
การเปลี่ยนผ่านจาก “โปรเจกต์เล็ก ๆ” สู่การสร้างหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ถูกจับตามากที่สุดในโลกโซเชียลมีเดีย คือเส้นทางที่สะท้อนทั้งวิสัยทัศน์และความท้าทายของ Jay Graber ซีอีโอของ Bluesky ผู้ซึ่งไม่เคยมีตำแหน่งบริหารระดับสูงมาก่อน แต่วันนี้เธอคือหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนแนวคิด decentralized social media ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด
จุดเริ่มต้นจากโอกาสที่ไม่คาดคิด
Graber เริ่มต้นจากการถูก Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ชักชวนให้เข้ามาทำงานวิจัยเรื่องการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลแบบเปิด (open-source) และกระจายศูนย์ (decentralized) จุดขายไม่ใช่การเป็น “Twitter เวอร์ชันใหม่” แต่คือการให้ผู้ใช้หรือผู้ดูแลแต่ละชุมชนสามารถตั้งกฎเกณฑ์เองได้ ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นกรองคอนเทนต์หรือการปกป้องข้อมูลส่วนตัว
เริ่มต้นจาก Pain Point ของผู้ใช้ ในโลกที่ผู้คนกังวลเรื่องการถูกควบคุมและจำกัดเสรีภาพทางดิจิทัล Bluesky เสนอสิ่งที่แตกต่าง: การเลือกเสรีว่าเราอยากอยู่ในชุมชนแบบไหน
วิกฤต Twitter กับโอกาสของ Bluesky

เมื่อ Elon Musk ซื้อกิจการ Twitter และเปลี่ยนชื่อเป็น X ความสัมพันธ์ระหว่าง Twitter กับ Bluesky ถูกตัดขาด แต่สิ่งที่ดูเหมือนเป็นวิกฤตกลับกลายเป็น “แรงส่ง” ครั้งใหญ่ให้ Bluesky ได้ออกตัวเต็มกำลัง ผู้ใช้งานจำนวนมากที่ไม่พอใจกับทิศทางใหม่ของ X เริ่มหาที่หลบไป และ Bluesky คือหนึ่งในจุดหมาย
First Mover Advantage ในจังหวะวิกฤต แบรนด์ที่พร้อมเปิดตัวในเวลาที่คู่แข่งเผชิญแรงต่อต้าน จะได้รับความสนใจเกินคาด แม้จะยังไม่พร้อม 100% ก็ตาม
Graber ยอมรับว่าทีมงาน Bluesky ซึ่งมีเพียง 20 กว่าคน ไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับคลื่นผู้ใช้หลายแสนคนที่เข้ามาในช่วงเวลาเดียว แต่แทนที่จะมองว่าเป็นปัญหาที่ “ใหญ่เกินรับมือ” เธอกลับใช้มันเป็นแรงผลักให้ทีมเรียนรู้และเติบโตอย่างรวดเร็ว
แม้ภาพลักษณ์ในตลาดจะถูกมองว่าเป็นแพลตฟอร์มฝั่งเสรีนิยม แต่ Graber ย้ำว่า Bluesky ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการเมือง จุดแข็งแท้จริงคือการสร้าง “Social Infrastructure” ที่ผู้คนสามารถสร้างคอมมูนิตี้และคอนเทนต์ฟีดตามที่ต้องการ
วิสัยทัศน์ระยะยาว: จากแพลตฟอร์มสู่โปรโตคอล
Graber ไม่ได้หยุดแค่การทำให้ Bluesky เป็นแอปที่ผู้คนใช้งาน แต่ตั้งเป้าให้ โปรโตคอลของ Bluesky กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของโซเชียลเว็บ หรือพูดง่าย ๆ คืออยากให้แบรนด์และนักพัฒนาอื่น ๆ สร้างแอปโซเชียลบนโครงสร้างของ Bluesky
หากสำเร็จจริง จะเป็นการเปลี่ยนเกมธุรกิจจาก B2C (แข่งขันเพื่อดึงผู้ใช้) ไปสู่ B2B2C (เป็นโครงสร้างพื้นฐานให้ทุกแพลตฟอร์ม) ซึ่งจะสร้างมูลค่าที่ใหญ่กว่า และเป็นการวางหมากระยะยาวอย่างแท้จริง
บทเรียนธุรกิจและการตลาดจากกรณี Bluesky
- Crisis as Catalyst – วิกฤตของคู่แข่งอาจเป็นจังหวะทองของเรา
- Lean but Empowered – ทีมเล็กสามารถสู้กับความท้าทายใหญ่ได้ หากทุกคนมีอำนาจตัดสินใจและความรับผิดชอบเต็มที่
- Redefine the Game – ความแตกต่างที่ยั่งยืนไม่ได้มาจากการเลียนแบบ แต่จากการเขียนกติกาใหม่
- Vision Beyond Users – การเติบโตที่แท้จริงไม่ใช่จำนวนผู้ใช้เพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้างมาตรฐานใหม่ให้ทั้งอุตสาหกรรม

สตาร์ตอัพไม่จำเป็นต้องเริ่มจากแผนธุรกิจที่สมบูรณ์ แต่คือการจับสัญญาณตลาดให้ถูกจังหวะ มีความชัดเจนในสิ่งที่สร้าง และกล้าที่จะยืนหยัดในวิสัยทัศน์ระยะยาว สำหรับธุรกิจและนักการตลาด สิ่งนี้คือเครื่องเตือนใจว่า เกมที่ธุรกิจเล่นอาจไม่ใช่แค่การแย่งผู้ใช้ในวันนี้ แต่คือการนิยามอนาคตของทั้งอุตสาหกรรม
Source: CNBC Make it