แพลตฟอร์มความบันเทิงที่น่าจับตามากที่สุดในเวลานี้ หนึ่งในนั้นคงเป็น ‘TikTok’ อย่างปฏิเสธไม่ได้ ด้วยยอดดาวน์โหลด และจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จำนวน ‘TikTok Stars’ ยังเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ขณะที่แพลตฟอร์มดังกล่าวได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มทางการตลาดดิจิทัลที่มีอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆ ในปัจจุบัน
คุณสุรยศ เอี่ยมละออ Head of Marketing ของ TikTok เล่าให้ฟังในงาน ‘TikTok Wrap Up 2020’ ว่า TikTok กลายเป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์ และการทำการตลาดดิจิทัล เพื่อที่แบรนด์ต่างๆ จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Gen Z ซึ่งเป็นกำลังซื้อสำคัญทั้งปัจจุบัน และในอนาคต ทั้งยังเป็นกลุ่มผู้ใช้งาน TikTok สัดส่วนใหญ่ 60% ของตลาดในประเทศไทย
โดยได้พูดถึงจุดยืนในก้าวต่อไปของ TikTok ประเทศไทยว่า สิ่งที่อยากจะทำต่อไป คือ การปรับโฉม TikTok ให้พัฒนาสู่การเป็นพื้นที่แห่ง ‘แรงบันดาลใจ – ครีเอทีฟ’ ให้เป็นมากกว่าพื้นที่ให้ความบันเทิงอย่างเมื่อก่อน ตามคอนเซ็ปต์ไอเดีย ‘inspire creativity and bring joy’ (การสร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อความสุขให้กับผู้คน)
พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นการสร้าง Ecosystem ให้กับแพลตฟอร์ม TikTok ใหม่เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้, นักครีเอทีฟ รวมไปถึงแบรนด์ต่างๆ ทำให้รู้สึกว่า เต็ม และ เสริมสร้างประสบการณ์ให้เราได้
ยกเครื่อง TikTok สร้าง Ecosystem ด้วย 3 กลยุทธ์
โอกาสที่จะยกระดับ TikTok ให้ประสบความสำเร็จในการปรับจุดยืนใหม่ จากแพลตฟอร์มบันเทิงเท่านั้น ให้เป็นศูนย์รวมความคิด ความสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจต่างๆ 3 สิ่งที่จะทำ ก็คือ
-
กลยุทธ์ด้านคอนเทนต์
เราจะเพิ่มความหลากหลายของคอนเทนต์ เพื่อตอบโจทย์ความสนใจที่หลากหลายของผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์, ศิลปิน, ดาว TikTok หน้าใหม่ ฯลฯ เพื่อที่จะสร้างคอนเทนต์ที่ exclusive ขึ้นและต้องหลากหลายด้วย เช่น TikTok Stage with BLACKPINK, WOODY’S TIKTOK STAR LIVE, กลุ่มแฟนคลับซีรีย์ Y หรือแม้แต่ กลุ่มสายมู(เตลู) ที่ชอบการดูดวง เป็นต้น
-
กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์หรือการพัฒนาแพลตฟอร์ม
เป็นการเปิดฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์บนแพลตฟอร์ม เช่น TikTok LIVE ที่จะเปิดให้สำหรับผู้ใช้ที่มียอดผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป และมีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ livestreaming ได้ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มความยาวของคอนเทนต์วิดีโอบนแพลตฟอร์ม เป็น 3 นาที สำหรับผู้ใช้ที่มี followers 5,000 คนขึ้นไป อันนี้ก็เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้หลากหลายขึ้นนั่นเอง
-
กลยุทธ์ด้านครีเอเตอร์
ด้วยความที่ก้าวใหม่ของ TikTok ต้องการคอนเทนต์ที่หลากหลายรูปแบบ ดังนั้น TikTik จึงสนับสนุนให้ทุกคนใครก็ได้สามารถเป็น New Creator ได้ง่ายๆ ผ่านการเข้าร่วมแคมเปญ #TikTokUni เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนหรือแชร์ความรู้ ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ
นอกจากนี้ยังได้เปิดบริการ ‘TikTok Creator Marketplace’ เพื่อที่จะเชื่อมต่อครีเอเตอร์และแบรนด์ สำหรับธุรกิจที่ต้องการต่อยอดโอกาสนี้ ไปสู่การสร้างรายได้ทั้ง 2 ทาง และยังเป็นช่องทางใหม่สร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์บน TikTok ได้อีกด้วย
ถ้าดูจากจุดสตาร์ทใหม่ของ TikTok ก็น่าสนใจไม่น้อย และท่าทางจะไปได้สวย เพราะดูจากที่ผ่านมาปรากฏการณ์ทั่วโลกของแพลตฟอร์มนี้ พูดได้ว่า เป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี แม้จะพ้นจากช่วงล็อกดาวน์แล้วก็ตาม แต่ TikTok ก็ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดการดาวน์โหลด TikTok ทั่วโลกที่ยังครองอันดับ 1 มาตั้งแต่ต้นปี จากข้อมูลของ Sensor Tower
ขณะที่ TikTok ก็พยายามพัฒนาแพลตฟอร์มมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอคอนเทนต์ผ่านหน้าฟีต ‘For You Page’ ที่ใช้ Machine Learning ให้เราได้ดูคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด หรือจะเป็น ‘Creative Tools’ ที่ทำให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์และสร้างคอนเทนต์วิดีโอได้เองง่ายๆ ซึ่งเครื่องมือยอดนิยมของคนไทย ก็อย่างเช่น Green Screen, Voice Over, Sticker และ Stitch เป็นต้น
ยังไม่พอแคมเปญที่ผ่านมา ที่ได้รับความนิยมสูงสุด อย่าง ‘Hashtag Challenge’ ทำให้หลายๆ stars เป็นที่รู้จักในวงการกระแสไวรัลมากขึ้น นอกจากนี้ก็มีแคมเปญอื่นๆ อีกมากที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น #igogechallenge, ใส่ใจได้แค่มอง, #เมษาAtHome ซึ่งก็เป็นการส่งต่อความสุขให้กับคนดูได้ง่ายๆ
คุณสุรยศ พูดว่า “เหตุผลเหล่านี้ที่ TikTok ต้องการปรับจุดยืนให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มความบันเทิง ต้องการสร้าง Ecosystem ใหม่ให้แข็งแรงและยั่งยืนกว่าเดิม อย่างน้อยๆ ก็สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ – ครีเอเตอร์ – พันธมิตรแบรนด์’
เห็นแบบนี้แล้วอดคิดไม่ได้ว่า ตลาดแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งน่าจะลุกเป็นไฟแน่ๆ เพราะ Ecosystem ของ TikTok ค่อนข้างน่าสนใจ และไม่แน่นะ TikTok อาจเปลี่ยน digital marketing space สำหรับธุรกิจในอนาคตก็ได้