แบรนด์คลีนบิวตี้ที่เริ่มต้นจากประสบการณ์จริงของ ‘คุณกัญญฉัชฌ์ เลิศธนไพบูลย์ Founder and CEO’ และเติบโตภายใต้หลักคิดที่ชัดเจนตั้งแต่วันแรก ไม่ใช่แค่เพื่อตอบโจทย์ตลาดไทย แต่เพื่อก้าวไปให้ไกลถึงเวทีโลก โดยใช้เวลาเพียง 8 ปีในการขยายจากแบรนด์เล็กสู่แบรนด์ที่มียอดขายแตะระดับพันล้านบาท
เบื้องหลังความสำเร็จนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของ “5 กลยุทธ์สำคัญ” ที่ถูกวางอย่างเป็นระบบ และลงมือทำอย่างจริงจังในทุกมิติ
1. ‘แบรนด์โพสิชัน’ สำคัญ ต้องวางให้ชัดตั้งแต่ ‘Day-1’
HER HYNESS ไม่ได้เลือกเล่นในตลาดความงามทั่วไป หากแต่วางตำแหน่งแบรนด์ให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าเป็น “Clinically-proven clean beauty” หรือคลีนบิวตี้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางคลินิก ซึ่งถือเป็นการวางหมากล่วงหน้าเพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
คุณกัญญฉัชฌ์ เลิศธนไพบูลย์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ มีประสบการณ์ทำงานในองค์กรระดับโลกทั้ง L’Oréal และ Estée Lauder ซึ่งทำให้เธอมองเห็นแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงในระดับโกลบอล — โดยเฉพาะการเติบโตของ “คลีนบิวตี้” และ “การทดสอบทางคลินิก” ที่กลายเป็นหัวใจของการตัดสินใจซื้อในยุคใหม่
จากรายงานของ Euromonitor (2025) พบว่า
- ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับการทดสอบคลินิกเพิ่มจาก 13% ในปี 2019 เป็น 18% ในปี 2023
- การใส่ใจใน “ส่วนผสม” และ “ความปลอดภัย” ของผลิตภัณฑ์กลายเป็นพฤติกรรมหลักของกลุ่มผู้ใช้บิวตี้ยุคใหม่
- 40% ของผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับคลีนบิวตี้
- ประเทศไทย อินโดนีเซีย อินเดีย แอฟริกาใต้ ต่างมีอัตราการตื่นตัวต่อคลีนบิวตี้สูงเกิน 50%
- ความต้องการคุณภาพระดับพรีเมียมมีมากพอๆ กับการใส่ใจภาพลักษณ์แบรนด์
2. มองมาตรฐานอุตสาหกรรมให้ออก แล้ว ‘ทำให้เกิน’
แทนที่จะเน้นเปิดตัวสินค้าใหม่บ่อยครั้ง HER HYNESS กลับเลือกทุ่มเทให้กับคุณภาพในระดับที่ “ทำเกิน” มาตรฐานอุตสาหกรรม
ทุกผลิตภัณฑ์ต้องผ่านการวิจัยและพัฒนานานอย่างน้อย 12 เดือน โดยมีการทดลองสูตรกว่า 40–50 สูตรก่อนจะได้ตัวที่ดีที่สุด ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
กระบวนการผลิตทุกชิ้นจึงไม่ใช่เพียงการ “สร้างสินค้าเพื่อขาย” แต่คือการ “สร้างตัวแทนของแบรนด์” ที่พร้อมพิสูจน์ตัวเองด้วยผลลัพธ์ และสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีในระยะยาว เพราะเมื่อแบรนด์ในตลาดเล็งแต่จะทำให้ดีตามมาตรฐาน แบรนด์ที่ทำเกินขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่ามีต้นทุน และความเสี่ยงสูงกว่า ย่อมโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นในตลาด
3. ลูกค้าต้องซื้อสินค้า ‘ง่ายที่สุด’
HER HYNESS ไม่ได้มองการเติบโตผ่านยอดขายรายช่องทาง แต่ให้ความสำคัญกับ “ภาพรวมของประสบการณ์ผู้บริโภค” เป็นหลัก
แบรนด์จึงเลือกลงทุนอย่างจริงจังกับทั้งออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมวางจำหน่ายในหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านบิวตี้สโตร์ชั้นนำ อีคอมเมิร์ซ และเว็บไซต์ของแบรนด์เอง
เป้าหมายไม่ใช่แค่ให้ลูกค้า “ซื้อได้ง่าย” แต่เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกได้ว่า HER HYNESS คือแบรนด์เดียวกัน ไม่ว่าจะเจอในช่องทางไหนก็ตาม — ตั้งแต่โฆษณา รีวิว ร้านค้า ไปจนถึงแพ็คเกจจิ้ง และบริการหลังการขาย
การสื่อสาร การจัดพอร์ตสินค้า และภาพลักษณ์ของแบรนด์จึงถูกจัดการแบบบูรณาการ เพื่อให้เกิดประสบการณ์แบบไร้รอยต่อและต่อเนื่องในทุก Touchpoint
4. ‘พลังของลูกค้า’ คือพลังที่มีค่าที่สุด
รีวิว คอมเมนต์ แชทในโซเชียลมีเดีย หรือการแชร์ประสบการณ์จากผู้ใช้จริง กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลังยิ่งกว่าสื่อโฆษณาแบบดั้งเดิม และหลายครั้งยังมาจาก Influencer ระดับโลกที่เลือกใช้เองโดยไม่มีการสปอนเซอร์
กลยุทธ์นี้ไม่เพียงช่วยสร้าง Trust แต่ยังสร้างภาพของแบรนด์ที่ “ไม่พูดเกินจริง” และ “ยืนอยู่บนความจริงของผู้ใช้” จนทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในกลุ่มที่ต้องการคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
5. สร้างทีมที่แข็งแกร่ง
เบื้องหลังการเติบโตอย่างเป็นระบบของ HER HYNESS คือทีมงานที่ผสานความรู้ระดับโลกกับความเข้าใจผู้บริโภคไทยได้อย่างลึกซึ้ง
คุณกัญญฉัชฌ์ เลิศธนไพบูลย์ — ประสบการณ์ตรงในบริษัทความงามระดับโลก ทั้งในไทย สิงคโปร์ และจีน
คุณเจฟ เลิศธนไพบูลย์ — เบื้องหลังสายการเงินระดับโลกจาก Goldman Sachs นิวยอร์กและฮ่องกง
คุณปิยะภาพ เลิศธนไพบูลย์ — พื้นฐานจากสถาบันการเงินระดับโลก เช่น Merrill Lynch, Citi และ Robert Baird
ทั้ง 3 ผู้ก่อตั้งถ่ายทอดแนวคิดแบบ “Think Global, Act Local” อย่างชัดเจน ผ่านการทำงานจริงในองค์กรชั้นนำ และการนำองค์ความรู้ระดับโลกมาประยุกต์ใช้กับบริบทไทยอย่างลงตัว
นอกจากนี้ ทีมงานของ HER HYNESS ยังประกอบด้วยบุคลากรที่เคยทำงานในบริษัทระดับโลกหลายแห่ง ซึ่งช่วยผลักดันให้แบรนด์ก้าวไปข้างหน้าด้วยความเข้าใจทั้งตลาดและมาตรฐานสากล
HER HYNESS จึงไม่ใช่แค่ “แบรนด์ไทยที่ขายดี” แต่เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของการสร้างแบรนด์ในยุคใหม่ ที่ต้องยืนอยู่บนคุณภาพจริง ความเข้าใจลึก และวิสัยทัศน์ระยะยาว