• Home
    • News
    • Ad Campaign
    • Media & Advertising
    • Insight
    • Exclusive
    • Startups & SME
    • Digital Life
  • Jobs
    • Jobs List
    • Jobs Package
    • วิธีลงประกาศ
    • วิธีสมัคร company package
    • วิธีชำระ
    • Help
  • facebook.com
  • youtube.com
  • twitter.com
  • line.me
  • instagram.com
  • tiktok.com
  • rss
Marketing Oops!

Marketing Oops!

Digital | Creative | Advertising | Campaign | Strategy
Marketing Oops!
  • News
    • Viral update
    • Biz & Marketing
    • Brand Movement
    • Agency
    • eCommerce
    • CSR
    • Seminar and Event
    • Jobs update
    • PR News
  • Creative Ad
    • Thai Ad
    • Global Ad
    • Video Ad
    • Campaign Case
    • Design
    • Award
  • Media
    • Traditional media
    • Digital media
    • Social media
    • Mobile
  • Insight
    • Industry Insight
    • Media insight
    • Consumer insight
    • Mobile insight
    • Fast fact
    • Research
    • Stat/Top rank
    • Infographic
  • Exclusive
    • Insider
    • Trending
    • Campaign Case
    • Business case
    • Interview
    • Opinion
    • Career
    • Marketing How To
  • Startups & SME
    • Startups
    • Marketing for SME
    • Inspiration
  • Digital Life
  • Podcast
    • China Market Insights
    • Influencer Marketing
    • MarTech
    • Brand Life
    • The Untold Insights
    • Oops! Unbox Idea
    • When Brand Chemistry Clicks
[expired]-Digital

กฎ 17 ข้อของ Social Media Optimization (SMO)

February 11, 2009 jarern
9,711
  • 4
  •  
  •  
  •  
  •  

17 rules of Social Media Optimization (SMO)ถัดจากยุครุ่งเรืองของการทำ Search Engine Optimization (SEO) แล้ว มาถึงยุคแห่งเว็บ 2.0 นี้ จึงเกิดกระแสของการทำ Social Media Optimization (SMO) ขึ้นมา ผู้เขียนได้พบว่ามีกูรูทางด้านการตลาดของหลายๆ ประเทศ ได้ช่วยกันเสนอแนะคำแนะนำในการทำ SMO ไว้ ที่เป็นที่กล่าวขวัญกันมาก ทั้งในด้านของการริเริ่ม และการช่วยกันคนละไม้ละมือจากผู้เชี่ยวชาญจากหลายๆ ประเทศ (สมชื่อ SMO) จนเชื่อได้ว่าเป็นเหมือนตำราบทแรกของผู้ที่สนใจ SMO ควรอ่าน นั่นคือ “กฎ 17 ข้อของ Social Media Optimization (SMO)” ที่ได้นำมาแปล และนำเสนอดังต่อไปนี้ครับ

เกริ่นนำ
หลายปีที่ผ่านมา Search Engine Optimization (SEO) สำหรับเว็บไซต์ ได้กลายเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่ถึงกับมีการตั้งบริษัทเป็นจำนวนมาก ขึ้นมาเพื่อทุ่มเทในการค้นคว้า และหาวิธีการที่จะมั่นใจได้ว่าจะได้ผลที่สุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นคุณค่าของการทำ SEO ที่ช่วยเพิ่มลำดับในการแสดงผลจากการค้นหาข้อมูลตามปกติของผู้ใช้อินเทอร์เน็ท

ในขณะที่เรายังเชื่อในประสิทธิภาพของการทำ SEO เราก็ได้นำเสนอวิธีการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของเราด้วย ที่เราเรียกมันว่า Social Media Optimization (SMO)

คอนเซ็ปเบื้องหลังของ SMO ที่ว่านี้เป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เข้าใจง่าย ซึ่งก็คือ เทคนิคที่เราจะปรับปรุงให้เว็บไซต์ของเรา สร้างลิงค์เชื่อมกับ Social network ได้ง่ายขึ้น, ถูกค้นเจอง่ายขึ้นใน Search engine ที่เจาะจงใช้เพื่อค้นหา Social media (เช่น Technorati) และเพื่อให้บล็อกเกอร์อื่นๆ อ้างถึงบ่อยขึ้นในบล็อก, พอดคาสท์ หรือ วิดีโอบล็อก (vlogs) ของเขา
ต่อไปนี้คือกฎ 5 ข้อ ที่เราใช้เป็นหลักในการทำ SMO ให้กับเว็บไซต์ของลูกค้าของเรา

แปลจากข้อความดั้งเดิมของ Rohit Bhargava-Vice President for Interactive Marketing with Ogilvy Public Relations,
กฎ 5 ข้อของ Social Media Optimization (SMO)
http://rohitbhargava.typepad.com/weblog/2006/08/5_rules_of_soci.html

กฎข้อที่ 1. เพิ่มความสามารถในการ “ถูกลิงค์”
นี่เป็นกฎข้อแรกที่สำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับเว็บไซต์ เว็บไซต์จำนวนมากเป็นเว็บที่ “อยู่นิ่งๆ” (static) คือไม่ค่อยมีการอัพเดท นานๆ อัพเดทครั้งนึง หรือแค่มีไว้ประกอบการทำธุรกิจเฉยๆ ในการที่จะปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อ social media เราจำเป็นต้องเพิ่มความน่าสนใจในการลิงค์ของคอนเทนต์ (จากคนอื่นๆ) ให้มากขึ้น การเพิ่มบล็อกนับว่าเป็นก้าวแรกที่ดี อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายวิธีที่ทำได้ เช่น สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าอย่าง white paper ให้ความรู้ หรืออาจจะรวบรวมคอนเทนต์ที่มีคนอื่นสร้างไว้แล้ว ให้อยู่ในรูปแบบที่ใช้งานง่าย หรือน่าสนใจมากขึ้น

กฎข้อที่ 2. ทำให้หน้าเว็บสามารถ tag และ bookmark ได้ง่ายขึ้น
การเพิ่มฟีเจอร์อย่าง ปุ่ม “Add to del.icio.us” (หรือ add to facebook/hi5) เป็นวิธีที่ช่วยให้การ tag หน้าเว็บของ user ทำได้ง่ายขึ้น และควรให้สามารถ tag ไปยัง social network หรือ social bookmarking ได้หลากหลาย แสดงลิงค์ URL ของหน้าเว็บเพื่อให้ user copy ไปอ้างอิงได้สะดวก และอย่าลืมเรียงลำดับ social network ที่เป็นที่นิยมให้อยู่ก่อน social network อื่นๆ

กฎข้อที่ 3. ตอบแทนคนที่ลิงค์มาให้เรา
ลิงค์ที่คนอื่น (บล็อกอื่น, เว็บอื่น) ลิงค์กลับมาหาเรานั้น นับว่าเป็นตัววัดความสำเร็จของบล็อก (หรือเว็บ) ที่มักจะใช้กัน ลิงค์เหล่านี้ช่วยให้เว็บของเรามีโอกาสแสดงผลใน ผลการค้นหาของ search engine มากขึ้น และอยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้นด้วย ถ้าอยากจะให้มีคนลิงค์มาให้เรามากขึ้น ก็ต้องทำให้มันทำง่าย เช่นการแสดง permalink ให้เห็นชัดเจน (ลิงค์ตรงที่จะเข้าถึงหน้าเว็บนั้นๆ) และตอบแทนแก่คนที่ลิงค์มาให้เรา โดยการลิงค์กลับคืนให้เขาด้วย

กฎข้อที่ 4. ส่งเสริมคอนเทนต์ให้กระจายออกไป
SMO ต่างกับ SEO ที่เน้นแก้ไขแต่ตัวเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว ถ้าเว็บของคุณมีคอนเทนต์ที่ ก้อปปี้ได้ง่าย (เคลื่อนย้ายได้ง่าย) เช่น ไฟล์ PDF, วิดีโอ หรือไฟล์เสียง (mp3) การแจกจ่ายไฟล์เหล่านี้ไปยังเว็บไซต์ต่างๆ จะช่วยเพิ่มลิงค์ที่จะส่งคนกลับมาที่เว็บของเราได้มากเลยทีเดียว

