กลยุทธ์บี-ควิก ชูบริการ “เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง” ปล่อยโฆษณาสุดกวน สร้างการจดจำความเชี่ยวชาญที่มากกว่าแค่ยาง

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

 

การเป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่งในบริการใดบริการหนึ่ง ถือเป็นความสำเร็จที่ทุกแบรนด์ใฝ่ฝัน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็อาจกลายเป็น “กับดักภาพจำ” ที่ทำให้ผู้บริโภคมองข้ามบริการอื่นๆ ที่แบรนด์เชี่ยวชาญไม่แพ้กันไปได้ นี่คือโจทย์ที่น่าสนใจของ B-Quik (บี-ควิก)  ผู้ให้บริการรถยนต์ที่คนไทยทั้งประเทศจดจำในฐานะ “ผู้เชี่ยวชาญเรื่องยาง” ได้แบบขึ้นใจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

แล้วจะทำยังไงให้ภาพจำนั้นขยายไปสู่บริการอื่นๆที่ บี-ควิก ก็เชี่ยวชาญเหมือนกันได้?

นี่คือที่มาของแคมเปญล่าสุด ที่ บี-ควิก กำลังขับเคลื่อนไปเพื่อตอกย้ำอีกหนึ่งบริการหลักอย่างการ “เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง” ให้เข้ามาอยู่ในใจผู้บริโภคเป็นอันดับต้นๆ ด้วย Key Message ที่สั้น กระชับว่า “เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ต้องที่บี-ควิก”

 

ทำไมต้องเป็น ‘เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง’? และ บี-ควิกมีดีอะไร?

 

การที่ บี-ควิกเลือกชูบริการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องขึ้นชูเป็นบริการเด่นที่อยากให้คนจดจำ มาจากการวิเคราะห์อินไซต์ที่พบว่า นี่คือบริการที่ลูกค้าเข้ามาใช้บ่อยเป็นอันดับสองรองจากเรื่องยาง และที่สำคัญ บี-ควิก มีความพร้อมและจุดแข็งที่ชัดเจนในการตอบโจทย์ความต้องการของคนใช้รถ

โดยทางแบรนด์จะวางกลยุทธ์การสื่อสารครั้งนี้ไว้บน 4 เสาหลักที่แข็งแกร่ง คือ

  1. ความหลากหลาย บี-ควิก ไม่ได้จำกัดลูกค้าอยู่แค่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง แต่มีน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์รถทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นอีโค่คาร์ ซีดาน รถตู้ แทกซี่ กระบะ รถสปอร์ต เอสยูวี เอ็มพีวี ไฮบริด และรองรับรถยนต์ทุกยี่ห้อก็ว่าได้
  2. ความน่าเชื่อถือ เรื่องนี้การันตีด้วยจำนวนรถที่เคยให้บริการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมาแล้วมากกว่า 1 ล้านคันทั่วประเทศ ซึ่งถามว่า รถ 1 ล้านคันเยอะแค่ไหน คำตอบก็คือถ้าเอารถมาเรียงกันก็จะได้ระยะทางมากถึง 4,500 กิโลเมตรหรือเหมือนการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังไซบีเรีย เลยทีเดียว
  3. มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เสาหลักนี้คิดมาจาก Pain Point ของผู้ใช้รถหลายคนคือความไม่มั่นใจในมาตรฐานของศูนย์บริการแต่ละแห่ง บี-ควิกแก้ปัญหานี้ด้วยการวางมาตรฐานการบริการให้เหมือนกันในทุกสาขากว่า 230 แห่งทั่วไทย ไม่ว่าลูกค้าจะนำรถจะเข้ารับบริการที่ไหน ก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลด้วยคุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน
  4. ความสะดวกสบาย เสาหลักเรื่องความสะดวกสบายมาจากการที่ บี-ควิกมีจำนวนสาขาที่อยู่ทั่วประเทศไทย และเวลาทำการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ คือเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม ทำให้การนำรถเข้าเช็กและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

 

ตอกย้ำภาพจำด้วยสไตล์ที่คุ้นเคยผ่านโฆษณาตัวใหม่

 

เพื่อสื่อสารจุดแข็งทั้งหมดนี้ไปสู่ผู้บริโภคในวงกว้าง บี-ควิกเลือกใช้กลยุทธ์การสื่อสารที่ตัวเองถนัดที่สุด นั่นคือการสร้างหนังโฆษณาที่ดูสนุก เข้าใจง่าย  ตรงไปตรงมาและสร้าง “ภาพจำ” ที่มีพลังเหมือนอย่างที่เคยทำ โดย บี-ควิกยังคงเลือกใช้ มิกค์ ทองระย้า ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่อยู่คู่กับแบรนด์มานาน มาเป็นผู้สื่อสาร Message ในครั้งนี้ออกไป

 

 

โฆษณาชุด “จำกันได้หรือยังครับ? เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ต้องที่ บี-ควิก” ดึงความสนใจคนดูด้วยการฉายภาพเบื้องหลังทีมการตลาดที่บรีฟ มิกค์ ทองระย้า ให้ทำโฆษณาที่สร้างภาพจำใหม่ให้กับบี-ควิก จากเรื่องยางที่ผู้บริโภคจำได้ ให้ขยายไปสู่ “ความเชี่ยวชาญเรื่องการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง”

โฆษณาเล่าในแบบบี-ควิก ที่เราคุ้นเคยคือมีความประชดประชันเล็กๆ สื่อสารแบบตรงไปตรงมาสุดๆ ในสไตล์กวนๆ มากพร้อมกับอินเนอร์แบบมั่นใจสุดๆของ มิกค์ ทองระย้า จนให้คำตอบสุดท้ายไปจบที่ Key Message ของแคมเปญแบบตรงๆซึ่งก็คือ “เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ต้องที่บี-ควิก” ที่เชื่อว่าโฆษณานี้น่าจะสร้างภาพจำให้กับผู้บริโภคได้ไม่น้อยไปกว่าการ Bold เรื่องยางในช่วงปีก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน

 

ชมโฆษณาตัวเต็ม “Why B-Quik?”

 

การเคลื่อนไหวของ บี-ควิก ในครั้งนี้ ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของการที่แบรนด์ที่แม้จะเป็น Top of Mind ในใจผู้บริโภคแล้ว แต่ยังไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาและสื่อสารเพื่อขยายขอบเขตความเชี่ยวชาญของตัวเองให้ครอบคลุม และตอกย้ำความเป็นศูนย์บริการรถยนต์ที่ #ครบทุกบริการเรื่องรถ อย่างแท้จริง

 

ติดตามโปรโมชั่นและข้อมูลเพิ่มเติมจาก บี-ควิก ได้ที่:


  •  
  •  
  •  
  •  
  •