รักของแฟนคลับ

 

  1. แฟนนางงามเฮลั่น! คว้ามงรายการใหญ่

มาที่เวทีประกวดนางงาม แม้จะมีดราม่าบาเวทีประกวดนางงานจักรวาล แต่สุดท้ายคนไทยก็ได้เฮ เมื่อ “วีนา–ปวีนา” ตัวแทนสาวไทยคว้าตำแหน่ง รองชนะเลิศอันดับ 1 มาครองอย่างงดงาม สะกดทุกสายตาทั่วโลก และยิ่งเมื่อ “โอปอล–สุชาตา” สร้างประวัติศาสตร์คว้ามงกุฎ Miss World 2025 ให้ประเทศไทยสำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 57 ปี สร้างความปลื้มปีติให้แฟนนางงามทั่วประเทศ จนได้รับการโหวตให้เป็น ข่าวบันเทิงแห่งปี ด้วยคะแนนสูงสุดกว่า 35.05%

ความสำเร็จจากทั้งสองเวทีใหญ่ ทำให้ปีนี้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการนางงามไทย และตอกย้ำศักยภาพของตัวแทนสาวไทยที่ก้าวไกลขึ้นบนเวทีระดับโลกอย่างสง่างาม

 

  1. นักกีฬาไทยสร้างประวัติศาสตร์

ด้านกีฬาถือเป็นปีทองของวงการกีฬาไทย เมื่อนักกีฬาหลายคนสร้างผลงานระดับโลกต่อเนื่อง อย่าง “บิว–
คีริน” คว้าเหรียญเงินกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย, “จีโน่–อาฒยา” ทวงบัลลังก์โปรกอล์ฟหญิงมือ 1 ของโลก ขณะที่ “สมเกียรติ” สร้างประวัติศาสตร์นักบิดไทยหนึ่งเดียวผงาดคว้าแต้มแรก MotoGP และ “วิว–กุลวุฒิ” ทำสถิติเป็นนักแบดมินตันเดี่ยวมือ 1 คนแรกของไทย คว้าทั้งตำแหน่ง “ข่าวกีฬาแห่งปี” ด้วยคะแนนโหวต 31.65% และ “นักกีฬาแห่งปี” ด้วยคะแนนสูงสุด 44.33%

 

  1. หนัง ซีรีส์ไทย ติดอันดับโลก

วงการภาพยนตร์ไทยยังคงสร้างชื่อเสียงบนเวทีโลกอย่างต่อเนื่อง ภาพยนตร์เรื่อง “ผีใช้ได้ค่ะ” กลายเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่คว้ารางวัลสูงสุดในสาย Critics’ Week จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ขณะที่ซีรีส์แอ็กชันฟอร์มยักษ์ “สงครามส่งด่วน” ก็กระแสแรงไม่แพ้กัน ขึ้นแท่นอันดับ 1 บน Netflix ประเทศไทย และติดอันดับ 4 ซีรีส์ Non-English ที่มียอดชมสูงสุดทั่วโลก

ด้านซีรีส์ Boy Love และ Girl Love ของไทยยังคงครองกระแสทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย “เขมจิราต้องรอด” จากค่าย Domundi คว้าตำแหน่ง ซีรีส์ Boy Love แห่งปี ไปพร้อมกับ “เก่ง–หฤษฎ์” และ “น้ำปิง–นภัสกร” ที่คว้ารางวัล คู่จิ้นแห่งปี ด้วยคะแนน 38.77%

ขณะที่ฝั่ง Girl Love สองนักแสดงสาว “หลิง–ออม” จากซีรีส์ “เพียงเธอ” คว้ารางวัล ซีรีส์ Girl Love แห่งปี ด้วยคะแนนสูงถึง 57.09% และสร้างวลีฮิต “ไอร่ารู้ไหม..” ที่กลายเป็นคำพูดยอดนิยมแห่งปี สะท้อนถึงพลังของคอนเทนต์ไทยที่ยังคงครองใจผู้ชมทั่วโลก