กฎข้อที่ 5. ส่งเสริมการทำ mashup
ในโลกของการช่วยเหลือระหว่างกัน (ที่เราเรียก เว็บ 2.0) มันเป็นกลยุทธ์สำคัญของความสำเร็จ ในการที่เราจะยินยอมให้คนอื่นใช้คอนเทนต์ของเราได้ (ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง) ลองดูตัวอย่าง Youtube ที่ยอมให้เราสามารถเอาวิดีโอมาแปะตามเว็บไซต์ของเราได้ นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ สำหรับเว็บของเราที่อาจไม่สามารถทำได้อย่าง Youtube การทำให้มีบริการ RSS ฟีดของคอนเทนต์ ช่วยให้มันง่ายกับคนอื่นๆ ที่จะนำเอาคอนเทนต์ของเราไปเป็นส่วนผสมในการทำ mashup ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้มีผู้ชมเข้าถึงคอนเทนต์ของเรามากขึ้น

แปลจาก กฎ SMO ข้อ 1., 2., 3., 4. และ 5. ของ Rohit Bhargava-Vice President for Interactive Marketing with Ogilvy Public Relations
http://rohitbhargava.typepad.com/weblog/2006/08/5_rules_of_soci.html

กฎข้อที่ 6. ทำตัวให้เป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ แม้มันจะไม่ได้ช่วยตัวเราเอง
สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ user โดยการลิงค์ออกไปยังแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ แม้ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของคู่แข่งก็ตาม อาจจะทำใจลำบากในการทำ แต่เว็บที่รวบรวมข้อมูล หรือลิงค์ที่สำคัญ ที่มีประโยชน์ไว้อย่างครบครัน ในทุกๆ ด้านโดยไม่เกี่ยงนั้น จะได้รับรางวัลตอบแทนคือ การได้รับยกย่องว่าเป็นแหล่งข้อมูลหรือชุมชนออนไลน์ที่เป็นที่แรกที่ user จะคิดถึง และจะสร้างลิงค์มาให้ ซึ่งส่งผลดีต่อการปรากฏในผลการค้นหาจาก search engine

กฎข้อที่ 7. อย่าละเลย user ที่มีคุณค่าและให้ความช่วยเหลือ
โดยมากแล้ว user ที่โด่งดังในชุมชนออนไลน์ มักจะเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อ user คนอื่นๆ สูง และมีบทบาทสำคัญในชุมชนออนไลน์นั้นๆ วิธีที่ดีวิธีหนึ่งคือ การที่เราช่วยโปรโมทผลงาน (เนื้อหา) ที่ user คนนั้นได้ทำไว้บนโฮมเพจของเว็บ หรือเพิ่มระบบเรทติ้ง (ที่จะเชิดชู user ที่มีบทบาทให้โดดเด่นขึ้น) บางครั้ง การที่เจ้าของเว็บส่งอีเมลคำชม คำขอบคุณ ที่สั้นๆ แต่จริงใจไปยัง user คนนั้นด้วยตัวเอง ก็จะช่วยรักษา user ดีดีให้อยู่กับเว็บไซต์ต่อไปได้ แม้กฎข้อนี้จะไม่ได้เป็นการทำ SMO โดยตรง แต่มันช่วยให้ชุมชนออนไลน์ของคุณไม่เสียคนดีดีไปได้ ซึ่งสำคัญต่อเว็บไซต์ของคุณแน่ๆ

แปลจาก กฎ SMO ข้อ 6. และ 7. ของ Jeremiah Owyang- Sr Analyst at Forrester Research: Social Computing
http://www.web-strategist.com/blog/2006/08/13/rules-of-social-media-optimization/

กฎข้อที่ 8. มีส่วนร่วม
เข้าร่วมในการสนทนาในชุมชนออนไลน์ของคุณ เพราะว่า social media เป็นถนนที่มีสองฝั่ง ทั้งขาไปและขากลับ ในการสนทนาโต้ตอบกับคนในชุมชน จะช่วยให้มีคนเห็นในสิ่งที่คุณนำเสนอมากขึ้น และช่วยขยายผลต่อยอดการกระจายข่าวสารของคุณ คุณจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการสนทนาพูดคุยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามหลักการของ snowball effect

กฎข้อที่ 9. รู้ว่าจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร
เป็นปัญหาใหญ่มาก หากคุณยังไม่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ชอบให้ทุกๆ คนใช้บริการ (เนื้อหา) ของเรา แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถทำได้แบบนั้น เป็นสัจธรรมที่จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่สนใจในสินค้าและบริการของคุณมากกว่าคนอีกกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น หากลุ่มเป้าหมายของคุณให้เจอ แล้วพุ่งเป้าไปที่นั่น

