ถอดรหัส “FYNN Asoke” ทำไมขายดี สวนกระแสคอนโดใหม่ใจกลางเมือง

  • 647
  •  
  •  
  •  
  •  

แม้เวลานี้ภาพรวมของโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ กำลังอยู่ในสภาวะ Oversupply ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทั้งหมด เพราะถ้าเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง หรือย่าน CBD (Central Business District) ยังเป็นที่หมายปองของทั้งผู้บริโภคที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง กับคนที่ซื้อเพื่อลงทุน

เมื่อ Demand ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับศักยภาพทำเล มีระยะเดินใก้ลสถานีรถไฟฟ้า และความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ส่งผลให้ “ราคาขาย” ขยับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน มีราคาเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 8 – 10 ล้านบาทขึ้นไป !!

สิ่งที่ตามมาคือ กลายเป็นว่าการอยู่อาศัยในย่านใจกลางเมือง ถูกจำกัดเฉพาะคนมีกำลังซื้อสูงไปโดยปริยาย ในขณะที่ผู้บริโภคกลุ่ม Middle Class หรือชนชั้นกลาง แม้อยากได้ที่อยู่อาศัยทำเลใจกลางเมือง แต่ไม่สามารถซื้อได้ไหว จึงต้องพิจารณาโครงการคอนโดมิเนียมที่เกาะตามแนวรถไฟฟ้าเส้นรอบนอกเมืองแทน

ถึงแม้คอนโดมิเนียม เส้นรอบนอกเมืองมีราคาต่อยูนิตถูกกว่า แต่สิ่งที่ผู้ซื้อต้องแบกรับตามมา คือ ค่าเดินทางที่แพงขึ้น และใช้ระยะเวลาเดินทางเข้ามาในย่านใจกลางเมืองมากขึ้น

นี่คือ “Pain Point” ของคนส่วนใหญ่ที่อยากมีที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง

ด้วยความเข้าใจในความต้องการ และปัญหาของผู้บริโภค ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ “FYNN Development” (ฟินน์ ดิเวลลอปเม้นท์) ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ได้หาทางแก้โจทย์ดังกล่าว นำไปสู่การศึกษา-ค้นคว้าอย่างหนัก เพื่อหา “ทำเลใจกลางเมือง” และสร้างสรรค์คอนโดมิเนียม คุณภาพมาตรฐานระดับพรีเมียม ในราคาสมเหตุสมผล เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้

เลือก “ทำเล” ในสไตล์ “FYNN Development

ถึงแม้ FYNN Development จะเป็นน้องใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในไทย แต่ถือเป็น “ดาวรุ่งมาแรง” สะท้อนได้จาก 3 โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัว นับตั้งแต่ FYNN AREE, FYNN Sukhumvit 31 และล่าสุด FYNN Asoke ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เพราะหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน เวลานี้มียอดขายแล้วกว่า 70%

หัวใจสำคัญอันดับแรกของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือ “ทำเล” เพราะฉะนั้น Developer รายไหนมี “ทำเลทอง” ในมือ ย่อมสร้างความได้เปรียบ

ทำเลยุทธศาสตร์ที่ “FYNN Development” เลือกปักหมุด จะมุ่งเน้นทำเลที่มี Community และมีความพร้อมด้านองค์ประกอบของความเป็นเมืองอยู่แล้ว ทั้งโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ, สถาบันการศึกษา, สถาบันการเงิน, อาคารสำนักงาน, ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

เนื่องจาก “FYNN Development” เชื่อว่าความเพียบพร้อมที่มีอยู่แล้วในทำเลนั้นๆ ทำให้ผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยในโครงการฯ สามารถอยู่ได้อย่างสะดวกสบาย

เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าคอนโดมิเนียมทั้ง 3 โครงการของ FYNN Development อยู่บนทำเลในเมืองที่มีความครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น FYNN AREE, FYNN Sukhumvit 31 และล่าสุด FYNN Asoke

แก้โจทย์ที่อยู่อาศัยในเมืองแพงเกินจริง! ด้วย “ราคาที่ยุติธรรมต่อผู้บริโภค”

สิ่งที่มาคู่กับคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท คือ ราคาขายต่อยูนิตแตะระดับไม่ต่ำกว่า 8  – 10 ล้านบาทขึ้นไป หรือประมาณกว่า 250,000 – 300,000 บาทต่อตารางเมตร

แต่ใครเลยจะเชื่อว่าใน “ย่านอโศก” ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น “ทำเลทองฝังเพชร” ของมหานครใหญ่แห่งนี้ ก็สามารถมีโครงการคอนโดมิเนียมในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 5 ล้านบาท!!

จากการพัฒนาโครงการ FYNN Asoke (ฟินน์ อโศก) โครงการคอนโดมิเนียมรูปแบบ Low Rise ของ FYNN Development ที่วางตำแหน่ง Affordable Luxury และยังคงรักษาเอกลักษณ์เด่นนั่นคือ “ทำเลใจกลางเมือง” ที่มีความพร้อมทั้งด้านคมนาคม – ชุมชน – องค์ประกอบของความเป็นเมืองที่ครบวงจรในย่านเดียว ได้แก่

  • ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 10 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อโศก และรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีเพียง 550 เมตร ในขณะที่เส้นทางถนน ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเพลินจิต
  • อยู่ในย่านอาคารสำนักงานเกรด A
  • รายล้อมด้วยศูนย์การค้า และร้านค้าต่างๆ ในย่านอโศก ไม่ว่าจะเป็น The EM District และ Terminal 21
  • สถาบันการศึกษาชั้นนำ เช่น โรงเรียนวัฒนา โรงเรียนสาธิตประสานมิตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และโรงเรียนนานาชาติ NIST
  • โรงพยาบาลระดับนานาชาติ เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
  • สวนสาธารณะ 2 สวน คือ สวนเบญจกิตติ เนื้อที่กว่า 200 ไร่ พร้อม Bike Route ความยาว 1.3 กิโลเมตร เชื่อมต่อสวนลุมพินี ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียงแค่ 200 เมตร

ที่ “FYNN Asoke” ประกอบด้วยห้อง 4 ขนาด คือ

  • 24 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5 ล้าน
  • 32 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5 ล้าน
  • 40 ตารางเมตร รูปแบบ 1 Bedroom Plus ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท
  • 53 ตารางเมตร รูปแบบ 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท

ซึ่งเป็นราคาที่รวมชุดเฟอร์นิเจอร์แต่งครบแล้วด้วย เพราะการทำราคาขายสมเหตุสมผล (Value for money) คือ นโยบายการดำเนินธุรกิจของ “FYNN Development” ที่ยึดมั่นในการตั้งราคาขายที่ยุติธรรมต่อผู้บริโภค โดยอิงจาก “ราคาปัจจุบัน” ไม่ได้เอา “ราคาอนาคต” ที่มาจากการประเมินล่วงหน้าไปอีก 3-5 ปี

เหตุผลที่เลือกกำหนด “ราคาวันนี้” เพราะ FYNN Development เข้าใจ Consumer Insight ว่าการซื้อคอนโดมิเนียมสักห้อง ไม่ใช่พิจารณาแค่ “ทำเลที่ถูกใจ” หรือ “การออกแบบที่ตอบโจทย์” เท่านั้น แต่ยังมีปัจจัย “ราคา” เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจซื้อด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการวาง “ราคา” จึงต้องทำให้เข้าถึงได้

ด้วยนโยบายดังกล่าว ทำให้ “FYNN Asoke” รวมไปถึงโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ ของ FYNN Development สามารถแจ้งเกิดในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในไทยได้สำเร็จ

จากการออกแบบห้องที่มี 4 รูปแบบให้เลือก และองค์ประกอบที่อยู่แวดล้อมโครงการ FYNN Asoke ทำให้โครงการนี้ได้การตอบรับจากลูกค้า ทั้งผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ และครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีลูกเล็ก รวมถึงคนที่ซื้อเพื่อการลงทุน

ออกแบบห้องตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง – Detox ความวุ่นวายใจกลางเมืองด้วย “พื้นที่ส่วนกลาง-พื้นที่สีเขียว”