  1. T-POP ฟีเวอร์กวาดครบทุกกระแส

มาต่ออุตสาหกรรมเพลงและอีเวนต์ไทยก็ร้อนแรงไม่แพ้กันเมื่อกระแส T-POP กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์สำคัญที่ผลักดันศิลปินไทยให้ก้าวสู่เวทีสากล ขณะเดียวกันประเทศไทยยังกลายเป็น ศูนย์กลางคอนเสิร์ตระดับภูมิภาค ดึงดูดทั้งศิลปินไทยและต่างชาติให้จัดแสดงอย่างคึกคัก ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ศิลปินสาวไทยที่มีชื่อบนเวทีโลกอย่าง “ลิซ่า – ลลิษา” ก็ได้รับบทบาทในซีรีส์ระดับโลก The White Lotus ซีซัน 3 จุดกระแสแฟนทั่วโลกให้มาตามรอยสถานที่ถ่ายทำในไทย ทั้งภูเก็ต สมุย และกรุงเทพฯ คว้าอันดับ 1 ข่าวบันเทิงต่างประเทศแห่งปี ด้วยคะแนนโหวต 24.44%

เช่นเดียวกับ “แบมแบม – กันต์พิมุกต์” ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการเพลงไทย ด้วยการนำเพลงไทยขึ้นแสดงในคอนเสิร์ต Grace for the World ณ นครรัฐวาติกัน ถือเป็นการ “ส่งเสียงของประเทศไทยให้ดังก้องไปทั่วโลก” ได้อย่างภาคภูมิ และคว้ารางวัล “ความภูมิใจแห่งปี” ด้วยคะแนนโหวตสูงสุดถึง 60.72%

 

โดยสรุปแล้ว จากข้อมูลผลโหวตของ LINE TODAY POLL OF THE YEAR 2025 แบ่งออกเป็น

  • ข่าวแห่งปี: ตึก สตง.ถล่ม ด้วยผลโหวต 17.61%
  • ข่าวกีฬาแห่งปี: วิว กุลวุฒิ ขึ้นมือ 1 โลกแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทย ด้วยผลโหวต 65%
  • นักกีฬาแห่งปี: วิว กุลวุฒิ ด้วยผลโหวต 33%
  • ประโยคเด็ดแห่งปี: ชีเสิร์ฟ ด้วยผลโหวต 55.72%
  • เมนูฮิตแห่งปี: มัตจะ ด้วยผลโหวต 27.44%
  • เพลงแห่งปี: สมมติ – NAMPING ด้วยผลโหวต 34.37%
  • ข่าวต่างประเทศแห่งปี: ภาษีทรัมป์ ด้วยผลโหวต 25.4%
  • ความภาคภูมิใจแห่งปี: Banbam ร้องเพลงที่วาติกัน ด้วยผลโหวต 60.72%
  • ผู้ทรงอิทธิพลโลกโซเชียล: หนุ่ม กรรชัย ด้วยผลโหวต 44.1%
  • ปรากฎการณ์แห่งปี: มาสคอตไอดอล ด้วยผลโหวต 34.19%
  • ข่าวบันเทิงแห่งปี: โอปอลคว้ามงฟ้าคนแรกของไทย ด้วยผลโหวต 35.05%
  • ดาราชายแห่งปี: พีพี กฤษฏ์ ด้วยผลโหวต 57.3%
  • ดาราหญิงแห่งปี: เจนิส เจณิสตา ด้วยผลโหวต 71.13%
  • ศิลปินยอดนิยมแห่งปี: Bambam ด้วยผลโหวต 32.38%
  • ข่าวบันเทิงต่างประเทศแห่งปี: ปรากฏการณ์ลิซ่าครองโลก ด้วยผลโหวต 24.44%
  • ซีรีส์ Girl Love แห่งปี: เพียงเธอ ด้วยผลโหวต 57.09%
  • คู่จิ้น Girl Love แห่งปี: หลิงออม ด้วยผลโหวต 55.01%
  • ซีรีส์ Boy Love แห่งปี: เขมจิรา ต้องรอด ด้วยผลโหวต 53.02%
  • คู่จิ้น Boy Love แห่งปี: เก่งน้ำปิง ด้วยผลโหวต 38.77%
  • นักร้องลูกทุ่งแห่งปี: นุ๊ก ธนดล ด้วยผลโหวต 49.66%

 

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2025 ที่นอกจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ยังได้เห็นพลังของผู้คน ศิลปะ วัฒนธรรม และ Soft Power ไทยที่ยังคงเติบโตและก้าวต่ออย่างไม่หยุดยั้ง


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE