ลองจินตนาการว่า… คุณเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่งเดินลงจาก BTS สยาม แวะเข้าร้านอาหาร คุณแค่ยกโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดกระเป๋าเงินดิจิทัล แล้วสแกน Thai QR โดยแปลง USDC เป็น THBS (Programmable Payment) ที่มีมูลค่าคงที่ตามเงินบาท (1 THBS = 1 THB) ง่ายพอๆ กับที่คนไทยทำทุกวัน โดยทีไม่ต้องมีบัญชีธนาคารในไทย ไม่มีบัตรเครดิตที่ใช้ได้ และไม่ต้องการพกเงินสด
นี่คือภาพอนาคตที่ไม่ต้องรอให้ถึงอนาคต เพราะมันกำลังกำลังจะถูกเริ่มทดสอบให้บริการจริงแล้ว กับ Q Wallet โดยธนาคารกสิกรไทย (KBank)
ซึ่งอยู่ภายใต้การทดสอบของ Enhanced Regulatory Sandbox และ Digital Asset Regulatory Sandbox โดยโครงการมีการจำกัดจำนวนผู้ใช้งาน และจำนวนธุรกรรม ภายในระยะเวลาการทดสอบ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2568
เบื้องหลัง Q Wallet: ต่อยอดจากลูกค้าชาวไทยขยายสู่ตลาดลูกค้าชาวต่างชาติ
จากประสบการณ์ตรงของ KBank ในการพัฒนา Q-money (ผลิตภัณฑ์เงินอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบ Blockchain) และ K PLUS ตัวช่วยจัดการการเงิน ผ่าน Online Banking
จากตรงนั้น KBank จึงเห็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีเดียวกันมาต่อยอดสำหรับกลุ่มที่ท้าทายกว่าคือ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ที่ไม่มีบัญชีในไทย ไม่มีบัตรเครดิต และไม่สามารถเข้าถึงระบบการเงินในประเทศได้เหมือนคนไทย
Q Wallet จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโลกสองใบเข้าด้วยกัน นั่นคือ โลกของการท่องเที่ยว และโลกของการเงินดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าใช้จ่ายผ่าน Thai QR Payment ได้ทันที ซึ่งเป็นการทดลองระบบหลังบ้านที่เน้นความปลอดภัย ความเสถียร และความง่ายของผู้ใช้จริง
แลก USDC เพื่อทดสอบจ่ายเงินด้วย THBS ในร้านค้าไทยได้จริง
การทดสอบ Q Wallet เปิดให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถือหนังสือเดินทางจาก ประเทศที่กำหนด สามารถใช้ USDC ใน Web3 Wallet แปลงเป็น THBS (Programmable Payment) ที่มีมูลค่าคงที่ตามเงินบาท (1 THBS = 1 THB)
เมื่อมี THBS อยู่ในกระเป๋า Q Wallet แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินได้ทันทีผ่าน Thai QR Payment กับร้านค้าที่ร่วมโครงการ โดยไม่ต้องแลกเงินสด ไม่ต้องเปิดบัญชี ไม่ต้องมีบัตรเครดิตใดๆ
กระบวนการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องแล็บหรือสไลด์พรีเซนเทชัน แต่กำลังจะเริ่มทดสอบใช้งานจริงใช้งานจริงในพื้นที่นำร่องทั่วกรุงเทพฯ เช่น สยาม สุขุมวิท เยาวราช และเขตท่องเที่ยวอื่นๆ รวมแล้วกว่า 100 ร้านค้า ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม สปา รวมถึงร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา
ทำไมต้องเป็น THBS?
THBS (Programmable Payment) ซึ่งเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีกลไกการรักษามูลค่าในรูปแบบเงินฝากสกุลบาทที่สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า และบริการในประเทศไทยได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้ชำระเงินผ่านระบบ THAI QR Payment กับร้านค้าได้สะดวกสบาย
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบย้อนหลังได้ การใช้งานที่ง่ายผ่านระบบปลอดภัยเช่นนี้ ไม่ได้ช่วยแค่ให้จ่ายเงินสะดวกขึ้นเท่านั้น แต่ยังเสริมความมั่นใจให้กับทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในทุกการทำธุรกรรม
ใครร่วมทดสอบการใช้งานได้บ้าง?
Q Wallet เปิดให้ร่วมทดสอบการใช้งานกับนักท่องเที่ยวที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป และถือพาสปอร์ตจากประเทศที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา เป็นต้น โดยหนึ่งคนสามารถเปิด Q Wallet ได้เพียงหนึ่งบัญชีต่อหนึ่งหนังสือเดินทาง และจะมีการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (KYC) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ทั้งนี้ จำกัดจำนวนผู้ใช้งานไม่เกิน 1,000 คน
ในฝั่งของร้านค้า KBank ได้คัดเลือกร้านค้าที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านยอดนิยม คาเฟ่บรรยากาศดี ร้านสปาที่ได้มาตรฐาน โรงแรม รวมถึงร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถรองรับการจ่ายด้วย Q Wallet ได้ทันทีผ่าน Thai QR
แค่สะดวกอย่างเดียวไม่พอ นี่คือแนวคิดเรื่อง “การเงินยุคดิจิทัล
หากมองลึกกว่าประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น Q Wallet กำลังกลายเป็นโครงสร้างทางการเงินยุคดิจิทัล และเปิดรับผู้คนจากหลากหลายประเทศเข้าสู่ระบบเดียวกัน โดย KBank ได้ทดสอบระบบนี้ภายใต้ Enhanced Regulatory Sandbox และ Digital Asset Regulatory Sandbox เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทั้งหมดจะปลอดภัย มั่นคง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการจำกัดจำนวนผู้ใช้งาน และจำนวนธุรกรรม ภายในระยะเวลาการทดสอบ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2568
ในเชิงเทคโนโลยี Q Wallet อาศัยโครงสร้างของ Orbix Technology (บริษัทลูกในกลุ่มของ KBank) ที่เชี่ยวชาญด้าน Blockchain และ Smart Contract มาเป็นเบื้องหลังการทำงานทั้งหมด และยังเปิดทางให้สามารถปรับใช้กับ use case อื่นๆ ได้ในอนาคต
โอกาสของไทยในการเป็นผู้นำนวัตกรรม ทางการเงินระดับภูมิภาค
การเปิดให้ทดสอบการใช้งาน Q Wallet ในไทย เท่ากับว่าเราเป็นธนาคารพาณิชย์กลุ่มแรก ๆ ที่นำระบบการเงินดิจิทัลมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ “โดยนักท่องเที่ยวสามารถแลก USDC เป็น THBS เพื่อทดสอบจ่ายเงินในระบบ QR ของประเทศได้จริง”
สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ยังช่วยขยายโอกาสให้ธุรกิจไทย โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อย สามารถรับเงินข้ามพรมแดนได้โดยไม่ต้องมีบัญชีรับต่างประเทศ และไม่ต้องแบกรับต้นทุนของเงินสดหรือค่าธรรมเนียมจากระบบเดิม
ก้าวแรกของ Programmable Payment ที่จับต้องได้
ในขณะที่คำว่า “Programmable Payment” มักฟังดูไกลตัว หรืออยู่ในโลกของนักพัฒนา Q Wallet กลับเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เมื่อเทคโนโลยีได้รับการออกแบบดี ใช้งานง่าย และตั้งอยู่บนระบบที่ปลอดภัย มันสามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจริงได้ แม้กับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงไทยไม่กี่ชั่วโมง
โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดที่อยู่ในแผนงาน แต่นำมาทดลองใช้งานจริงแล้วในชีวิตประจำวัน และอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นเดินตามในอนาคต Q Wallet คือกระเป๋าเงินของอนาคต ที่เปิดให้ใช้งานในวันนี้
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://qwallet.quarix.io/