โลตัส x SOURI จับมือปั้น ‘คาเฟ่ใจฟู’ Win-Win Strategy สุดเจ๋ง ดึงใจคนรุ่นใหม่ผ่านประสบการณ์ใหม่ ด้วย 5 เมนูมาการองสุดเอกซ์คลูซีฟ! สร้างกลยุทธ์แตกต่างในธุรกิจค้าปลีก

 

เมื่อยักษ์ใหญ่ธุรกิจค้าปลีกอย่าง “โลตัส” (Lotus’s) พบกับแบรนด์มาการองฝรั่งเศสร่วมสมัยอย่าง SOURI ที่กำลังครองใจคนรุ่นใหม่ การจับมือครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การร่วมมือธรรมดา แต่เป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์เข้าด้วยกัน โลตัส นำเสนอเครือข่ายและประสบการณ์การค้าปลีกที่แข็งแกร่ง ขณะที่ SOURI มาพร้อมกับเอกลักษณ์ของความหวานนุ่มฟูและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ การรวมตัวกันครั้งนี้จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะนิยามใหม่ของประสบการณ์การช้อปปิ้ง ฉีกกลุยทธ์คอลแลปของธุรกิจรีเทลให้แตกต่าง ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านค้าปลีกของโลตัส

 

การเปิดตัวที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในธุรกิจค้าปลีก

 

ในโอกาสครบรอบ 31 ปี โลตัส ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ SOURI แบรนด์มาการองสไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัยที่กำลังได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ เปิดตัว “คาเฟ่ใจฟู” แห่งแรกในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Taste the Dream, Soft as Sweetness” หรือ “คาเฟ่ใจฟู คือความสุขที่กินได้”

การร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดของโลตัสในการปรับตัวเข้าสู่ยุค Experience Economy โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์การบริโภค แต่ยังสร้างอารมณ์และความประทับใจที่ยาวนาน

นอกจากนี้ ด้านดีไซน์ออกแบบร้านและบิวด์บรรยากาศก็ไม่ธรรมดา แต่ละดีเทลล้วน #ใจฟู โดย “คาเฟ่ใจฟู” ได้รับการออกแบบด้วยโทนสีพาสเทลสดใส เน้นองค์ประกอบที่สื่อถึงความ “นุ่ม” “ฟุ้ง” และ “ฟู” เพื่อสร้างอารมณ์ที่ให้ความรู้สึกคิวท์และโฮมมี่ การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดสายตา แต่ยังตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ชื่นชอบแชะแล้วแชร์บนโซเชียลมีเดีย

 

5 เมนูมาการอง ซิกเนเจอร์ การคอลแลบฯ ที่สร้างความแตกต่าง

 

อีกสิ่งที่เป็นกิมมิกพิเศษของการคอลแล็บในครั้งนี้คือ การนำเสนอ 5 รสชาติมาการองสุดเอกซ์คลูซีฟ! ที่จะหาทานได้เฉพาะในช่วงโลตัส 31 ปีเท่านั้น โดยแต่ละเมนูได้รับการคิดค้นอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ได้แก่

1. Cotton Cloud Blueberry (Vanilla + Blueberry) – หอมหวานและนุ่มละมุนจากกลิ่นวานิลลาผสมกับความหวานซ่อนเปรี้ยวของบลูเบอร์รี่ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆที่นุ่มฟู
2. Lychee Celebration Cloud (Vanilla + Lychee) – หอมหวานจากวานิลลาและกลิ่นลิ้นจี่ที่หวานอมเปรี้ยว ให้ความรู้สึกสดชื่นและรสชาติที่ลงตัว สะท้อนถึงการเฉลิมฉลองที่หวานหอม
3. Chocolate Carnival Dream (Chocolate + Strawberry) – หอมหวานเข้มข้นของช็อกโกแลตผสมกับความหอมหวานของสตรอว์เบอร์รี่ รสชาติที่สนุกสนานเหมือนอยู่ในงานคาร์นิวัล สร้างความรู้สึกดีและมีความสุข
4. Jubilee Mango Cloud (Vanilla + Mango Passion Fruit) – หวานอมเปรี้ยวจากมะม่วงผสมกับเสาวรสและกลิ่นวานิลลา ให้ความรู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวาเหมือนกำลังเริ่มต้นวันใหม่
5. Minty Cotton Cloud Breeze (Vanilla + Milk) – หอมหวานละมุนของวานิลลาและนม มีความนุ่มนวลและกลมกล่อม ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนสายลมในฤดูร้อนที่พัดผ่าน

 

 

นอกจากมาการองแล้ว คาเฟ่ใจฟู ยังนำเสนอเครื่องดื่ม 5 รสชาติที่ออกแบบมาให้เข้ากันกับมาการอง อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น 1) Dreamy Cotton Cloud เครื่องดื่มที่มีความหอมจากมะพร้าวผสมความหวานจากบลูเบอร์รี่พร้อมฟองนมนุ่ม 2) Celebration Fizzy Berry เมนูที่มอบความสนุกทุกครั้งเมื่อเกิดกับคาราวานผลไม้ที่ให้ความสดชื่นสูงสุด  3) Carnival Fluffy สนุกไปกับข้าวโพดที่กินได้อร่อยและความหวานพร้อมคลุกเคล้าช็อกโกแลตพร้อมฟองนมนุ่มๆ 4) Jubilee Dream เมนูนี้รวมความสดชื่นของมะม่วงพร้อมความหอมหวานจากมิกซ์เบอร์รี่และความเปรี้ยวของเสาวรส และ 5) Minty Cloud Delight มีความหวานอร่อยจากโอริโอ้ วานิลา และมินต์

 

5 กลยุทธ์ทางธุรกิจพิชิตตลาดบนความร่วมมือ 2 แบรนด์สุดแกร่ง

 

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นมิติใหม่ของการ Collaboration ที่เกิดขึ้นอย่างน่าสนใจระหว่างแบรนด์ไฮเปอร์มาร์เก็ตกับแบรนด์ขนมหวาน ซึ่งทั้งสองนั้นนอกจากมีโพสิชั่นบนตลาดแตกต่างกันแล้วกลุ่มลูกค้าก็ยังแตกต่างกันด้วย ซึ่งทำให้การจับมือครั้งนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เราขอชวนวิเคราะห์กลยุทธ์ความร่วมมือ ดังนี้

1. Strategic Partnership แบบ Win-Win

ความร่วมมือนี้สร้างประโยชน์ร่วมกันทั้งสองแบรนด์ โลตัสได้เข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เป็นแฟนของ SOURI ขณะที่ SOURI ได้ขยายช่องทางจำหน่ายผ่านเครือข่ายโลตัสทั่วประเทศ

2. Market Penetration Strategy

การเปิดสาขาใน 7 จุดพร้อมกัน ตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปจนถึงต่างจังหวัด ได้แก่ โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต รามอินทรา,บางนาตราด, เชียงใหม่คำเที่ยง, สระบุรี, สุขาภิบาล1, นอร์ธราชพฤกษ์ และ โลตัส โก เฟรช ซูเปอร์มาร์เก็ต  นวลจันทร์

แสดงถึงกลยุทธ์การเข้าถึงตลาดอย่างรวดเร็วและครอบคลุม เพื่อสร้างการรับรู้และทดสอบความต้องการของตลาด

3. Limited Time Strategy

การจำกัดเวลาเฉพาะช่วงเดือนตุลาคม เดือนเดียวเท่านั้น 1-31 ตุลาคม 2568 สร้าง Sense of Urgency และ Exclusivity ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภครีบมาทดลองก่อนหมดโอกาส

4. Experience-Driven Marketing

การเน้นที่ประสบการณ์มากกว่าผลิตภัณฑ์ ผ่านมุมถ่ายรูป ตู้สติ๊กเกอร์ และบรรยากาศโดยรวม ตอบสนองต่อพฤติกรรมการแชร์และสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียของผู้บริโภคยุคใหม่

5. Cross-Category Innovation

การขยายจากธุรกิจค้าปลีกสู่ธุรกิจ Food & Beverage แสดงถึงการนำนวัตกรรมข้ามหมวดหมู่มาใช้ เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้เสริม

 

 

ความสำเร็จของโครงการนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเทรนด์ใหม่ในธุรกิจค้าปลีกไทย ที่ผู้ประกอบการจะหันมาให้ความสำคัญกับการสร้าง Partnership ข้ามอุตสาหกรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะช่วงเวลา และการสร้างประสบการณ์ที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมและการแชร์บนโซเชียลมีเดีย ที่สำคัญ การเปิดตัว “คาเฟ่ใจฟู” ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 31 ปีของโลตัส แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการปรับตัวและการเติบโตในยุคที่ผู้บริโภคต้องการมากกว่าแค่ผลิตภัณฑ์ แต่ต้องการประสบการณ์และความสุขที่สามารถสัมผัสได้จริง

 

 

ความร่วมมือระหว่าง โลตัสและ SOURI นับเป็นตัวอย่างที่ดีของ Strategic Alliance ที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน มีการวางแผนที่ครอบคลุม และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทั้งแบรนด์และผู้บริโภค การนำเสนอประสบการณ์ “ความสุขที่กินได้” ผ่าน 5 เมนูมาการองและเครื่องดื่มพิเศษ แล้วยังรวมไปถึงสร้างอีโมชันนอลผ่านร้านสุดคิวท์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจ คาดว่าจะสามารถสร้างปรากฏการณ์ทางการตลาดและเป็นแรงบันดาลใจให้กับธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ ในการพัฒนากลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต มาแวะชิมมาการองเอ็กคลูซีฟและประสบการณ์สุดใจฟู ได้ตั้งแต่ วันที่ 1 – 31 ตุลาคม 68 นี้ ที่โลตัส 7 สาขา ได้แก่ โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต รามอินทรา,บางนาตราด, เชียงใหม่คำเที่ยง, สระบุรี, สุขาภิบาล1, นอร์ธราชพฤกษ์ และ โลตัส โก เฟรช ซูเปอร์มาร์เก็ต  นวลจันทร์