ในโลกที่ “เทศกาล” กลายเป็นมากกว่างานดนตรี แต่คือพื้นที่ทดลองแนวคิดใหม่ๆ ด้านวัฒนธรรม ความยั่งยืน และจิตวิญญาณ — Wonderfruit ยืนหนึ่งในฐานะพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมา “ทดลองใช้ชีวิต” ร่วมกันบนพื้นฐานของความสร้างสรรค์และความใส่ใจต่อโลก
ปี 2568 นี้ Wonderfruit ครบรอบ 10 ปีเต็ม และกลับมาพร้อมประกาศจุดยืนใหม่ว่า เทศกาลนี้จะไม่ใช่เพียง “งานประจำปี” อีกต่อไป แต่คือ “แพลตฟอร์มวัฒนธรรมตลอดปี” ที่จะยกระดับประสบการณ์ของผู้ร่วมงานให้ลึกซึ้ง และขยายอิทธิพลสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองก้าวสำคัญนี้ Wonderfruit เตรียมเปิดจำหน่ายบัตรรอบ Public Sale ระหว่างวันที่ 9–12 มิถุนายน 2568 เพียง 72 ชั่วโมงเท่านั้น โดยปีนี้งานจะจัดขึ้นในวันที่ 11–15 ธันวาคม ณ The Fields สยามคันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี เช่นเคย
จากเทศกาลสู่แพลตฟอร์ม: การเปลี่ยนผ่านทางวัฒนธรรม
ตั้งแต่ปีแรกในปี 2557 Wonderfruit ไม่ได้เป็นแค่เทศกาลดนตรี แต่คือการทดลองแบบมีความหมายระหว่างคน เสียง ธรรมชาติ และศิลปะ ที่ผสานกันในพื้นที่เดียวอย่างมีเป้าหมาย และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พื้นที่แห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งรวมของศิลปิน นักออกแบบ สถาปนิก เชฟ นักกิจกรรม และผู้คนจากทั่วโลกที่ต้องการเรียนรู้และแลกเปลี่ยน
ในวาระครบรอบ 10 ปี ปีนี้ Wonderfruit จึงไม่เพียงเฉลิมฉลองอดีต แต่คือการ “ขยายขอบเขตแห่งความเป็นไปได้” ให้ลึกและกว้างกว่าเดิม ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม การออกแบบ การฟัง การกิน และการมีอยู่ร่วมกันอย่างมีความหมาย
ผืนดินคือหัวใจ: สู่ระบบนิเวศที่ทุกอย่างมีชีวิต
พื้นที่ 500 ไร่ของ “The Fields” ในปีนี้จะไม่ใช่แค่สถานที่จัดงาน แต่คือระบบนิเวศแบบมีสติและมีส่วนร่วม โดย Wonderfruit เตรียมปลูกพืชท้องถิ่นเพิ่มอีก 5,000 ชนิด และพืชริมน้ำอีก 1,000 ต้น เสริมจากต้นไม้กว่า 30,000 ต้นที่ปลูกไว้แล้ว
ไฮไลต์สำคัญคือการขยาย “Ancestral Forest” ป่าพื้นที่กิจกรรมที่รวมงานศิลปะ สวนสมุนไพร และป่าต้นยางนา ไว้ด้วยกันเพื่อเป็นที่เรียนรู้เรื่องพืช ยาสมุนไพร และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยผลิตผลจากผืนดินจะนำมาหมุนเวียนเป็นวัตถุดิบอาหาร ไม่มีอะไรกลายเป็นขยะ
และในปีนี้ Wonderfruit ยังยกระดับนโยบาย Zero Waste ไปอีกขั้น ด้วยระบบ “บาร์ไร้ขยะ” การทำปุ๋ยหมักอย่างจริงจัง และเป้าหมาย “Zero Landfill” ที่ของเสียจากเทศกาลจะไม่ลงหลุมฝังกลบแม้แต่ชิ้นเดียว
ศิลปะและการออกแบบ: ภูมิทัศน์ที่ฟังและพูดกับคุณ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Wonderfruit แตกต่างจากทุกเทศกาลในไทยคือ การให้ความสำคัญกับ “พื้นที่” พอๆ กับ “กิจกรรม” ปีนี้แลนด์มาร์กทางสถาปัตยกรรมจะถูกปรับโฉมใหม่ให้ทั้งใช้ได้จริงและให้ประสบการณ์แปลกใหม่ เช่น:
- Living Village (Creature Stage) ได้รับการออกแบบใหม่โดย Design Qua Studio รองรับผู้ชมกว่า 2,000 คนบนภูมิทัศน์ที่มีระบบเสียงดียิ่งขึ้น
- Molam World ต้อนรับ Molam Theatre โรงละครไม้ถาวร โดย PO-D Architects ที่เฉลิมฉลองดนตรีและวัฒนธรรมอีสาน
- Baan Bardo เขาวงกตแห่งจินตนาการโดยศิลปินวิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเสียง การออกแบบ และความลี้ลับ
พร้อมด้วย Social Interventions โดย Ab Rogers Design และศิลปินรับเชิญ ที่ทำให้ศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตมากกว่าการจัดแสดงเพียงอย่างเดียว
เสียง-รสชาติ-สุขภาวะ: สามประสานเพื่อเปลี่ยนแปลงภายใน
ปีนี้ Wonderfruit สำรวจพลังของ “เสียง” อย่างลึกซึ้งผ่านโปรแกรม Sonic Minds ที่ร่วมพัฒนากับ MSCTY_Studio นำเสนอการฟังเชิงบำบัด สมาธิ เวิร์คช็อป และเสียงจากธรรมชาติ โดยมีทั้งนักดนตรี นักวิทยาศาสตร์ นักบวช และศิลปินเสียงเข้าร่วม สะท้อนว่าสุขภาพจิตและร่างกายอาจเริ่มต้นจากความถี่ที่เราเลือกฟัง
ด้านอาหาร Wonder Kitchen จะเปิดตัวครัวเคลื่อนที่ใหม่ที่ร่วมออกแบบโดยเชฟ Antto Melasniemi จากฟินแลนด์, Made by LERT และ RR Studio พร้อมย้ายไปยังจุดชมวิวริมภูเขา ให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์การกินแบบ immersive อย่างแท้จริง ขณะที่ Open Kitchen จะเน้นความหลากหลายโดยเชฟหญิงล้วนอย่างป้าจัน และ Lady GooGoo ส่วน Molam World จะนำเสนออาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างถึงแก่น
สำหรับสาย Wellness โปรแกรมจะลึกและกว้างขึ้นกว่าเดิม Wonderness พัฒนาเป็น Torus Energy Field พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ใจกลาง Axis Mundi ที่เน้นการเชื่อมโยงภายใน เช่น วงกลมหัวใจ-จิตใจ, การเคลื่อนไหวแบบเกลียว, และการฝึกสมาธิโซมาติก ควบคู่กับหมู่บ้านสมุนไพรและพิธีกรรมที่ Alchemy Circle ผ่านเครื่องดื่มสมุนไพรปลอดแอลกอฮอล์
บ่มเพาะอนาคต: ความร่วมมือเพื่อปลูกความคิดสร้างสรรค์
หนึ่งในมิติที่น่าจับตาคือความร่วมมือกับภาคการศึกษา โดย Wonderfruit ได้จับมือกับนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ในการออกแบบโครงสร้างไม้ไผ่เพื่อการใช้งานจริงและคืนกลับธรรมชาติได้ หลังเทศกาลจบลง ถือเป็นการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนสร้างสรรค์ในโลกจริง และฝึกฝนการออกแบบร่วมกับศิลปินมืออาชีพอย่าง Giant Glass design studio
อย่าพลาด: บัตรรอบพิเศษจำกัดเวลา
Wonderfruit จะเปิดจำหน่ายบัตร Public Sale แบบจำกัดระยะเวลา 72 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 9 – 12 มิถุนายน 2568 เริ่มเวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ผ่านทางเว็บไซต์ www.wonderfruit.co
ด้วยจำนวนบัตรที่จำกัด และความตั้งใจในการรักษาคุณภาพของประสบการณ์ ผู้สนใจควรจับจองล่วงหน้าเพื่อไม่พลาดเทศกาลที่ไม่ได้เป็นแค่ “งานอีเวนต์” แต่คือ “โลกใบเล็กที่สร้างแรงบันดาลใจ” ให้กับชีวิตในแบบที่คุณเลือกได้