สรุป! เทคนิคทำ GEO จาก Tilo Bonow นักปั้นแบรนด์ระดับโลกที่ Google, GitHub, และ Shopify ไว้ใจ

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

หนึ่งใน Session ที่น่าสนใจในงาน Techsauce Global Summit 2025 ที่เพิ่งจบไปไม่กี่วันที่ผ่านมาก็คือ Session “Own the Answer: Staying Visible and Valuable When AI Speaks for You” โดยคุณ Tilo Bonow ที่พูดถึงเทคนิคการทำ SEO หรือ วิธีการทำให้ AI เลือกแบรนด์เราเป็นเป็นคำตอบเวลามีคนถามคำถาม AI ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆในโลกยุคนี้

คุณ Tilo Bonow คือใคร?

คุณ Tilo คือผู้ก่อตั้งและ CEO ของ PIABO Communications เอเจนซี่ชั้นนำของยุโรปเก่งในด้านการทำ PR ให้บบริษัทเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีลูกค้าเป็นบริษัทใหญ่ๆอย่าง Google, GitHub, รวมถึง Shopify ไว้วางใจใช้บริการเลยทีเดียว และไม่เท่านั้น คุณ Tilo ยังมีประสบการณ์ในฐานะเมนเทอร์ให้กับโครงการสตาร์ทอัพหลายโครงการ และยังเป็นนักลงทุนในกองทุน VC กว่า 50 กองทุนทั่วโลกด้วย

GEO สนามรบใหม่ของการสื่อสาร

คุณ Tilo เล่าว่าปัจจุบัน GEO (Generative Engine Optimization) เป็นสนามรบใหม่ของการสื่อสารแบรนด์ไปแล้ว เพราะปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน, ลูกค้า, นักข่าว, หรือคนหางาน ต่างก็หันไปถาม AI อย่างเช่น ChatGPT หรือ Gemini เพื่อขอข้อมูลและคำแนะนำในเรื่องที่ตัวเองสงสัย แทนที่จะค้น Google กันแล้ว.

สิ่งนี้หมายความว่าอะไร?

อธิบายง่ายๆว่า ถ้า AI ไม่แนะนำชื่อบริษัทของเรา เราก็จะพลาดโอกาสในการลงทุน , ถ้าลูกค้าให้ AI เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ของเรากับคู่แข่ง แล้วเราไม่ได้เป็นผู้คุมข้อมูลเอาไว้แบรนด์เราก็จะแพ้, ถ้านักข่าวค้นหาผู้เชี่ยวชาญในวงการ แล้วชื่อของเราไม่ปรากฏขึ้นมา เราก็จะไม่ได้อยู่ในข่าวหรือบนเวทีไหนๆเลย , ถ้าผู้สมัครงานเก่งๆถาม AI เรื่องวัฒนธรรมองค์กร แล้ว AI ไม่ได้ไม่ให้คำตอบที่ดีคนนั้นก็จะไม่เลือกทำงานกับเรา

คุณ Tilo สรุปว่า “Generative Engines พวกนี้ไม่ได้แค่ตอบคำถามเท่านั้น แต่มันสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับเราได้ด้วย” ดังนั้น ช่องว่างในการมองเห็น หรือ Visibility Gaps ก็คือช่องว่างของรายได้หรือ Revenue Gaps ด้วยเช่นกัน

ทำยังไงเราถึงจะไปอยู่ในคำตอบของ AI

คุณ Tilo ได้แชร์กระบวนการทำงาน 3 ขั้นตอนเพื่อให้แบรนด์เราไปอยู่ในคำตอบของ AI ก็คือ

  1. Diagnosis เริ่มจากการลองตรวจสอบ AI ต่างๆที่คนนิยมด้วยคำถามหลากหลายรูปแบบที่ลูกค้าของคุณน่าจะใช้ เพื่อหาว่า AI นำข้อมูลมาจาก Sources ไหน
  2. Implementation สร้างกลยุทธ์การสื่อสารเข้าไปมีตัวตนใน Sources เหล่านั้นให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสื่อ, Blog, หรือแหล่งอ้างอิงอื่นๆ เพื่อเปลี่ยนเรื่องเล่าให้เป็นไปตามที่เราต้องการ
  3. Maintenance หมั่นตรวจสอบและทำซ้ำวิธีการเหล่านี้อยู่เสมอ เพราะอัลกอริทึมของ AI เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

Storytelling คือเครื่องมือทรงพลัง

คุณ Tilo บอกว่าเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการเข้าไปมีตัวตนในแหล่งข้อมูลหรือ Sources ต่างๆก็คือ Storytelling โดยยกโคว้ตอันโด่งดังของ Bill Gates แห่ง Microsoft ที่เคยพูดเอาไว้ว่า

“if I was down to my last dollar, I spend it in public relations” แปลง่ายๆว่าถ้า มีงบเหลือแค่ 1 ดอลลาร์สหรัฐสุดท้าย Bill Gates จะเลือกใช้เงินส่วนนี้ไปกับการ PR”

คุณ Tilo เล่าว่า Trust สำคัญมากๆ เพราะถ้าคนไม่เชื่อใจเรา เขาก็จะไม่ซื้อของเรา, ไม่ลงทุน, และไม่ทำงานกับเรา แบรนด์ที่เราสร้างขึ้นก็เหมือนกับ “คำสัญญาแห่งความไว้ใจ” ที่เราสื่อสารออกไปสู่สาธารณะ

เล่ายังไงให้ทรงพลัง

คุณ Tilo บอกวิธีการเล่าเรื่องที่จะสร้าง Trust ให้เกิดขึ้นเอาไว้ 6 ข้อด้วยกัน

  1. ต้องแก้ pain point – เรื่องเล่าของคุณต้องแก้ pain point ของลูกค้าจริงๆ ต้องเป็นสิ่งที่ “จำเป็นต้องมี” (Need to have) ไม่ใช่แค่ “มีก็ดี” (Nice to have)
  2. สร้างความเปลี่ยนแปลง – เรื่องเล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเรื่องของการเปลี่ยนแปลง เช่น การเปลี่ยนจากแท็กซี่ธรรมดาไปสู่ Uber
  3. ฮีโร่คือลูกค้า – ฮีโร่ในเรื่องเล่าของเราต้องไม่ใช่ตัวบริษัท ผู้ก่อนตั้งหรือผู้บริหาร แต่ต้องเป็น “ลูกค้า”  เช่น ฮีโร่ของ Airbnb คือ “Host” เป็นต้น
  4. เรียบง่ายดีที่สุด – ผู้ก่อตั้งมักจะเล่าเรื่องผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้เป็นชั่วโมง แต่สิ่งที่ต้องทำคือย่อยมันให้เหลือประโยคเดียวที่ชัดเจนและทรงพลัง
  5. Story vs Fact – คนจำเรื่องเล่าได้ดีกว่าข้อเท็จจริงถึง “22 เท่า” ดังนั้นแทนที่จะบอกข้อมูลว่า “ที่ชาร์จ 200W” ให้บอกว่า “ชาร์จมือถือของคุณให้เต็มใน 10 นาที” หรือย่างที่ Steve Jobs ไม่ได้ขาย iPod ด้วยการบอกว่า iPod มีกี่ GB แต่บอกว่านี่คือ “1,000 เพลงในกระเป๋าของคุณ”
  6. ทุกคำมีความหมาย – การเลือกใช้คำส่งผลต่อความรู้สึกอย่างมาก เช่น “60 วินาที” จะฟังดูเร็วกว่า “1 นาที” หรือ “วิสกี้อายุ 12 ปี” ฟังดูดีกว่า “วิสกี้จากปี 2011”

สิ่งที่ทำได้ทันที

Tilo สรุปว่า GEO ไม่ใช่ SEO ที่ยกระดับขึ้นเท่านั้นแต่มันคือ SEO ที่จะต้องมีตัวตน คือสมอง, มีเสียง, และมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง ดังนั้นหากเราไม่ฝึกให้ AI พูดความจริงแบบที่เป็นเรา เราก็อาจจะพ่ายแพ้ในสมรภูมิ GEO นี้ก็ได้ดังนั้นสิ่งที่ทุกบริษัททุกแบรนด์ทำได้ทันทีก็คือ

  1. ตรวจสอบ – ลองค้นหาชื่อแบรนด์, ผู้ก่อตั้ง, และผลิตภัณฑ์ของคุณบน AI ตัวต่างๆ ดูว่าผลลัพธ์ที่ได้คืออะไร และมีอะไรขาดหายไปบ้างไหม
  2. วิเคราะห์- ลองวิเคราะห์ว่าจุดเด่นของแบรนด์ถูกนำเสนออย่างชัดเจนหรือรึเปล่า ข้อมูลถูกต้องหรือไม่
  3. แก้ไข – ลองคิดแบบ AI, เข้าไปสร้างตัวตนผ่านแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และใช้ Storytelling ให้ชัดเจน
  4. วางกลยุทธ์ – คุยกับทีมสื่อสารของแบรนด์ให้ดีเพราะ GEO ไม่ใช่แค่แคมเปญที่เปิดๆ ปิดๆ แต่สิ่งนี้เป็นการวาง Positoning ของแบรนด์ในระยะยาว

  •  
  •  
  •  
  •  
  •