Veolia เข้าถือหุ้นใหญ่ในชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ (CCE) ปักธงผู้นำโรงไฟฟ้าพลังงานจากขยะในประเทศไทย

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

กลุ่มบริษัทวีโอเลีย (Veolia) ผู้นำระดับโลกด้านการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนเดินหน้าขยายการลงทุนในประเทศไทย ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งจะเพิ่มสิทธิ์ถือครองในบริษัท ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CCE) จาก 33.3% เป็น 66.6% ผ่านการเข้าซื้อหุ้น 33.3% จากบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ในบริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ด คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (ESCE) บริษัทโฮลดิ้งซึ่งถือหุ้น 99.99% ในบริษัท ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CCE) ทั้งนี้ CCE ถือเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานจากขยะ (Waste-to-Energy) ที่ทันสมัย รองรับการกำจัดและแปรรูปขยะที่ไม่เป็นอันตรายได้อย่างครบวงจร โดยตั้งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2567 CCE แสดงศักยภาพด้านการบริหารงานสิ่งแวดล้อมในโรงงานได้อย่างโดดเด่นด้วยการผลิตพลังงานกว่า 65,072 เมกะวัตต์ชั่วโมง เทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนกว่า 260,000 หลังคาเรือนต่อปี และบริษัท ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 24,294 ตัน โดยความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการดำเนินงาน ที่มีประสิทธิภาพสูง โดย CCE สามารถรักษาอัตราความพร้อมใช้งานได้ถึง 92% ( คิดเป็นเวลาการเดินเครื่องรวมกว่า 8,075 ชั่วโมง) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานจากขยะ (WtE) ทั่วไปอย่างชัดเจน ตอกย้ำความโดดเด่น ด้านการออกแบบโรงงานที่ทันสมัย การบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล และความน่าเชื่อถือในการจัดการขยะ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการสร้างเสริมความเป็นผู้นำของ CCE ในตลาดพลังงานจากขยะ แต่ยังเสริมบทบาทของบริษัทวีโอเลียในฐานะผู้นำด้านพลังงานจากขยะ (Waste-To-Energy) ในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ และผลงานการดำเนินงานที่โดดเด่นมาตลอดในการมุ่งขยายขอบเขตธุรกิจจากการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน ไปสู่การเปลี่ยนขยะ ให้กลับมาเป็นทรัพยากรที่นำมาใช้ใหม่ได้ (Waste-to-Resource) อย่างครบวงจร ทั้งยังจะช่วยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทย ในการบรรลุเป้าหมายด้านการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ และเร่งการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจไทยจากเศรษฐกิจแบบเส้นตรง แบบดั้งเดิม (Linear Economy) ไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อันจะนำไปสู่การลดปริมาณขยะ และมลพิษอย่างยั่งยืน สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทวีโอเลียสอดคล้องอย่างเต็มที่ กับกรอบการจัดการขยะอุตสาหกรรมของประเทศไทย โมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) รวมถึงร่างพระราชบัญญัติกากอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

“การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทวีโอเลียในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านการจัดการขยะของ ประเทศไทยอย่างแท้จริง เรานำความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินงานด้วยประสบการณ์ระดับโลกในการทำงานของเรากว่า 170 ปี มาปรับใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของบริษัท CCE ให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้นผ่านการขยายการรองรับขยะหลากหลายประเภท เปลี่ยนให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ายิ่งขึ้น ซึ่งแนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ GreenUp ของบริษัทวีโอเลีย ที่มุ่งลดการปล่อยคาร์บอน กำจัดมลพิษ และฟื้นฟูทรัพยากรเพื่อนำมาใช้ใหม่ โดยสิ่งนี้ตอกย้ำบทบาทของเราในฐานะพันธมิตรหลักของประเทศไทย ในการสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืน และเร่งการเปลี่ยนผ่านภาคอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืน ให้พร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นต่อไป” นายเฌอโรม เลอ บอรก์เนีย – Country Head บริษัท วีโอเลีย ประเทศไทย กล่าว


  •  
  •  
  •  
  •  
  •