กฎข้อที่ 10. สร้างคอนเทนต์ (เนื้อหา)
มีคอนเทนต์มากมายที่ผู้คนจะช่วยกันส่งต่อไปยังคนอื่นๆ อยู่แล้วโดยปกติ ไม่ว่าคุณจะขายสินค้า หรือบริการประเภทไหน ก็จะมีคอนเทนต์อะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับคุณ ที่คุณสร้างได้และจะส่งผลที่ดีด้วย ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลที่ให้ความรู้, เป็นเรื่องตลกขำขัน หรือ widget ก็ตาม ดังนั้นหาให้เจอว่าคอนเทนต์แบบไหนที่จะเวิร์คกับคุณ แล้วสร้างมันขึ้นมา

กฎข้อที่ 11. ซื่อตรง
เพราะ social media ไม่ยกย่องการหลอกลวง (และอาจจะถล่มยับ)

แปลจาก กฎ SMO ข้อ 8., 9., 10. และ 11. ของ Cameron Olthuis-Director of Marketing, Advantage Consulting Services
http://www.pronetadvertising.com/articles/introduction-to-social-media-optimization.html

กฎข้อที่ 12. อย่าเป็นวัวลืมเท้า
หากคุณได้เป็นบล็อกเกอร์ชื่อดัง บางครั้งมันก็อาจเป็นเรื่องง่ายที่จะลืมว่าเรามายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้อย่างไร อย่าลืมคนทั้งหลายที่ช่วยให้คุณได้เป็นที่รู้จัก (เช่น เหล่า user ของเว็บไซต์ของคุณ) และการเคารพในสิ่งที่เคยมีคนช่วยเหลือนั้น จะส่งผลที่ดีกับทุกๆ คนที่เกี่ยวข้อง

กฎข้อที่ 13. อย่ากลัวที่จะทดลองของใหม่
Social media นั้นเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา หมั่นอัพเดทว่ามีเครื่องมืออะไรใหม่ๆ ออกมาให้ใช้ (ซึ่งมักจะฟรี) และรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ

แปลจาก กฎ SMO ข้อ 12. และ 13. ของ Loren Baker- President at Search Engine Journal Inc.
http://www.searchenginejournal.com/social-media-optimization-13-rules-of-smo/3734/

กฎข้อที่ 14. สร้าง SMO strategy
กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าคุณทำ SMO ไปเพื่ออะไร ชื่อเสียง, ยอดขาย, สร้างกระแส, สร้างความน่าเชื่อถือ, เพื่อการกุศล, เพื่อเพจวิว/จำนวนผู้ชม ฯลฯ

กฎข้อที่ 15. เลือกเทคนิค SMO ที่เหมาะสมกับเป้าหมาย
พิจารณาว่าเทคนิค SMO ใด ให้ผลอะไร แล้วมันตรงกับที่คุณวางเป้าหมายไว้หรือไม่ เลือกใช้เทคนิคที่สอดคล้องกับเป้าหมายของคุณมากที่สุด

กฎข้อที่ 16. ทำให้ SMO เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน
พยายามทำให้กระบวนการ SMO นั้น ทำควบคู่ไปกับการสร้างเว็บของคุณตั้งแต่ระดับพื้นฐาน (ให้เป็นเรื่องปกติที่จะต้องทำทั่วทั้งองค์กร) เช่นการกำหนดให้มี ปุ่มสำหรับ add ไปยัง social bookmarking หรือ การสร้างลิงค์กลับไปยังคนที่ลิงค์มาให้ เป็นเหมือนข้อกำหนดพื้นฐานที่จะต้องทำ

แปลจาก กฎ SMO ข้อ 15. และ 16. ของ Lee Odden-CEO, TopRank Online Marketing
http://www.toprankblog.com/2006/08/new-rules-for-social-media-optimization/

กฎข้อที่ 17. อย่ากลัวที่จะเผยแพร่ไอเดียของคุณออกไป และให้ผู้อื่นเป็นเจ้าของมัน
(คำอธิบายเสริมจากผู้แปล) กฎข้อ 17. ข้อสุดท้ายนี้ เขียนโดย Rohit Bhargava ผู้เริ่มต้นเรื่องราวนี้ นับว่าเป็นบทสรุปที่ชัดเจนว่า การที่จะทำ SMO ให้ได้ผลนั้น ต้องใจกว้าง สร้างสรรค์ แล้วเผยแพร่ออกไป ซึ่งได้เห็นประจักษ์แล้วกับการที่มีกูรูทางด้านการตลาดออนไลน์จากหลากหลายประเทศ หลากหลายองค์กร ช่วยกันเติมต่อ กฎ 5 ข้อที่ Rohit Bhargava ได้เขียนไว้จนกลายเป็นกฎที่น่าสนใจ 17 ข้อ และเปลี่ยนจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทยที่ท่านอ่านอยู่นี้

