สงกรานต์นี้หรือวันหยุดยาวหน้า ใครมีแพลนไปเที่ยวต่างประเทศกันบ้าง? ในบทความนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์แบบสดๆร้อนๆ กับการใช้ AI อย่าง Gemini มาช่วยวางแผนทริปและเป็นไกด์นำเที่ยวไต้หวัน 4 วัน 3 คืน ที่ผมไปมาจริงๆเมื่อวันที่ 9-12 เมษายนที่ผ่านมาแบบตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่ามันเปลี่ยนวิธีแพลนทริปแบบที่เราคุ้นเคยกันไปเลยก็ว่าได้ และสิ่งนี้จะทำให้การเที่ยวต่างประเทศของเราง่ายขึ้นอีกเยอะจริงๆ
ใช้ Gemini ตัวไหน? ต่างกันไหมในการแพลนทริป?
ก่อนจะเข้าเรื่อง ก็ต้องบอกก่อนว่าประสบการณ์ในบทความนี้ ผมใช้ Gemini ในเวอร์ชันที่สมัครสมาชิกแบบรายเดือน (ปัจจุบันอาจจะอยู่ในแพ็กเกจ Google One AI Premium ที่ใช้โมเดล Gemini Advanced) โมเดลนี้จะเป็นเวอร์ชันที่อาจจะมีความสามารถสูงกว่า มีความเข้าใจบริบทที่ซับซ้อนหรือจดจำบทสนทนาที่ยาวมากๆ ได้ดีกว่าเวอร์ชันฟรีเล็กน้อย
แต่สำหรับใครที่ใช้ Gemini “เวอร์ชันฟรี” หรือ Gen AI ยอดฮิตตัวอื่นๆก็ยังสามารถใช้ช่วยวางแผนเที่ยวได้ดีมากๆ เช่นกัน ความสามารถหลักๆ ทั้งการร่างแพลนแรก, การจัดเส้นทาง, การตอบคำถามพื้นฐาน, หรือการปรับเปลี่ยนแพลนง่ายๆ Gen AI หลายตัวที่เปิดให้ใช้ฟรีก็ทำได้สบายๆ และน่าจะเพียงพอสำหรับการวางแผนเที่ยวส่วนใหญ่แล้ว ข้อแตกต่างอาจจะมีบ้างในกรณีที่คุยกันยาวมากๆ หรือมีการปรับเปลี่ยนที่ซับซ้อนมากๆ เท่านั้นเอง
ส่วนการใช้งานก็สามารถใช้งานผ่านทั้ง Application ในสมาร์ทโฟน หรือทาง Browser ก็ได้ ซึ่งบทสนทนาทั้งหมดก็จะถูกบันทึกเอาไว้ใน Account เดียวกันทั้งหมด ส่วนการใช้งานผมใช้ผ่านแอป Gemini ใน iOS ซึ่งเราก็สามารถคุยกับ AI ได้ผ่าน iPhone ได้เลย ส่วนภาพประกอบจะ capture หน้าจอจาก Gemini เวอร์ชั่น Browser มาให้ดูครับ
มากกว่าแพลนเที่ยว คือ Checklist สิ่งต้องเตรียม!
อีกอย่างที่ผมค่อนข้างประทับใจในการคุยกับ Gemini ตั้งแต่ช่วงแรกๆ คือ นอกจากจะช่วยร่างแพลนเที่ยวแล้ว มันยังลิสต์ ‘สิ่งที่ควรเตรียม’ สำหรับทริปไต้หวันมาให้ด้วย ทั้งเรื่องสำคัญๆ อย่าง
- EasyCard ที่ต้องมีติดตัวไว้เลยสำหรับเดินทางและซื้อของ
- ซิมการ์ดหรือ Pocket WiFi ที่ขาดไม่ได้
- หัวแปลงปลั๊กไฟ (Adapter) เพราะไต้หวันใช้ไฟไม่เหมือนบ้านเรา
- แอปฯ ที่ควรโหลดติดเครื่องไว้ เช่น Google Maps และแอปเช็คสภาพอากาศ แถมยังมีการเกริ่นเรื่องสภาพอากาศช่วงเดือนเมษาฯ ที่อาจเจอฝน ทำให้เราเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนไปได้ทัน สำหรับคนที่ไปครั้งแรก หรืออาจจะลืมเตรียมของเล็กๆ น้อยๆ ฟีเจอร์นี้ถือว่าช่วยเตือนและทำให้เรารู้สึกพร้อมเดินทางมากขึ้นไปอีกขั้น
เริ่มต้นวางแผนแค่บอกโจทย์ Gemini จัดให้!
