จากซิลิคอนแวลลีย์ถึงไทย: รู้จัก Raisewell Ventures กองทุน VC โดย จี๊ป ไคลน์ กับภารกิจปั้น Deep Tech ไทยและอาเซียนสู่เวทีโลก

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

“เรสเวลล์ เวนเจอร์ส” (Raisewell Ventures) กองทุนธุรกิจเงินร่วมลงทุนยุคใหม่ หรือ เวนเจอร์ แคปิตัล (Venture Capital) ที่กำลังสร้างความน่าสนใจในวงการ โดยมี “จี๊ป ไคลน์” ผู้ก่อตั้งและผู้เชี่ยวชาญชาวไทยจากซิลิคอนแวลลีย์ เป็นหัวเรือใหญ่ เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สหรัฐอเมริกา ด้วยเป้าหมายชัดเจนที่จะผลักดันการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมในระดับนานาชาติ ผ่านการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ Deep Tech โดยคุณจี๊ปให้ความสำคัญกับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพิเศษ

Marketing Oops! ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณจี๊ป เพื่อเจาะลึกวิสัยทัศน์ของ Raisewell และอนาคตที่พวกเขามองเห็นสำหรับประเทศไทยและภูมิภาคนี้

Raisewell Ventures: นิยามใหม่ของความสำเร็จใน Venture Capital

เรสเวลล์ เวนเจอร์ส แม้จะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซิลิคอนแวลลีย์ แต่ก็มีกลยุทธ์การดำเนินงานที่มุ่งสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กองทุนนี้เลือกที่จะลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงทั้งในระยะเริ่มต้นและระยะกลางของการพัฒนากิจการ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่น่าจับตาอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI), เทคโนโลยีภูมิอากาศ (Climate Tech), การผลิตเชิงอุตสาหกรรม (Manufacturing Tech) และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ (Health Tech) ที่ผ่านมาในช่วงแปดเดือนแรก เรสเวลล์ได้ลงทุนไปแล้วถึง 9 โครงการ และตั้งเป้าจะสนับสนุนบริษัทประมาณ 30-40 แห่ง ทั้งในสหรัฐอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเงินลงทุนต่อบริษัทอยู่ระหว่าง 250,000 ถึง 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ “เราอยากให้เรสเวลล์เป็นมากกว่ากองทุนที่แค่ทำกำไร” คุณจี๊ป ไคลน์ กล่าว “แต่เราต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ พัฒนาเศรษฐกิจและสร้างรากฐานสำหรับอนาคต”

จี๊ป ไคลน์: ผู้บุกเบิกชาวไทยผู้ทรงอิทธิพล

เมื่อพูดถึงคุณจี๊ป ไคลน์ เธอคือผู้หญิงไทยคนแรกที่มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งกองทุนเงินร่วมลงทุนที่สร้างผลกระทบเชิงสังคมในซิลิคอนแวลลีย์ เส้นทางอาชีพของเธอโดดเด่นไม่น้อย ตั้งแต่การเปิดตัวแท็บเล็ต Android เครื่องแรกที่ Intel ไปจนถึงบทบาทผู้นำที่ธนาคารโลก และการเป็นอาจารย์สอนด้าน Impact Venture Capital Investment ที่ UC Berkeley เธอยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน 25 สตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในซิลิคอนแวลลีย์ด้วย นี่ไม่ใช่กองทุนแรกของคุณจี๊ป แต่เป็นกองทุนที่สี่ของเธอ “ฉันอยากนำประสบการณ์ด้าน VC ทั้งหมดที่สั่งสมมา มาช่วยพัฒนาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มต้นที่ประเทศไทย” คุณจี๊ปเล่าด้วยความตั้งใจ “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับภูมิภาคนี้ และเราอยากเชื่อมโยงผู้ประกอบการเก่งๆ ของเราเข้ากับเครือข่ายระดับโลก ทั้งความรู้ ประสบการณ์ และเงินทุน”

Raisewell กับการกระตุ้นนวัตกรรมเศรษฐกิจในประเทศไทย

เรสเวลล์กำลังเร่งเครื่องเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมในประเทศไทยผ่านหลายแนวทางที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น:

  • การจับมือกับสถาบันวิชาการชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย รวมถึงผู้ก่อตั้งท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
  • การสนับสนุนบริษัทในพอร์ตโฟลิโอให้ขยายกิจการเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ และบริษัทเทคโนโลยีด้านภูมิอากาศ
  • การสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีของไทยและอาเซียน ให้เติบโตและก้าวสู่เวทีโลก

การลงทุนของเรสเวลล์ยังสอดคล้องกับเทรนด์ใหญ่ๆ ของโลกด้วย เช่น การลงทุนในหุ่นยนต์อัจฉริยะ, ไมโครโปรเซสเซอร์, และ Edge AI เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมในอาเซียน ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่สนับสนุนเป้าหมายพลังงานสะอาดปี 2573 ของไทย และโซลูชันความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในยุคควอนตัม ซึ่งจะช่วยปกป้องอธิปไตยทางดิจิทัลของภูมิภาค “เรสเวลล์มองเห็นโอกาสที่ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะกลายเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์ในเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลก” คุณแอนดรูว์ สแตดเลน เวนเจอร์สพาร์ทเนอร์ด้านการลงทุนของ Raisewell Ventures กล่าวเสริม

โอกาสและความท้าทายของประเทศไทยในมุมมองของ Raisewell

คุณจี๊ปมองว่าประเทศไทยและภูมิภาคนี้มีศักยภาพสูงมากในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรม “เรามีคนเก่ง มีการเชื่อมโยงที่ดีกับภูมิภาค และมีความมุ่งมั่น” เธอยกตัวอย่างว่าวิศวกรไทยมีความสามารถและมีค่าแรงที่สมเหตุสมผล ทำให้ไทยมีโอกาสเป็นฐานการผลิตและนวัตกรรมที่น่าสนใจ

แต่ก็ยังมีบางจุดที่ไทยอาจต้องปรับปรุงเพื่อดึงดูดนักลงทุน VC มากขึ้น คุณจี๊ปเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “Rule of Law” หรือกฎหมายที่โปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการสนับสนุนเรื่อง Employee Stock Option Plans (ESOP) ให้ง่ายขึ้นเหมือนในสิงคโปร์หรือสหรัฐอเมริกา “ผู้ประกอบการไทยต้องกล้าคิดใหญ่ มองไกลถึงตลาดโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถขยายสเกลได้” คุณจี๊ปแนะนำ “และตลาดหลักทรัพย์ของเราก็ควรเปิดรับบริษัทเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง รวมถึงโอกาสในการทำ Dual Listing เพื่อให้บริษัทไทยสามารถระดมทุนในตลาดต่างประเทศได้ด้วย”

คุณสมบัติผู้ประกอบการที่ Raisewell มองหา

คุณจี๊ปสรุปคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่ Raisewell ให้ความสำคัญไว้ดังนี้:

  • เข้าใจบริบทท้องถิ่นและตลาดภูมิภาค: ต้องรู้ลึกรู้จริงถึงความต้องการของลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • มีวิสัยทัศน์ระดับโลกหรือภูมิภาค: มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปนอกประเทศได้ตั้งแต่เริ่มต้น
  • เข้าใจและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี: สามารถนำเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เน้นการลงมือทำและปรับตัว: พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจและมองหาตลาดใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา พร้อมกับการลงมือทำ (Execution) อย่างจริงจัง
  • เปิดรับองค์ความรู้และเครือข่าย: กล้าที่จะเรียนรู้และเชื่อมโยงกับเครือข่ายจาก VC ระดับโลกเพื่อยกระดับบริษัทของตนเอง

วิกฤตคือโอกาส: DNA ของนักสู้ในสตาร์ทอัพ

คุณจี๊ปเชื่อว่าช่วงเวลาวิกฤตทางเศรษฐกิจนี่แหละ คือโอกาสทองของการลงทุน “บริษัทดังๆ อย่าง Google, Uber หรือ Lyft ล้วนเริ่มต้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ” เธออธิบาย “มันเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการที่มีคุณภาพและมี DNA ของ ‘Hustler’ คือความอดทน ไม่ย่อท้อ และแก้ไขปัญหาได้ทุกสถานการณ์ จะโดดเด่นขึ้นมา”

ท้ายที่สุด คุณจี๊ปฝากข้อคิดว่า “การเป็น ‘ยูนิคอร์น’ อาจไม่ใช่เป้าหมายเดียวที่สำคัญที่สุดเสมอไป” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “สำหรับเราแล้ว การสร้างผลกระทบที่ดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน นั่นต่างหากคือความสำเร็จที่แท้จริงของ Raisewell”


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •