แบรนด์ไทยแท้ 100% อย่าง “จระเข้” กำลังไฮไลท์ตัวเองให้เป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมก่อสร้างที่ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์วัสดุก่อสร้างทั่วไป แต่เป็นเหมือนเพื่อนที่เข้าใจปัญหาของคนมีบ้านทุกคนอย่างแท้จริง เพราะตลอด 33 ปีที่ผ่านมา จระเข้ได้มองเห็นและเข้าใจถึงปัญหาที่คนมีบ้านต้องเคยเจอมาแล้วทั้งสิ้น และสิ่งที่จระเข้จะทำต่อในปีนี้ คือการนำเอา “อินไซต์จริง” จากคนรักบ้าน มาเป็น “กิมมิคในการสื่อสาร” ที่โดดเด่นผ่านแคมเปญโฆษณาที่เรียลและเข้าถึงใจผู้บริโภคยิ่งขึ้น
หลายคนคงเคยได้ยินประโยคเด็ดที่ว่า “ปัญหาบ้านเยอะ … จระเข้เยอะกว่า” แทคไลน์นี้เป็นประโยคติดหูที่ตอกย้ำถึงความครอบคลุมของผลิตภัณฑ์ “จระเข้” ซึ่งพร้อมตอบโจทย์ทุกความท้าทายในการดูแลบ้าน โดยที่ผ่านมา จระเข้มุ่งนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมงานก่อสร้างทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นงานพื้น ผนัง หลังคา ดาดฟ้า โดยไม่ได้มองแค่การเสื่อมสภาพของวัสดุตามกาลเวลาเท่านั้น แต่ยังเจาะลึกไปถึงปัญหาที่เกิดจากการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง หรือการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพด้วย
ปี 2025 จึงเป็นปีที่จระเข้จะสานต่องานที่เริ่มไว้แล้วในปี 2024 โดยปีที่ผ่านมา จระเข้ได้ปล่อยภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แคมเปญ “ปัญหาบ้านเยอะ … จระเข้เยอะกว่า” ซึ่งเจาะลึกอินไซต์ที่เกิดจากการทำความเข้าใจปัญหาของคนรักบ้านในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นงานสร้างหรืองานซ่อมแซม เพราะแน่นอนว่าคนทำบ้านย่อมมีความต้องการและปัญหาที่ “เยอะมาก” เป็นทุนเดิม เช่น ปัญหาพื้นโก่ง กระเบื้องระเบิด หรือพื้นผิวคอนกรีตร้าว ผนังลอกล่อน หรือเกิดเชื้อรา หลังคารั่ว น้ำซึมตามรอยต่อ หรือน้ำซึมจากห้องน้ำชั้นบนลงมาชั้นล่าง โดยปัญหาเหล่านี้ “จระเข้” มองเห็นและเข้าใจเป็นอย่างดี
และในปี 2025 นี้ จระเข้ยังคงเดินหน้าแคมเปญ “ปัญหาบ้านเยอะ … จระเข้เยอะกว่า” ต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยจะเน้นการเล่าปัญหาแต่ละพื้นที่ของบ้าน และเชื่อมโยงไปกับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง คุณภาพ มาตรฐานการรับรอง ความปลอดภัยต่อสุขภาพ และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอความครบจบในที่เดียวสำหรับการซ่อมบ้าน เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเห็นภาพและมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของจระเข้ได้อย่างชัดเจนขึ้น
แก้ปัญหาบ้านแบบมืออาชีพ
อิมแพคของแคมเปญ “ปัญหาบ้านเยอะ … จระเข้เยอะกว่า” ในปีที่ 2 ถูกสะท้อนชัดเจนผ่านคอนเทนต์ที่จระเข้เผยแพร่บนช่องทางการสื่อสารของตัวเอง โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดียที่เล่าได้ชัดถึงอินไซต์ปัญหาก่อสร้างบ้านที่คนไทยต้องเจอ, แนวโน้มการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ถูกประเภทเหมาะกับงานก่อสร้าง สำหรับเจ้าของบ้าน ช่าง ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค (Consumer Behavior) ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง คุณภาพ มาตรฐานการรับรอง ความปลอดภัยต่อสุขภาพ และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากขึ้น
