ในขณะที่ตลาดโลจิสติกส์กลายเป็นเวทีแห่งการแข่งขันอันดุเดือด ผู้ให้บริการต่างแข่งขันกันด้วยราคาและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว INTER EXPRESS LOGISTICS ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิไม่ได้หยุดนิ่ง แต่กำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่มุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมและสร้างมาตรฐานใหม่ ที่สำคัญที่สุดคือการเป็น “พันธมิตร” ที่พร้อมเติบโตเคียงข้างลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ
โดย คุณอภิวัฒน์ วนารมณ์วิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร INTER EXPRESS LOGISTICS จะมาเผยให้เห็นถึงแนวคิดเบื้องหลังความสำเร็จ และทิศทางที่น่าจับตามองของธุรกิจที่ไม่เพียงแค่ “ส่งของ” แต่เป็นการส่งมอบ “โอกาส” ให้กับผู้ประกอบการ ผู้บริโภคและเศรษฐกิจไทย
เมื่อวิกฤตผลักดันสู่บัลลังก์โลจิสติกส์ควบคุมอุณหภูมิ
ธุรกิจ INTER EXPRESS LOGISTICS ไม่ใช่ธุรกิจใหม่แต่มีรากฐานมายาวนานกว่าที่หลายคนคิด โดยในช่วงแรกของธุรกิจเป็นการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนกระทั่งเกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้ และส่งผลให้ต้องมีการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว
“ธุรกิจนี้ก่อตั้งขึ้นในรุ่นคุณพ่อ จุดเปลี่ยนช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งทำให้คุณพ่อต้องปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ โดยท่านเล็งเห็นศักยภาพของกลุ่มยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต โดยคุณพ่อมองว่ากลุ่มยาและเวชภัณฑ์เป็นกลุ่มที่ไม่ผันผวนตามฤดูกาล ที่สำคัญคือไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไรผู้คนยังคงต้องให้ความสำคัญกับการรักษาพยาบาล” คุณอภิวัฒน์ อธิบาย
ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ INTER EXPRESS LOGISTICS หันมาบุกเบิกธุรกิจขนส่งในอุตสาหกรรมยาอย่างจริงจัง และนับเป็นรายแรกๆ ของประเทศไทยที่ริเริ่มให้บริการขนส่งยาแบบรายกล่องทั่วประเทศ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากระบบเดิมที่มักจะเป็นการเหมาคัน ซึ่งเกิดจากความเข้าใจในธรรมชาติของธุรกิจยาที่ไม่ได้สั่งซื้อจำนวนมากจนเต็มคันรถในแต่ละครั้ง ทำให้โมเดลการขนส่งแบบรายกล่องนี้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างลงตัวและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
วิสัยทัศน์ผู้นำ Gen 2 ยกระดับ “ศิลปะแห่งความเย็น”
เมื่อก้าวมาสู่ปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงรับไม้ต่อในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ คุณอภิวัฒน์ก็ชี้ให้เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างประสบการณ์อันล้ำค่าของรุ่นบุกเบิกกับแนวคิดและพลังของคนรุ่นใหม่ รวมไปถึงความท้าทายของธุรกิจที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การรักษาอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเส้นทาง แต่ต้องลงลึกไปถึงการจัดการสินค้าที่มีความต้องการแตกต่างกันอย่างแท้จริงและยังมีความซับซ้อนสูง
“คนรุ่นคุณพ่อต้องบอกว่า ท่านมีประสบการณ์ มีวิธีการทำงานที่มันสำเร็จมาแล้ว ถ้าเราสามารถนำความรู้ นำประสบการณ์ตรงนั้น มาบาลานซ์กับความคิดของคนรุ่นใหม่ได้ เราจะเดินได้อย่างแข็งแรง ส่วนความท้าทายของธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องใส่ใจมาก ผมยกตัวอย่างง่ายๆ เลยก็คือ หากเราทำการขนส่งสินค้าที่มีกลิ่นแรงๆ เช่น ทุเรียน ไปขนส่งรวมกับสินค้าประเภทอื่น ทุเรียนมันก็จะทำให้สินค้าอื่นมันปนเปื้อนทางด้านกลิ่นได้” คุณอภิวัฒน์ กล่าวเสริม
ยิ่งไปกว่านั้น คุณอภิวัฒน์ยังเปิดเผยถึงหัวใจสำคัญของธุรกิจ นั่นคือการสร้างความเชื่อมั่นตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพราะถ้าผู้รับปลายทางบอกว่าห้ามใช้ขนส่งเจ้านี้ ต่อให้ดีหรือถูกแค่ไหน ต้นทางก็ไม่เลือกใช้บริการ เพราะคนที่ตัดสินใจคือผู้รับปลายทาง นั่นทำให้การสร้างประสบการณ์ที่ดีของผู้รับปลายทาง (Last Mile Experience) จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก และนำไปสู่กลยุทธ์ผ่านการคัดกรองและฝึกอบรมพนักงานอย่างเข้มข้นที่บริษัทให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อให้ผู้รับกลายเป็นกระบอกเสียงที่ทรงพลังกลับไปยังผู้ส่ง
กลยุทธ์สร้างการเติบโตด้วยกันแบบ Inclusive