จุดเริ่มต้นก็ง่ายๆเลยเมื่อผมคิดอยากจะไปเที่ยวไต้หวันผมเจองตั๋วเครื่องบินและที่พักก่อนเลย จากนั้นก็โยนข้อมูลดิบที่ผมมีให้ Gemini ทั้งหมด เช่น
- วันเดินทาง: 9-12 เม.ย. (4 วัน 3 คืน)
- ไฟลท์บิน: ขาไป/ขากลับ (เวลา, สนามบิน)
- ที่พัก: ชื่อโรงแรม (ผมพักที่เดียว 3 คืน)
- ความต้องการพิเศษ: ลิสต์สถานที่ที่อยากไปเอาไว้, เน้นสถานที่ที่ (อยากไป), ขอร้านอาหารกลางวัน/เย็น, แนะนำการเดินทางสะดวกๆ ไม่ย้อนไปมา
โยนโจทย์ไปแค่นี้ ไม่นาน Gemini ก็ร่างแผนเที่ยวคร่าวๆ 4 วันออกมาให้เลยครับ มีการจัดกลุ่มสถานที่ที่อยู่ใกล้กัน แนะนำร้านอาหารที่ผมลิสต์ไว้ พร้อมบอกวิธีการเดินทางเบื้องต้นด้วย MRT ด้วย
จัดลำดับความสำคัญ & เส้นทาง: AI ช่วยคิดได้เลย
ที่น่าประทับใจคือ Gemini ไม่ได้แค่จับยัดๆ ทุกอย่างลงไป แต่พยายามทำความเข้าใจ requirement ของเรา เช่น การที่ผมวงเล็บ `(อยากไป)` ไว้ มันก็จัดสถานที่เหล่านั้นให้ก่อนจริงๆ แล้วค่อยเสริมด้วยสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจและอยู่ในเส้นทางเดียวกัน ทำให้แผนมันดูสมเหตุสมผล เดินทางต่อเนื่อง ไม่ต้องมานั่งงง จัดกลุ่มเองให้ปวดหัว แถมยังแนะนำวิธีการเดินทางหลักๆ อย่าง MRT ให้ด้วย สะดวกมากสำหรับคนไปครั้งแรก
เหมือนมีเพื่อนเป็นไกด์ ขอเพิ่ม-ลด-เปลี่ยน ได้ตลอด! แบบไม่มีงอแง
นี่คือจุดพีคของการใช้ Gemini ก็ว่าได้เพราะแพลนแรกที่ได้มา แม้จะดี แต่ผมก็เริ่มมีความต้องการเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เช่น
“อยากเพิ่ม Maokong Gondola เข้าไป เลือกวันให้หน่อย” >> Gemini แนะนำวันที่เหมาะสมที่สุด (วันที่ 3) และปรับแผนช่วงบ่ายให้ใหม่
“อยากลองนั่งรถไฟความเร็วสูง (THSR) ไป Day Trip ต้องไปเมืองไหนดี? แพงมั้ย?” >> Gemini ให้ข้อมูลราคาคร่าวๆ แนะนำเมืองที่เหมาะกับ Day Trip (ไถจง/ซินจู๋) และชี้แจงข้อจำกัดเรื่องเวลา (พร้อมเตือนว่าต้องตัดแผนในไทเปออกนะ!)