ยิ่งชีวิตอยู่บนดิจิทัลมากเท่าไร – ยิ่งมีวิถีชีวิตท่ามกลางสังคมเมืองใหญ่ที่แวดล้อมด้วยอาคารสูง อยู่บนความเร่งรีบ จอแจ วุ่นวายมากเท่าไร มนุษย์ก็ยิ่งหันหา “พื้นที่สีเขียว” มากขึ้นเท่านั้น

นอกจาก “ทำเล” และ “ราคา” แล้ว จุดเด่นของโครงการ “FYNN Asoke” ยังมีเรื่องการออกแบบทั้งภายในห้อง – พื้นที่ส่วนกลางที่เข้าใจไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง ผสานกับแนวคิด “กลมกลืนไปกับธรรมชาติ” โดยเก็บรักษา “ต้นจามจุรียักษ์” อายุกว่า 60 ปีในตำแหน่งเดิม ซึ่งเป็นแกนหลักของการออกแบบโครงการ เพราะ “FYNN Development”เชื่อว่าของบางอย่างใช้เงินซื้อไม่ได้

ดังนั้นในการออกแบบตัวอาคาร จึงมี 2 อาคารตั้งขนานกัน โดยห้องชุดที่หันเข้าด้านโครงการ ถูกออกแบบด้วยเส้นโค้ง เพื่อหันมุมมองของแต่ละห้องให้มีระยะห่างระหว่างตึกมากขึ้น

พร้อมเพิ่มความโปร่งของห้อง ด้วยความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร และติดตั้งกระจกแบบ Full-height มาพร้อมกับม่านทึบ ทำให้ห้องไม่ร้อน และห้องชุดกว่า 90% มีห้องน้ำแบบ 4-figure มีอ่างอาบน้ำ และแยกส่วน Shower นอกจากนี้ภายในห้อง ยังติดตั้ง Home Automation ควบคุมการเปิด-ปิดไฟส่องสว่าง และเครื่องปรับอากาศผ่าน Mobile Application

ขณะที่ “พื้นที่ส่วนกลาง” ออกแบบให้ตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานในเมือง และกลุ่มครอบครัว ได้ Detox การใช้ชีวิตจากความวุ่นวายของสังคมเมือง ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ กว่า 40 รายการ และพื้นที่สีเขียว ไม่ว่าจะเป็น

  • Co-Working Space สำหรับนั่งทำงาน และประชุมกลุ่มเล็กๆ
  • Fitness Lounge พื้นที่กว่า 200 ตารางเมตร ประกอบด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายของ Technogym และห้องโยคะ
  • Suana-Steam Room ภายในห้องน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
  • Social Bar สำหรับพักผ่อน และสังสรรค์
  • Co-Theatre สำหรับนั่งเชียร์บอลนัดสำคัญกับคนอื่น
  • Raintree Pavilion สำหรับพักผ่อนใต้ต้นจามจุรียักษ์
  • สระว่ายน้ำยาว 25 เมตร ที่มาพร้อมกับสระเด็กด้วยสไลเดอร์แบบน้ำตก
  • บนชั้นดาดฟ้า พื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร จัดเตรียมแปลงผักสวนครัว, สนามเด็กเล่น และ Co-Kitchen ที่มีจุดทำบาร์บีคิว และพื้นที่นั่งพักผ่อน-สังสรรค์ และรับประทานอาหารสำหรับกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุค ปัจจัยการพิจารณาที่อยู่อาศัยของคน อยู่บนพื้นที่ 5 ส่วนหลักคือ 1. ทำเล / 2. ราคา / 3. สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ / 4. การออกแบบทั้งภายนอก-ภายในโครงการ / 5. ชื่อเสียง (Reputation) ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายนั้นๆ

โครงการใดที่สามารถตอบโจทย์ครบ 5 องค์ประกอบ โครงการนั้นๆ ย่อม “ชนะใจผู้บริโภค” เหมือนเช่น “FYNN Development” พัฒนาทุกโครงการโดยคำนึงถึงทุกองค์ประกอบข้างต้น จึงทำให้แต่ละโครงการประสบความสำเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว

สนใจโครงการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับสิทธิพิเศษได้ที่ : https://bit.ly/2Kbrmmp


  • 647
  •  
  •  
  •  
  •