ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ข้อมูล และวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คำถามสำคัญคือ “อะไรคือหัวใจของแคมเปญที่ดีจริงๆ ในระดับเอเชีย?” คำตอบไม่ได้มีแค่ความสร้างสรรค์ (Creativity) แต่ยังรวมถึงการเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง การใช้เครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ และการวัดผลลัพธ์ได้จริง
เวที Panel Discussion: The Anatomy of Excellence – Lessons from Asia’s Top Marketing Campaigns จากเวทีรางวัล สู่บทเรียนการตลาดระดับเอเชีย ในงาน AssetWise presents Marketing Oops! Summit 2025 จึงกลายเป็นพื้นที่ที่นักการตลาดจากองค์กรระดับแนวหน้าอย่าง Publicis Groupe, Grab Thailand และ Haleon ได้มาร่วมถอดรหัสความสำเร็จของแคมเปญที่คว้ารางวัลระดับภูมิภาค อย่าง SMARTIES Awards ซึ่งจัดโดย MMA Global พร้อมแชร์ประสบการณ์จริง เบื้องหลังแนวคิด และเครื่องมือที่ใช้ลงมือทำให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจจริง
ทำไม SMARTIES Awards ถึงสำคัญต่อวงการการตลาดไทย
- SMARTIES เป็นเวทีประกวดโฆษณาที่ให้ความสำคัญกับ ผลลัพธ์ทางธุรกิจจริง
- เวทีนี้ให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก:
- Creativity (ความคิดสร้างสรรค์)
- Innovation (นวัตกรรม)
- Measurable Impact (ผลลัพธ์วัดได้)
- คุณออดี้จาก GrabAds ระบุว่า SMARTIES เป็นรางวัลที่อยู่ “ตรงกลาง” ระหว่างรางวัลด้าน Creative และ Performance ช่วยให้แบรนด์เข้าใจว่าแคมเปญไหนทำให้เกิดผลลัพธ์จริง และเหมาะสำหรับคนทำธุรกิจที่ต้องการผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่ชื่อเสียง
บทบาทของ AI และ Tools ในการทำให้ทีมมี “Efficiency”
- คุณสุวรรณาจาก Publicis Groupe เน้นว่า “การใช้เครื่องมือให้ถูกจุด” ทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในแง่ของเวลา ต้นทุน และคุณภาพ
- ตัวอย่างเช่น GrabAds ใช้ AI ภายในชื่อว่า Grab Miss เพื่อเรียนรู้วิธีสื่อสารกับผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม (Personalized Communication)
- ประโยชน์นอกจากลดคนหรือค่าใช้จ่าย ยังช่วยให้พนักงานมีเวลาสำหรับ “การใช้ชีวิต” มากขึ้น เป็นการสนับสนุน Work-Life Balance และ Talent Retention ในองค์กร
การใช้ Data และ Consumer Insight ในการสร้างแคมเปญ
- ทุกคนในวงการรู้ว่า Data สำคัญ แต่ GrabAds และ Publicis เน้นว่า “ต้องเข้าใจมันจริง ๆ” ไม่ใช่แค่ดูตัวเลข
- GrabAds ใช้ First-party data แบ่ง Micro-segment อย่างละเอียด เช่น ดูว่า user ที่สั่งอาหารช่วงดึก ชอบเล่นเกม หรือใช้โปรโมชั่นประเภทไหนบ่อย แล้วออกแบบแคมเปญเฉพาะกลุ่ม
- Insight ที่ดีต้องเป็น Human Truth เช่น “คนเล่นเกมมักไม่อยากออกไปซื้อของ” แล้วหาทางตอบสนองผ่าน platform (เช่นแจก voucher, รางวัลในเกม ฯลฯ)
- แคมเปญที่ดีต้องเริ่มจากความเข้าใจผู้บริโภค ไม่ใช่จากไอเดียโฆษณาอย่างเดียว
Case Study: แคมเปญที่ใช้ Insight และ Resource อย่างชาญฉลาด
▸ KFC “หนังไก่กลับมาแล้ว”
