ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเกิดขึ้นบนออนไลน์ได้ ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ก็มาในรูปแบบใหม่ๆ ที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน Meta เจ้าของ Facebook และ Instagram เลยประกาศจัดหนัก เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่เพียบ! โดยเฉพาะฟีเจอร์ตรวจจับบัญชีม้า ที่ทำร่วมกับตำรวจไทย ทดสอบเป็นที่แรกของโลก เพื่อเป็นอาวุธลับให้ผู้ใช้ป้องกันตัวเองจากกลโกงรูปแบบต่างๆ
ในงานแถลงข่าวร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา Meta ได้โชว์ฟีเจอร์เด็ดๆ ที่พัฒนามาเพื่อสู้กับพวกมิจฉาชีพโดยเฉพาะ บอกเลยว่าแต่ละอันคือคิดมาแล้วว่าตอบโจทย์ปัญหาที่เราเจอกันบ่อยๆ ได้จริงๆ มีอะไรบ้างมาดูกัน

ระบบตรวจจับบัญชีม้า เช็คให้ก่อนโอน!
ฟีเจอร์นี้ Meta จับมือกับ CIB พัฒนาระบบที่ช่วยตรวจสอบ “บัญชีม้า” ซึ่งเป็นบัญชีที่มิจฉาชีพใช้รับเงินจากเหยื่อ สำหรับวิธีการทำงานของฟีเจอร์นี้ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่เราจะซื้อของออนไลน์ แล้วคนขายให้เลขบัญชีมาผ่านช่องแชท ระบบของ Meta จะเอาเลขบัญชีนั้นไปเช็กกับฐานข้อมูลบัญชีม้าของตำรวจ หากตรงกับบัญชีม้าที่อยู่ในฐานข้อมูล ระบบจะแจ้งเตือนเราในช่องแชทนั้นทันที ทำให้เราไม่ตกเป็นเหยื่อง่ายๆ
สำหรับฟีเจอร์นี้เป็นการนำร่องทดลองระบบในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลกก็ว่าได้
เทคโนโลยีจดจำใบหน้า สกัดโฆษณาแอบอ้าง ช่วยกู้บัญชีคืน!
เทคโนโลยีที่ Meta อยู่ระหว่างการทดสอบโดยใช้ AI ในการตรวจจับใบหน้า ช่วยป้องกันพวกชอบเอารูปดารา รูปคนดัง มาแอบอ้างในโฆษณาหลอกให้เราซื้อของ หรือลงทุน แล้วก็ช่วยเรากู้คืนบัญชีได้ง่ายขึ้น ถ้าเราโดนแฮ็ก แล้วคนแฮ็กเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เราเป็นต้น
ฟีเจอร์นี้ Meta ระบุว่าอยู่ระหว่างการทดสอบโดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ร่วมทดสอบฟีเจอร์นี้และคาดว่าเราจะได้ใช้กันในเร็วๆนี้
2FA: ยืนยันตัวตน 2 ชั้น ป้องกันคนแอบเข้าบัญชี!
2FA (Two-Factor Authentication) คือการยืนยันตัวตน 2 ชั้น เวลาเราจะ Login เข้า Facebook หรือ IG จะส่งรหัสมาให้เรากรอกอีกที นอกจากเราต้องใส่รหัสผ่านแล้ว เรายังต้องใส่รหัสที่ส่งมาทาง SMS หรือแอปฯ อื่นๆ ฟีเจอร์นี้ Facebook และ Instagram มีมานานแล้วซึ่งตอนนี้ก็กำลังพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ฟีเจอร์นี้แนะทำให้ทุกๆคนเปิดเอาไว้ใช้งานเพราะจะช่วยป้องกันคนแอบเข้าบัญชีเราได้ดีมาก ถึงแม้เค้าจะรู้รหัสผ่านเราก็ตาม
ยืนยันตัวตนก่อนยิงแอด: สกัดเพจปลอม, โฆษณาหลอกลวง!
ฟีเจอร์นี้ Meta กำหนดให้คนที่ต้องการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม (โดยเฉพาะเพจใหม่ๆ) ต้องยืนยันตัวตนก่อน โดยคนที่จะยิงแอดได้ ต้องให้ข้อมูลยืนยันตัวตนกับ Meta โดยใช้เบอร์โทรศัพท์ วิธีการนี้จะช่วยลดปัญหาพวกมิจฉาชีพเปิดเพจปลอมๆ ขึ้นมา แล้วยิงแอดโฆษณาหลอกลวงให้เราซื้อของไม่ได้ของ หรือลงทุนแล้วโดนเชิดเงินได้
Meta ร่วมมือพาร์ตเนอร์ในไทยเพียบ
Meta เค้าไม่ได้ทำอยู่คนเดียวแน่นอนเพราะงานนี้จับมือกับพาร์ทเนอร์อีกหลายหน่วยงานไม่ใช่เฉพาะกับ CIB เท่านั้น แต่ยังมี ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) มีการจัดอบรมให้ความรู้ SME ในการใช้เครื่องมือ Brand Right Protection ในการป้องกันการปลอมแปลง คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มีการจับมือกับ ETDA (สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์) จัด Roadshow ให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยออนไลน์ นอกจากนี้ Meta ยังมีโครงการชวนครีเอเตอร์ไทยมาทำแคมเปญ “Legit or Leg It” ให้ความรู้เรื่องการหลอกลวงออนไลน์สร้างการรับรู้ให้กับสังควงกว้างด้วย

คุณยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ บอสใหญ่ฝ่ายนโยบายสาธารณะ Facebook ประเทศไทย เค้าบอกในงานแถลงว่า พันธกิจของ Meta คือการเชื่อมโยงผู้คนและชุมชนเข้าหากัน แล้วก็ต้องสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้ทำมาหากินบนแพลตฟอร์มได้อย่างปลอดภัยด้วย เพราะถ้าแพลตฟอร์มมันไม่ปลอดภัย ก็คงไม่มีใครกล้าทำธุรกิจบนแพลทฟอร์ฒเหล่านี้ดังนั้นความปลอดภัยของผู้ใช้ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง เห็นได้จากตอนนี้ Meta มีทีมงาน 40,000 คน คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยโดยเฉพาะ แถมยังทุ่มเงินไปกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการพัฒนาเทคโนโลยีมาจัดการกับพวกมิจฉาชีพด้วย
“ไตรมาสที่ 4 ปีพ.ศ. 2567 เราได้ดำเนินการกับบัญชีปลอมถึง 1,400 ล้านบัญชี โดย 99.9% ถูกลบก่อนจะมีการรายงานเข้ามา ระบบอัตโนมัติของเราทำงานตลอดเวลาเพื่อตรวจจับและลบบัญชีปลอม สแปม และโพสต์หลอกลวงในปีที่ผ่านมา เรายังได้ลบบัญชีกว่า 408,000 บัญชีที่เชื่อมโยงกับการหลอกให้หลงรัก (Romance Scam) รวมถึงลบเพจและบัญชีที่มีส่วนร่วมในการฉ้อโกงกว่า 116,000 รายการ” คุณยิ่งยศ ระบุ
งานนี้ทำให้เห็นว่า Meta ไม่ได้มาเล่น ๆ ในเรื่องความปลอดภัยออนไลน์เพราะเราได้เห็นแล้วว่า Meta ลงทุนทั้งเงิน ทั้งคน ทั้งเทคโนโลยี เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ที่สำคัญความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในไทยมากมายก็ทำให้เห็นแล้วว่า Meta จริงจังกับเรื่องนี้แค่ไหน