ที่ใจกลางมหานครตรงจุดตัดแห่งประวัติศาสตร์และอนาคตบนหัวมุมถนนสีลมและถนนพระรามสี่ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิตธานีอันเป็นตำนาน ตอนนี้กำลังจะเกิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการค้าปลีกและไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างโครงการ “Central Park” ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดตัวศูนย์การค้าแห่งใหม่ แต่คือการปฏิวัติแนวคิดการใช้ชีวิตในเมืองที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดย Central Park อยู่ภายใต้โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”
เจาะไลฟ์สไตล์ยุคใหม่เพื่อคอมมูนิตี้คนเมือง
หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนโครงการ Central Park คือ การก้าวข้ามคำจำกัดความเดิมๆ ของศูนย์การค้าที่เคยเป็นเพียง “Lifestyle Destination” ไปสู่การเป็น “Curated Platform for Diverse Urban Communities” หรือแพลตฟอร์มที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อคอมมูนิตี้คนเมืองที่หลากหลาย โดยแนวคิดนี้เกิดขึ้นจากการมองลึกเข้าไปในพฤติกรรมและความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ที่ซับซ้อนและเปี่ยมด้วยรสนิยมเฉพาะตัว

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา อธิบายว่า “โลกยุคปัจจุบันไม่มีสูตรสำเร็จที่ใช้ได้กับทุกคนอีกต่อไป Central Park จึงถูกออกแบบมาเพื่อเป็นพื้นที่ที่เข้าใจ “Journey” ของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การนำร้านค้ามารวมกัน แต่คือการคัดสรรทุกองค์ประกอบอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการที่ลึกซึ้งเหล่านั้น
การเปิดตัวของศูนย์การค้า Central Park ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่วงการรีเทลไทย พร้อมผลักดันศักยภาพกรุงเทพฯ ในการเป็นมหานครและเมืองน่าอยู่ระดับโลก โดยสืบสานความเป็น Legendary Landmark ของที่ดินผืนนี้ ที่ผสานพื้นที่สีเขียวกับวิถีชีวิตคนเมือง เช่นเดียวกับ Central Park ในนิวยอร์ก หรือ Hyde Park ในลอนดอน พร้อมด้วยจุดเด่นทั้ง Roof Park ขนาด 7 ไร่ พื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองเห็นวิวสวนแบบ 180 องศา การเดินทางที่สะดวกไร้รอยต่อ และเชื่อมโยงวัฒนธรรมและ City Soul โดยตั้งเป้าดึงดูดคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 25 ล้านคนต่อปี
ศูนย์กลางการเชื่อมโยงชีวิตคนเมือง
Central Park ถูกสร้างขึ้นจาก 4 แกนหลักที่สอดรับกับอนาคตของไลฟ์สไตล์คนกรุงเทพฯ อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นแกน การเชื่อมโยงชีวิตเมืองกับธรรมชาติ (Nature) โดยเฉพาะ Roof Park สวนลอยฟ้าขนาด 7 ไร่ ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงสวนประดับ แต่เป็นจุดเชื่อมต่อทุกอาคารในโครงการเข้าไว้ด้วยกันอย่างแท้จริง พื้นที่ส่วนนี้เปรียบเสมือนส่วนต่อขยายของชีวิตในสวน (Extension of Park Life) ที่ยื่นออกมาจากสวนลุมพินี
สามารถเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการวิ่งบน Natural Walk Trail เส้นทางเดิน-วิ่งยาว 750 เมตร และสามารถพาสัตว์เลี้ยงแสนรักมาที่ Pets Park หรือให้ลูกๆ ได้ปลดปล่อยจินตนาการที่ Kids Park ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาของเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ ในพื้นที่ Infinity Skyline ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่สีเขียวแห่งนี้ยังช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 11 ตันต่อปีเทียบเท่าคาร์บอน เปรียบได้เท่ากับการปลูกต้นไม้ใหญ่ถึง 900 ต้น
อีกแกนหนึ่ง คือ การเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อทุกการเดินทาง (Connect) โดย Central Park ตั้งอยู่บนทำเลที่เรียกว่า “Super Core CBD” หนึ่งเดียวของกรุงเทพฯ บนหัวมุมถนนสีลมและถนนพระรามสี่ โดยทำเลแห่งนี้คือจุดบรรจบที่เชื่อมโยง 4 ย่านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ CBD ดั้งเดิมอย่างถนนสีลม, ถนนสาทร, พื้นที่ New CBD และ Embassy Zone อย่างถนนสุขุมวิท, ถนนเพลินจิต, ถนนราชประสงค์, พื้นที่ Creative District & Riverside อย่างถนนเจริญกรุง และพื้นที่ Cultural Core & Chinatown อย่างถนนเยาวราช
ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายผ่านการเชื่อมต่อโดยตรงกับรถไฟฟ้า BTS และ MRT ทำให้พื้นที่นี้พร้อมรองรับผู้คนกว่า 70,000 คนต่อวัน หรือมากกว่า 25 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ Central Park Offices อาคารสำนักงานสูง 43 ชั้น ยังถูกออกแบบมาเพื่ออนาคตของการทำงานด้วยมาตรฐานระดับโลกอย่าง WELL, LEED และ Wired Score พร้อมมอบทิวทัศน์ของสวนลุมพินีที่ดีที่สุดในประเทศไทย
คัดสรรวิถีชีวิตใหม่ที่สะท้อนตัวตน
แกนที่สำคัญของ Central Park คือ การสร้างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตในเมืองรูปแบบใหม่ (Culture) เป็นการรวบรวม “Curated Experiences” ที่โอบรับความหลากหลายและตอบโจทย์ผู้คนทุกเจเนอเรชันอย่างลึกซึ้ง บนพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 130,000 ตร.ม. ซึ่งรวบรวมแบรนด์ดังกว่า 550 แบรนด์ ที่ไม่ใช่แค่การมาเดินช้อปปิ้งเท่านั้น แต่คือการค้นพบตัวตนและแรงบันดาลใจใหม่ๆ
โดดเด่นด้วย Culinary Landmark สู่การเป็นหมุดหมายใหม่ของนักชิมทั่วโลก สร้างปรากฏการณ์รวบรวมที่สุดแห่งรสชาติจากทุกมุมโลกมาไว้ในที่เดียว ทั้งร้านดังระดับตำนานที่จะมาเปิด First-time in Thailand พร้อมสัมผัสประสบการณ์ครั้งแรกในเมืองไทยทั้ง คิวามิยะ (Kiwamiya) ร้านเทปันยากิชื่อดังจากฟุกุโอกะที่โดดเด่นด้วยสเต็กเนื้อวากิวต้นตำรับ, โควไบ (KOBai) พรีเมียมชาบู, Long Jing อาหารจีนฟิวชันจากหางโจว, Super Matcha ชาเขียวพรีเมียมสุดฮิตจากเกาหลี และ CHEONGDAM GARDEN ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลีระดับพรีเมียม
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์สำคัญที่ชั้น LG คือการยกย่านสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ มารวมไว้ในที่เดียว จนเป็นศูนย์รวมร้านอร่อยระดับ Michelin Guide และร้านในตำนานกว่า 70 ร้านค้า รวมเมนูมากกว่า 1,000 เมนูมากที่สุดในกรุงเทพฯ และยังเป็นศูนย์รวมคาเฟ่และร้านของหวาน (Coffee, Tea & Sweet Culture) ชื่อดังกว่า 50 แบรนด์ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ของคนรักกาแฟและชาอย่างแท้จริง
ในโซนแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของ Central Park ถูกนำเสนอเพื่อตอบโจทย์รสนิยมที่หลากหลายและเป็นอิสระของคนเมือง ทั้งการรวมตัวของแบรนด์แฟชั่นระดับโลก นำโดย Inditex Group ที่จะทยอยเปิดแฟล็กชิปสโตร์ของแบรนด์ในเครืออย่างครบครัน พร้อมด้วยแบรนด์ดังอีกมากมาย และการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยของ VIVAIA แบรนด์รองเท้ารักษ์โลกที่คนดังระดับโลกอย่าง เจนนี่ BLACKPINK และ Selena Gomez เลือกใช้
Central Park ยังเป็นศูนย์รวมแบรนด์กีฬาและไลฟ์สไตล์แอคทีฟที่ครบครันที่สุด ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมตั้งแต่การวิ่ง, เทรนนิ่ง, ไปจนถึงกิจกรรมเอาท์ดอร์ พบกับ NIKE, ADIDAS ORIGINALS, ONITSUKA TIGER, ASICS, NEW BALANCE, PUMA, SALOMON, THE NORTH FACE, COLUMBIA, และ JD SPORTS สอดรับกับความเชื่อว่า Well-being คือส่วนสำคัญของชีวิตคนเมืองยุคใหม่ จึงได้สร้างเทรนด์และกิจกรรมที่จะสร้างแรงบันดาลใจและเติมเต็มพลังในทุกๆ วัน