- เริ่มต้นจาก Social Listening: พบว่าคนพูดถึงหนังไก่บ่อยมาก
- ใช้การโพสต์เดียวในโซเชียลว่า “ขอหัวใจหมื่นดวงถ้าอยากให้หนังไก่กลับมา”
- คนร่วมกิจกรรมจำนวนมหาศาล แค่โพสต์เดียว ได้ organic reach เกิน 1 ล้าน และของหมดภายใน 1 สัปดาห์
- งบต่ำมาก ไม่มีแม้แต่ visual ใช้แค่ข้อความ = ROI สูงสุด ๆ
▸ Grab x Arena Breakout (เกมมือถือ)
- ผู้เล่นเกมมักไม่อยากออกไปซื้อของ → อินไซด์ที่สำคัญ
- จึงผสานระบบให้ของรางวัลในเกม เช่น Grab Voucher / ไอเท็มพิเศษ
- ทำให้ user ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกโฆษณา แต่รู้สึกว่าแบรนด์ “เข้าใจเขา”
- เป็นตัวอย่างของการผสาน brand + platform + consumer moment ได้อย่างลื่นไหล
Culture First > Social First: อย่าแค่ฟัง แต่ต้องเข้าไปอยู่ในวงสนทนา
- จุดเปลี่ยนของการตลาดยุคใหม่คือการเปลี่ยนจาก “Social Media First” ไปสู่ “Culture First”
- ต้องเข้าใจบริบท ว่าในแต่ละช่องทาง กลุ่มเป้าหมายพูดแบบไหน สนใจอะไร ภาษาที่ใช้คืออะไร
- ใช้ Tools อย่าง Social Listening เพื่อค้นหาแต่ไม่หยุดแค่ Data ต้องมีคนตีความ + สร้าง Storytelling ที่ “เรียล” และเชื่อมโยงกับ brand value ได้
- สุดท้าย emotional engagement จะเกิดขึ้นเมื่อผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์ “เป็นเพื่อน” ไม่ใช่แค่ “พยายามขายของ”
Campaign ที่ดีต้องตอบได้ทั้ง “หัวใจผู้บริโภค” และ “ผลลัพธ์ทางธุรกิจ”
- แคมเปญจะได้รางวัล หรือเป็น Best-in-Class ต้องตอบได้ 3 ข้อนี้:
- Transformation: เปลี่ยนชีวิตผู้บริโภคให้ดีขึ้นหรือไม่
- Innovation: มีความแตกต่างจากคู่แข่งจริงหรือไม่
- Business Result: ทำยอดขายหรือวัดผลทางธุรกิจได้จริง
- คุณออดี้เน้นว่า Innovation ต้องตอบโจทย์จริง ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีใครยอมจ่าย premium
- การตลาดที่ดีต้องเริ่มจาก Consumer Insight และออกแบบเป็น Holistic Campaign ไม่ใช่แค่คิดว่าอันนี้ ATL อันนี้ BTL หรือ Online ทั้งหมดควรเชื่อมกัน
Marketing คือการ “เปลี่ยนชีวิตผู้คน” ไม่ใช่แค่ “ขายของให้ได้”
- ผู้บริโภคไม่ซื้อ “สินค้า” แต่ซื้อ “ประสบการณ์ที่สินค้านั้นสร้าง”
- ถ้าแบรนด์มีนวัตกรรมแต่ไม่เปลี่ยนชีวิตคน หรือไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น มันจะไม่ยั่งยืน
- ทุกแคมเปญต้องตอบคำถามว่า:
- ผู้บริโภคได้อะไร?
- บริษัทได้ผลลัพธ์อะไร?
- สังคมเปลี่ยนอย่างไร?
- ถ้าตอบ 3 มิตินี้ได้ดี จะเป็นแคมเปญที่ “เล่าให้คนอื่นฟังต่อ” ได้ และสร้างผลกระทบต่อวงการ
สรุปจากเวที #GrowthStage
Panel Discussion : The Anatomy of Excellence : Lessons from Asia’s Top Marketing Campaigns จากเวทีรางวัล สู่บทเรียนการตลาดระดับเอเชีย
By Sorada Sonprasit Chief Executive Officer, Publicis Groupe, Thailand , Audy Punnada Leung-Aram Head of B2B Enterprise – GrabAds, GrabForBusiness, GrabGifts, Grab Thailand, Suwanna Ruamsanitwong Head of Marketing, Haleon Consumer Health (Thailand) Limited,
Moderated By Rohit Dadwal CEO of MMA Global APAC & Global Head of SMARTIES Worldwide