“งั้นลองแพลน Day Trip ไถจง/ซินจู๋ ให้หน่อย” >> จัดให้! พร้อมแนะนำไฮไลท์และร้านชานมไข่มุก
“ถ้าจะไป Day Trip จีหลงล่ะ? โอเคมั้ย?” >> Gemini บอกว่า “โอเคเลย สะดวกมาก” พร้อมแนะนำการเดินทาง (TRA/Bus ไม่ใช่ THSR) และจัดแพลนเที่ยวจีหลง + เย่หลิว (Queen’s Head Rock) ให้เสร็จสรรพ ซึ่งสุดท้ายผมก็เลือกทางเลือกนี้เป็นทริปที่ไปจริงๆในวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา
“เปลี่ยนร้าน Hot Pot จากร้าน A เป็นร้าน B ได้มั้ย?” -> สบายมาก! Gemini เช็คให้ว่าร้าน B ก็อยู่ Ximen เหมือนกัน เปลี่ยนได้เลยแถมย้ำดด้วยว่าต้องจองนะ! สุดท้ายก็จบที่ Xin Mala Hot Pot ที่เด็ดสุดๆแนะนำเลยครับ
“ร้าน Takemura Izakaya ไม่อยากกิน แค่อยากไปถ่ายรูป แล้วไปกิน Yakiniku ต่อได้มั้ย?” -> อันนี้พีค! Gemini ก็ยังปรับแผนให้ ไปถ่ายรูปที่ Takemura ก่อน แล้วค่อยเดินทางไปร้าน Yakiniku ต่อ พร้อมคำนวณเวลาและย้ำว่าต้องจองร้าน Yakiniku ด่วนๆ เพราะไปถึงก็จะดึกแล้ว
จะเห็นว่ากระบวนการมันเหมือนเราคุยปรับแพลนกับเพื่อนหรือเอเจนซี่เลยแต่เร็วกว่ามากใช้เวลาตอบเราแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น และ Gemini ก็พร้อมปรับเปลี่ยนให้ตลอดแบบไม่มีอิดออด ทำให้แพลนมันค่อยๆ ออกมาตรงใจเราที่สุดนั่นเอง
รับมือสถานการณ์เฉพาะหน้า “ฝนตก” ปรับแผนให้ได้ทันที
ก่อนเดินทางแค่วันเดียว พยากรณ์อากาศแจ้งว่าวันที่สองของทริป (ที่วางแผนจะไป Day Trip จีหลง+เย่หลิว) ฝนจะตก! ทำไงดี? ผมกลับมาบอก Gemini ผลคือ Gemini สลับแผนวันที่สองกับวันที่สามให้ทันที! เอาแผนเที่ยวในเมือง (วัดหลงซาน, ตลาดกลางคืน) มาไว้วันที่ฝนตกแทน และย้าย Day Trip ไปวันที่คาดว่าอากาศจะดีกว่า แถมยังช่วยปรับแผนวันที่ฝนตก ให้เพิ่มไปเที่ยวที่ Four Four South Village และเน้นกิจกรรมในร่มช่วงบ่ายให้ด้วย! นี่คือความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีและทำได้จริงๆ
ตอบทุกคำถามเหมือนเป็นเพื่อนชาวไต้หวันที่อยู่กับเราตลอดเวลา
นอกจากการจัดแพลนแล้ว ระหว่างทางผมก็มีคำถามยิบย่อยตลอด เช่น
Queen’s Head Rock อยู่ที่ไหน? >>Gemini บอกว่า Yehliu Geopark
จาก Taipei Main Station ไปสนามบินเถาหยวน Terminal 1 นั่ง Airport MRT หรือ THSR ดีกว่ากัน? >> Gemini ฟันธง Airport MRT สะดวกกว่าเยอะ พร้อมเหตุผล)
ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ Xpark Aquarium มีอะไรบ้าง? >> Gemini ก็เล่าให้ฟังเป็นฉากๆจนสุดท้ายในวันฝนตกผมก็ใส่แพลนนี้เข้าไปในช่วงบ่ายซึ่งก็เรียกว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดจริงๆ
ไม่ใช่แค่แพลน แต่ช่วยคิดคอนเทนต์ต่อได้!