“หนึ่งกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงคือการร่วมมือกับ ‘ใบเมี่ยง’ แพลตฟอร์มสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งเราไม่เพียงแต่ขนส่ง แต่ยังร่วมวางแผนการตลาด จ้างอินฟลูเอนเซอร์ และสนับสนุนค่าขนส่ง ผลลัพธ์คือยอดขายช่องทางออนไลน์ประเภทสินค้าจัดส่งแบบแช่เย็น-แช่แข็งของใบเมี่ยง เติบโตถึง 4-5 เท่าในเวลาไม่กี่ปี ทำให้เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งช่วยให้เขาสามารถขยายตลาดได้ทั่วประเทศ โดยมีเราเป็นฟันเฟืองช่วยให้เขาสามารถเดินได้อย่างแข็งแรง” คุณอภิวัฒน์ กล่าว
ต่อยอดกลยุทธ์เติบโตแบบ Inclusive ด้วยการขยายการสนับสนุนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย SME และและ OTOP ผ่านแคมเปญ “ของดี 4 ภาค” และยกระดับบริการสู่ขั้นสูงสุดกับกรณีของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่จัดบริการให้มีไรเดอร์ประจำเพื่อจัดส่งยาและอาหารเสริมให้กับผู้ป่วยของโรงพยาบาลฯ ถึงบ้าน ซึ่งเป็นบริการพิเศษเฉพาะทางที่ต้องอาศัยความรวดเร็ว พร้อมผสานเทคโนโลยีในการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ของอุณหภูมิได้ในกรณีที่เกิดปัญหา โดยมีการใช้อุปกรณ์ Data Logger หรือ Temperature Sensor เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั้งโรงพยาบาลและผู้ป่วย
“กลยุทธ์เหล่านี้ไม่เพียงสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนในรูปแบบ Business Partner แต่ยังก่อให้เกิด User-Generated Content (UGC) ที่ทรงพลัง เพราะเมื่อผู้รับปลายทางได้รับประสบการณ์ที่ดี ก็จะกลายเป็นเสียงยืนยันที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ส่งต้นทางโดยอัตโนมัติ” คุณอภิวัฒน์ กล่าวเสริม
ขับเคลื่อนด้วย AI และหัวใจที่รับผิดชอบต่อสังคม
สำหรับทิศทางในอนาคตของ INTER EXPRESS LOGISTICS ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Specialist) และผู้นำในธุรกิจขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ โดยหนึ่งในแผนระยะยาวมีการมองถึงการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการสร้างคลังความรู้ (Knowledge Base) จากประสบการณ์ทั้งหมดของบริษัท เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูล เรียนรู้ และนำไปใช้ในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และแม่นยำ
“ยิ่งเราป้อนความรู้เข้าไป ยิ่งเราป้อนตัวอย่างเข้าไป ยิ่งเราป้อนประสบการณ์เข้าไป มันก็จะสามารถที่จะวิเคราะห์อะไรต่างๆ ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เป้าหมายสำคัญคือการทำให้ความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่าเหล่านี้ไม่ได้ผูกติดอยู่กับพนักงานคนใดคนหนึ่ง แต่กลายเป็นทรัพย์สินขององค์กรที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อลดปัญหาการที่พนักงานรุ่นใหม่อาจจะไม่พร้อม หรือต้องรอคำตอบจากผู้ที่มีประสบการณ์ เป็นการผสานการทำงานของคน 2 Gen เข้าด้วยกัน” คุณอภิวัฒน์ อธิบาย
ขณะที่แผนระยะสั้น มีการพัฒนาอินทราเน็ต (Intranet) หรือเว็บออฟไลน์สำหรับพนักงานภายในองค์กร เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ มีการจัดทำคลิปวิดีโอสอนวิธีการทำงาน คู่มือการปฏิบัติงานมาตรฐาน (SOPs) ต่างๆ เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการที่มีให้คงอยู่อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทั้งผู้ส่งต้นทางและผู้รับปลายทางในการเลือกใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
“อีกหนึ่งประเด็นสำคัญด้าน ESG เรามีการใส่ใจอย่างต่อเนื่อง เพราะธุรกิจขนส่งเป็นธุรกิจที่จำเป็นต้องคำนึงด้านสิ่งแวดล้อม เรามีการศึกษาเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในเชิงอุตสาหกรรมขนส่งมาโดยตลอดและเริ่มนำมาปรับใช้ในการขนส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่คลังสินค้าหลักกิ่งแก้ว และกำลังศึกษาวิธีการจัดการขยะเพื่อให้เข้าใกล้ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า” คุณอภิวัฒน์ เสริม
เรียกได้ว่า INTER EXPRESS LOGISTICS ภายใต้การนำทัพของผู้บริหารรุ่นใหม่ จึงไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจขนส่งที่ตอบสนองความต้องการพื้นฐานในการขนส่ง แต่กำลังสร้างนิยามใหม่ของการเป็นคู่คิด ที่ปรึกษา และพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมจะเติบโตเคียงข้างและสร้างความสำเร็จร่วมไปกับลูกค้าอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมทางความคิด และความเชี่ยวชาญในบริการ นี่คือภาพลักษณ์ของธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิที่ทันสมัย และพร้อมรับทุกความท้าทายในอนาคตที่กำลังจะมาถึง