เสริมด้วยพื้นที่สำหรับคอมมูนิตี้ที่มีรสนิยมเฉพาะทางอย่างแท้จริง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ร้านตัดผมชาย (Barber Shop) ที่ไม่ได้เป็นแค่ร้านตัดผม แต่เป็นพื้นที่สำหรับสุภาพบุรุษที่สามารถมาแลกเปลี่ยนบทสนทนาและรสนิยม ที่ซึ่งมีทั้งซิการ์ชั้นดี บรั่นดี และผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ไลฟ์สไตล์อย่าง POP MART, STANLEY, DYSON, และ JIM THOMPSON ที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการที่หลากหลาย
พร้อมทั้งกิจกรรมที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน เช่น Vinyl Cardio การออกกำลังกายรูปแบบใหม่บน Roof Park ที่ผสานจังหวะการเต้นของหัวใจเข้ากับเสียงเพลงสุดคลาสสิกจากแผ่นเสียงของดีเจชั้นนำ หรือ Swing Rave การออกกำลังกายยามเช้าพร้อมเพลงสวิงสนุกๆ และ Sunrise Coffee & Tea Rave ปาร์ตี้กาแฟและชาบนสวนลอยฟ้าพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น
ที่สำคัญยังได้สร้างความผูกพันกับชุมชนโดยรอบผ่านกิจกรรม “Neighborhood Soul” ที่จะนำร้านดังในย่านสีลม-สาทร มาคอลแลบกับร้านค้าในศูนย์ฯ เพื่อสร้างประสบการณ์อาหารรูปแบบใหม่ พร้อมมอบสิทธิพิเศษภายใต้แคมเปญ “Hello Neighbor!” สำหรับพนักงานออฟฟิศ ผู้อยู่อาศัยในย่าน รวมถึงมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และโรงเรียนโดยรอบ โดยในวันเปิดตัว เตรียมพบกับนิทรรศการศิลปะรูปแบบใหม่ที่จะเปลี่ยนตึก Central Park ให้กลายเป็น “นิทรรศการศิลปะกินได้” สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ผสานด้านดีไซน์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
และแกนสุดท้ายคือ การผสานการออกแบบสถาปัตยกรรมกับความยั่งยืน (Sustainable) ของ Central Park ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Design for the Future with Respect for Legacy” โดยยังคงรักษาจิตวิญญาณของดุสิตธานีไว้ผ่าน Façade ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Podium เดิมที่มีการใช้โทนสี 3 กษัตริย์ ทั้งสีเงิน, สีทองและสีทองแดง (Copper) เพื่อเป็นตัวแทนของอาคารสำนักงาน, โรงแรม และที่พักอาศัยตามลำดับ
โดย Central Park Offices ยังเป็นต้นแบบออฟฟิศ Next Gen และ Green Building มาตรฐานระดับโลก ที่มีการดีไซน์และออกแบบเพื่อความยั่งยืน นอกจากนี้ Central Food ยังได้ร่วมกับ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด จัดทำผ้ากันเปื้อนรักษ์โลกจากขวดพลาสติกใช้แล้วจำนวน 4 ขวดต่อผืน โดยนำมาใช้ที่ PARKSIDE MARKET เป็นแห่งแรก เพื่อร่วมกันลดขยะพลาสติกและสร้างสังคมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
พร้อมด้วยจอ LED ดิจิทัลโค้งขนาดใหญ่กว่า 518 ตร.ม. รองรับคอนเทนต์ 3D ด้วย Visual Impact บริเวณจุดตัดหัวมุมถนนสีลมและถนนพระรามสี่ ที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ดึงดูดสายตาจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกและคนไทยกว่า 8 ล้านคู่ต่อวัน และจะกลายเป็นจุด Landmark ใหม่ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
Central Park ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเพียงศูนย์การค้า แต่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นต้นแบบของชีวิตเมืองในอนาคต ที่เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการวิ่งในสวนลุม จิบกาแฟบน Roof Park รับประทานมื้อกลางวันกับร้านระดับมิชลินไกด์ กลับไปทำงานที่ออฟฟิศซึ่งมีวิวที่ดีที่สุด และปิดท้ายวันด้วยเครื่องดื่มแก้วโปรดที่ Rooftop Bar กับเพื่อนๆ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ในที่เดียว
เตรียมพบกับการเปิดตัวเฟสแรกในวันที่ 4 กันยายน 2568 และการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เต็มรูปแบบในเดือน พฤศจิกายน 2568 ที่ Central Park ที่นี่…เพื่อคุณคนใหม่ (Here for all of you)