ปัญหาใหญ่ที่คนไทยเจอในการก่อสร้างบ้านคืออะไร? อันดับแรกเลยคือเรื่องคุณภาพและความล่าช้า การควบคุมงานที่ไม่ดีพอทำให้เกิดข้อผิดพลาด เช่น ผนังร้าว หรือโครงสร้างไม่แข็งแรง ส่วนความล่าช้ามักมาจากการบริหารจัดการที่ขาดประสิทธิภาพ หรือการขาดแคลนแรงงาน นอกจากนี้ การใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพต่ำหรือไม่ได้มาตรฐาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ทำให้บ้านที่ควรจะแข็งแรง กลับเปราะบางในระยะยาว
แนวโน้มของวงการก่อสร้างจึงกำลังอยู่ในยุคที่วัสดุก่อสร้างต้องตอบโจทย์ทั้งความยั่งยืนและนวัตกรรม เจ้าของบ้านและผู้รับเหมากำลังหันมาเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น คอนกรีตรีไซเคิล หรือไม้จากป่าที่ได้รับการรับรอง วัสดุประหยัดพลังงานอย่างหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ก็เริ่มได้รับความนิยม เพื่อช่วยลดค่าไฟและสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของไทยในปี 2608
พฤติกรรมผู้บริโภคเองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานการรับรอง เช่น วัสดุที่ผ่านมาตรฐาน LEED หรือ มอก. เพื่อความมั่นใจในความทนทานและความปลอดภัย นอกจากนี้ ความปลอดภัยต่อสุขภาพก็เป็นสิ่งที่ทุกคนใส่ใจ วัสดุอย่างสีไร้สารระเหย หรือระบบระบายอากาศที่ดี ล้วนกำลังเป็นที่ต้องการ ส่วนเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภคเริ่มเลือกวัสดุที่ช่วยลดคาร์บอน และสนับสนุนบริษัทที่มีนโยบาย ESG เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลการสํารวจ Residential real estate survey เดือน มี.ค. 2023 จํานวนผู้ตอบแบบสํารวจ 1,479 คน พบว่าผู้ที่มีแผนสร้างบ้านเอง สนใจเลือกวัสดุก่อสร้างที่ตอบโจทย์การประหยัดพลังงาน ใส่ใจสุขภาพ และรักษ์โลก โดยส่วนใหญ่ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นราว 1-5%
วัสดุดี=คุณภาพชีวิตดี
ในเมื่อ “ปัญหาบ้าน” เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกบ้าน ตั้งแต่พื้น ผนัง ดาดฟ้า ไปจนถึงโครงสร้างและฐานราก ไม่ว่าจะบ้านใหม่หรือบ้านเก่า ดังนั้น การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพตั้งแต่แรก ย่อมจะช่วยลดปัญหาในระยะยาว ทั้งเรื่องลดค่าใช้จ่าย ลดแรงในการทำงานไม่ต้องเสียแรงซ่อมซ้ำ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเรื่องของขยะหลังจากการซ่อมแซ่มหรือก่อสร้าง
แต่ถ้าบ้านเกิดมีปัญหา ก็สามารถคลี่คลายได้ เมื่อได้รับการดูแลและซ่อมแซ่มด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างตรงจุด ซึ่งตรงนี้ “จระเข้” อาสาเป็นตัวช่วยหลักของเจ้าของบ้าน เพราะจระเข้คือผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้านการแก้ปัญหาบ้าน ด้วยประสบการณ์กว่า 33 ปีในวงการวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้ ผู้อยู่อาศัย โดยจระเข้มีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ครอบคลุมตั้งแต่พื้น ผนัง ดาดฟ้า หลังคา จนถึงฐานราก พร้อมให้โซลูชันแบบครบ จบในแบรนด์เดียว