อันนี้ก็ถือว่าสะดวกเลยทีเดียว พอดีว่าผมอยากได้ไอเดียเขียนแคปชั่นลงโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับจุดถ่ายรูป Taipei 101 หรือรีวิว Xpark โดยให้เขียนตามสไตล์ที่ผมชอบ (ลองส่งตัวอย่างสไตล์ไปให้ดู) Gemini ก็สามารถร่างแคปชั่นตามสไตล์นั้นๆ ออกมาให้ได้เลย! เหมาะมากสำหรับคนทำคอนเทนต์ หรือแค่อยากได้แคปชั่นเก๋ๆ หลังกลับจากเที่ยว
AI มีประโยชน์แต่ก็ต้องเข้าใจข้อจำกัด
จากประสบการณ์ตรง ต้องบอกว่าการใช้ Gemini (และ Gen AI อื่นๆ) มาช่วยวางแผนเที่ยว “มันเวิร์ค!” เพราะช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง หรือมีข้อมูลเยอะแยะแต่จัดลำดับไม่ถูก ดังนั้น Generative AI ก็จะมาช่วยเราร่างโครง สร้างเส้นทาง จัดตารางเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้เราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการได้อย่างรวดเร็วด้วย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องเข้าใจเอาไว้ก็คือ AI ไม่ได้รู้ทุกอย่างแบบ Real-time ข้อมูลบางอย่าง เช่น เวลาเปิด-ปิดล่าสุด, ราคาตั๋ว ณ ปัจจุบัน, ร้านอาหารปิด/ย้าย ต้องตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเสมอ ที่สำคัญแม้ Agentic AI กำลังเป็นเทรนด์ที่กำลังจะมาก็ต้องเข้าใจด้วยว่า AI ยังไม่สามารถ “จอง” บริการต่างๆให้เราได้ในตอนนี้ เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน, ที่พัก, ร้านอาหาร, ตั๋วรถไฟ THSR, บัตรเข้าชมสถานที่ ซึ่งแน่นอนว่างานเหล่านี้เราก็ต้องทำเองกันไปก่อน
อีกเรื่องก็คือ AI จัดแพลนตามข้อมูลที่เราให้ แต่สุดท้ายเราต้องดูเองว่าแพลนนั้นแน่นไป หลวมไป หรือตรงกับสไตล์การเที่ยวของเราจริงๆ ไหม และที่สำคัญเราจะต้องตรวจสอบข้อมูลเสมอให้ยึดเอาว่าแพลนจาก AI เป็น “ร่างแรก” แล้วเรามาตรวจสอบความถูกต้องและความเป็นไปได้จริงอีกครั้งด้วยตัวเราเอง
เคล็ดลับสำหรับการใช้ Gen AI แพลนเที่ยว
1. ให้ข้อมูลตั้งต้นให้ละเอียด: ยิ่งบอกความต้องการชัดเจน (วันเวลา, ที่พัก, ไฟลท์, สถานที่ที่อยากไป, สไตล์การเที่ยว) AI ยิ่งแพลนได้ตรงใจเราได้มากขึ้น
2. ใช้การ “คุย” เพื่อปรับแก้: อย่าหยุดแค่แพลนแรก ลองขอเพิ่ม ขอตัด ขอเปลี่ยน ถามคำถาม แล้วดูว่า AI ปรับให้ได้อย่างไร
3. ระบุเงื่อนไขให้ชัดเจน: เช่น “เน้นเดินทางด้วย MRT”, “ขอกลับถึงโรงแรมไม่เกิน 3 ทุ่ม”, “ไม่เอาแนวพิพิธภัณฑ์” สามารถ “เรื่องมาก” กับ AI ได้เลยไม่ต้องเกรงใจ
4. ตรวจสอบข้อมูลสำคัญ: เวลาเปิด-ปิด, ค่าเข้า, สถานที่ตั้งร้านอาหาร/โรงแรม จากแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการเช่นเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือ Google Map อีกครั้ง
ทั้งหมดนี้คือรีวิวประสบการณ์ใช้ Gemini วางแผนเที่ยวไต้หวันที่ผมเพิ่งไปมา ซึ่งก็หวังว่าใครที่กำลังจะวางแผนเที่ยวในช่วงสงกรานต์หรือทริปต่อๆ จะลองเปิดใจใช้ AI เป็นผู้ช่วยทำทริปเที่ยวดู แล้วคุณอาจจะพบว่าการแพลนเที่ยวเองมันง่ายกว่าที่คิดเยอะจริงๆครับ