แปลจาก กฎ SMO ข้อ 17 ของ Rohit Bhargava-Vice President for Interactive Marketing with Ogilvy Public Relations
http://rohitbhargava.typepad.com/weblog/2006/08/adding_the_17th.html

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ให้ความสนใจกับ SMO และหวังว่า จะช่วยกันเป็นอีกแรงหนึ่ง ที่ทำให้คนอื่นได้รู้จักมันมากขึ้น และช่วยกันพัฒนาต่อไปนะครับ หากการแปลมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ

แปลโดย เจริญ ลักษณ์เลิศกุล
ที่ MarketingOops.com

Jarern Lucklertkul
Online Marketing Strategist
contact me at: jarern at live dot com


  • 4
  •  
  •  
  •  
  •  

Related posts:

แบรนด์ที่ใช้ Social Media มากที่สุดในปี 2008
  • TAGS
  • social media marketing
  • Top Brand SMI 2008
  • แบรนด์ที่ใช้ Social Media
jarern

LATEST STORIES

#ซูชิใหม่ใกล้ฉัน ‘ซีพี-อูโอริกิ’ ปักหมุดร้านอาหารญี่ปุ่นนั่งทานได้แล้ว ประเดิมแห่งแรกที่ 7-Eleven สาขาประสานมิตร ตั้งเป้าขยาย 53 สาขาในปีนี้

July 19, 2025

เผยผลสำรวจช่วง Q2 ผู้บริโภควิตกเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจไม่ดี Gen Z วอรี่ที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการเงิน พร้อมแนะแนวทางแบรนด์ควรเข้าถึงอย่างไร

July 19, 2025

Technogym พลิกนิยามสุขภาพยุคใหม่: เปิดมุมมองคุณสุรเชษฐ์ อมรรัตนเวช กับ Healthness ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ดีไซน์ และแพลตฟอร์มอัจฉริยะ

July 18, 2025

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยชี้เศรษฐกิจแผ่วพร้อมเสนอ 2 ทางรอดที่ต้องเดิมพัน

July 18, 2025

สรุปดราม่า Andy Byron ซีอีโอบริษัทเทคยักษ์ผู้เป็นไวรัลในคอนเสิร์ต Coldplay และบทเรียนผู้นำที่ต้องรู้

July 18, 2025

“ปุ้มปุ้ย” ลุยสร้าง New S Curve เปิดตัวโปรดักส์ใหม่ 7 รสชาติ เอาใจคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชอบความง่ายแต่ต้องอร่อยมีคุณภาพ

July 18, 2025

คุยกับ ‘ปาลรัฐ รณเกียรติ’ – Aprilpoolday จาก Passion เล็กๆ สู่ Movement แฟชันชุดว่ายน้ำไทย

July 18, 2025
VIEW MORE

MarketingOops!JOBS

View More

TRENDING STORIES

วิธีใช้ Google Flow สร้าง-ตัดต่อ-เปลี่ยนมุมกล้องด้วย AI ทำโฆษณา ทำหนังง่ายๆในไม่กี่คลิก

July 11, 2025
5,074

สรุปภาษีทรัมป์ล่าสุด แบบเข้าใจง่าย ไทยจะโดนภาษีเท่าไหร่? ใครจะได้รับผลกระทบบ้าง?