แคมเปญ “ปัญหาบ้านเยอะ… จระเข้เยอะกว่า” จึงขีดเส้นใต้ภาพลักษณ์ว่าจระเข้เป็นแบรนด์วัสดุก่อสร้างผู้สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม เห็นได้จากผลิตภัณฑ์จระเข้ที่ให้ความสำคัญกับ Well-being และการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน ซึ่งวันนี้จระเข้ ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งบนสองหลักสำคัญ “คุณภาพมาตรฐาน และ ความยั่งยืน” ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และกระบวนการทำงานภายใต้แนวคิด “Build Today, Beyond Tomorrow…ที่สุดของนวัตกรรม เพื่อพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า”
ต้นแบบ Problem-Solution Marketing
หากมองในภาพรวม สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของแบรนด์จระเข้คือการไม่ได้โฆษณาขายสินค้าแบบตรงๆ แต่เริ่มจากการเล่าเรื่อง Pain Point ของผู้บริโภคที่เข้าใจง่าย จนทำให้เกิดเป็น Customer Journey Mapping ที่ดีเพราะทุกคนที่เป็นเจ้าของบ้านมีโอกาสจะเข้าใจในสถานการณ์นี้ทันที กลายเป็นการสร้าง Emotional Connection ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจปัญหาที่ทำให้ปวดสมอง
ในอีกด้าน จระเข้ได้สร้าง Expert Authority ด้วยการให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาบ้าน อย่างเช่นการทำเนื้อหาอธิบายวิธีแยกระดับความรุนแรงของปัญหา เช่น รอยร้าวที่ไม่เป็นอันตราย vs รอยร้าวที่เป็นอันตรายที่ต้องให้วิศวกรตรวจสอบ ขณะเดียวกันก็อธิบายสาเหตุของปัญหา ทั้งการเล่าเรื่อง “กระเบื้องโก่ง” ว่าเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งการปูที่ไม่ได้มาตรฐาน การใช้ปูนผิดประเภท ก่อนจะให้คำแนะนำการแก้ไขแบบ Step-by-Step ที่ผู้บริโภคสามารถทำตามได้
ทั้งหมดนี้ทำให้จระเข้นำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมงานทุกส่วนของบ้านได้แนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนวัตกรรมการปูกระเบื้อง ทั้งกาวซีเมนต์ “จระเข้เขียว” ที่เป็นกาวซีเมนต์ยอดขายอันดับ 1 สำหรับปูกระเบื้องแกรนิตโต้และเซรามิก และ “จระเข้ทอง” สำหรับพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิหรือรับน้ำหนักมาก ยังมีกลุ่มนวัตกรรมกาวยาแนวที่ทนทานต่อสารเคมีและกรดได้หลากหลายชนิด รวมถึงกลุ่มเคมีก่อสร้างสำหรับงานซ่อมแซมหลากหลายปัญหา เช่น พื้นคอนกรีตร้าว ผนังขึ้นรา สีลอกล่อน ผนังร้าวขนาดเล็ก หลังคารั่ว น้ำซึมตามรอยต่อ และน้ำซึมจากห้องน้ำชั้นบน ก็สามารถทำความสะอาดและทาซีเมนต์กันซึมคุณภาพสูงจากจระเข้ก่อนปูกระเบื้อง
สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจาก “จระเข้” เพื่อแก้ปัญหาบ้านที่แสนจุกจิก ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะผลิตภัณฑ์ “จระเข้” สามารถหาซื้อได้ที่จระเข้ช็อป (Jorakay Shop) และร้านตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างชั้นนำทั่วประเทศ หรือจะสะดวกสบายกว่านั้น สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ https://jorakay.co.th/ และหากมีข้อสงสัย ต้องการคำแนะนำ หรือปรึกษาปัญหาบ้านเพิ่มเติม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line JORAKAY Family ตามลิงก์นี้ได้เลย https://lin.ee/WdPMtDe