July 8, 2025
3,163

วิเคราะห์แคมเปญ “20 ปี ซีเจ มอร์” ที่ไม่ “ยิ่งใหญ่” แต่ “จริงใจ” ด้วยมูฟเมนต์พันธมิตรชุมชน กับบทบาทของเวทีให้คนตัวเล็กได้เติบโต

July 1, 2025
3,105

เจาะกลยุทธ์ OR สร้าง Trust กับลูกค้าด้วย Mobile Lab หน่วยตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเคลื่อนที่เบื้องหลังความเชื่อมั่นใน PTT Station ทั่วไทย

July 1, 2025
2,701

GLOBAL WORK เลือกเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน เปิดสาขาแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำพลังแฟชั่นเดสติเนชัน กรุงเทพฯ – นนทบุรี

July 12, 2025
2,016

‘ใครไม่โก้…ทิวลิปโกโก้’ จากเพื่อนสนิทของผู้ใช้คาเฟ่และเบเกอรี่ สู่แคมเปญสุดเก๋ากับ ‘ขายหัวเราะ’ ผ่านพลังแห่ง Nostalgia Marketing

July 2, 2025
1,922

เข้าใจ Gen Z Stare สายตาที่ว่างเปล่า-ไม่รับโทรศัพท์-รับแล้วไม่พูด พฤติกรรมคน Gen Z ที่รุ่นพี่ไม่เข้าใจ

July 17, 2025
1,280
VIEW MORE

BUSINESS CASE

เปิดเหตุผล KFC: Let There Be Cake คว้า Gold Lion จุดเริ่มต้นจาก meme เล็กๆ สู่เวทีโลก พร้อมเฉลยเบื้องหลัง ‘เค้ก’ ทุกชิ้นคือของจริง ยิ่งกว่าโนแลน!

July 15, 2025
Salad Factory

บทเรียนธุรกิจ “Salad Factory” ยึดมั่น Brand DNA “ความคุ้มค่า + ฟังเสียงลูกค้า” พายอดขายทะยานสู่ 730 ล้านบาท

July 10, 2025

เรียนรู้ 5 วิธีบริหารของ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ที่ทุบสถิติโลกมูลค่าบริษัททะลุ 4 ล้านล้านเหรียญ

July 10, 2025

พีท-ประณิธาน พรประภา กับ 10 ปี Wonderfruit: จาก Mind-Nature-Sound สู่ Movement วัฒนธรรมระดับภูมิภาค

July 9, 2025

ถอดสูตรสำเร็จสำเร็จ “เต่าบิน” ตู้กาแฟอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยพลังแห่ง Data

July 7, 2025
View More

PR NEWS

ซีพี แอ็กซ์ตร้า มอบทุน AXTRA STAR SCHOLARSHIP 13 ทุน 3 สถาบัน เสริมแกร่งบุคลากรสายอาหารและนวัตกรรม ขับเคลื่อนตลาดแรงงานคุณภาพอย่างยั่งยืน

July 18, 2025

“เพอร์ร่า” ผนึก “PIPATCHARA” ออกคอลเล็กชั่นใหม่ AQUA – R- US ถ่ายทอดความงามธรรมชาติผ่านแฟชั่นที่ยั่งยืน

July 18, 2025

เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย เดินหน้า ‘Red Carpet Program’ มุ่งยกระดับ ประสบการณ์พรีเมียม ผ่านการจัด ‘Red Carpet Training’ เสริมศักยภาพทีมงาน เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า

July 17, 2025

กลับมาอีกครั้ง! เทศกาลอาร์ตทอยไทย Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น ตอน “Eastern Secrets : ตามหา (ความลับ) ภาคตะวันออก”  26-27 กรกฎาคม 2568 ที Siam Center

July 17, 2025

สยาม ทาคาชิมายะ จัดแคมเปญ Mid Year Sale : SHOP NON-STOP ON TOP สุดคุ้ม!! ปลุกกำลังซื้อกลางปี ลดสูงสุด 60% วันนี้ – 3 สิงหาคม 2568

July 17, 2025
View More
Marketing Oops! Facebook
  • facebook.com
  • youtube.com
  • twitter.com
  • line.me
  • instagram.com
  • tiktok.com
  • rss

MARKETING OOPS!

Advertise with us   |   Contact Us

MarketingOops.com was launched in Nov 2008, The number 1 leading digital media and advertising 's publisher in Thailand, to report on an emerging media and digital marketing industry.
The web site covers digital marketing, trends advertising, campaign creative ideas, media, mobile and technology.

Our Partners

Marketing Oops! | © Copyright All right reserved | Discliamer & Policy
Top
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอคอนเทนต์และโฆษณาที่ท่านอาจสนใจเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์ของเราต่อไปโดยไม่ได้ปรับการตั้งค่าใดๆ เราเข้าใจว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ของเรายอมรับเรียนรู้เพิ่มเติม