ทุกวันนี้ใครๆ ก็หันมาทำธุรกรรมการเงินบนสมาร์ทโฟน หรือ โมบาย แบงกิ้งกันมากขึ้น เพราะความสะดวกรวดเร็ว ง่าย และปลอดภัย ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่า ปี 2559 จำนวนบัญชีผู้ใช้โมบาย แบงกิ้งทั้งระบบเติบโตถึง 50% และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ความร้อนแรงของโมบาย แบงกิ้ง ทำให้ในช่วงนี้จะเห็นความเคลื่อนไหวเป็นระลอกจากเบอร์หนึ่งด้านดิจิทัล แบงกิ้งอย่างธนาคารกสิกรไทย โดยแบงก์นี้ถือเป็นเจ้าแรกที่พัฒนานวัตกรรมโมบาย แบงกิ้ง ด้วยบริการผ่านแอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS และล้ำสมัยด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันเป็นแอพฯ โมบายแบงกิ้ง ที่มีคนใช้งานมากถึง 5 ล้านคน และมีสถิติจำนวนการทำธุรกรรมเมื่อปี 2559 สูงถึง 1,688 ล้านรายการ มีมูลค่าการทำธุรกรรม 4.35 ล้านล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของบริการโมบาย แบงกิ้งจากธนาคารกสิกรไทย ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ “ดิจิทัล โมบิลิตี้” (Digital Mobility) ของคนในปัจจุบันที่ไม่อยู่นิ่ง ต้องการความสะดวกสบาย และจัดการทุกสิ่งด้วยตัวเองผ่านสมาร์ทโฟน
การเขย่าวงการโมบาย แบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย เริ่มด้วยการปล่อยทีเซอร์ อาศัยพลังการแชะ&แชร์ของ โซเชียล มีเดีย สร้างกระแส “ปรากฏการณ์เปลี่ยนท้องฟ้าบนตึกนี้” พร้อมติดแฮชแท็ก #เปลี่ยนมุมมองใหม่ #เปลี่ยนให้ชีวิตง่ายขึ้น #เปลี่ยน8พฤษภานี้ แน่นอนว่า เมื่อเบอร์ 1 ลงมาเล่นใหญ่อะไรเบอร์นั้น ก็สร้างความสงสัยไปทั้งโลกโซเชียลว่า ธนาคารกสิกรไทยกำลังจะเปลี่ยนอะไร
แล้ววันที่ 8 พฤษภาคม ท้องฟ้าบนชั้นสูงสุดของสำนักงานราษฎร์บูรณะ ที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ก็เกิดเป็นปรากฎการณ์เต็มไปด้วยสีสันของลูกโป่งสีเขียว เป็นการประกาศกลางท้องฟ้าแบบง่ายๆ ให้รู้กันทั้งเมืองว่า แอพฯ ธนาคารอันดับ 1 K-Mobile Banking PLUS ได้เปลี่ยนชื่อใหม่และโลโก้ใหม่ให้เรียกง่ายขึ้นเป็น K PLUS พร้อมกับการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น K PLUS SME ไว้ใช้งานสำหรับกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มาพร้อมคอนเซปต์ #เปลี่ยนให้ทุกเรื่องง่ายขึ้น ฟีเจอร์ที่อยู่ใน K PLUS ขั้นพื้นฐานที่ใช้โอนเงิน เติมเงิน จ่ายบิล ยังฮอตฮิตถูกใช้ตลอด แต่ที่เพิ่มเติมคือ ความล้ำเพื่อให้ง่ายกับคนใช้ เป็นฟีเจอร์ดีต่อใจ สะดวกทำได้ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ เช่น เปิดบัตรเดบิตใหม่ได้เอง เปิดแล้วรอรับบัตรที่ส่งตรงถึงบ้าน, ขอ e-Statement ส่งตรงที่อีเมล์, ซื้อประกันเดินทางระหว่างประเทศ นอกจากนี้ แอพฯ นี้จะมีฟีเจอร์ใหม่ทยอยออกมาอีกเพื่อทำให้คนใช้จัดการธุรรมการเงินในหลายๆ เรื่องได้ง่ายขึ้น เช่น เปิดบัญชีกองทุน สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนระหว่างกองทุน อายัดบัตรเครดิต โอนเงินต่างประเทศ เป็นต้น
สำหรับ “K PLUS SME” เรียกได้ว่า เป็นครั้งแรกที่มีแอพฯ บนโมบาย แบงกิ้ง ไว้ใช้งานสำหรับเจ้าของธุรกิจ SME โดยเฉพาะ แอพฯ นี้ จะมาช่วยเรื่องการบริหารจัดการเงินและธุรกิจ ซึ่งเจ้าของธุรกิจสามารถทำได้เองง่ายๆ บนสมาร์ทโฟน เช่น จัดกลุ่มบัญชีเพื่อให้ดูภาพรวมของธุรกิจได้ง่ายดาย ตรวจสอบสถานะเช็คทั้งขารับและขาจ่าย พร้อมแจ้งเตือนหากเช็คมีปัญหา รายงานสินเชื่อที่ครบทุกประเภท ทั้งโอดี ตั๋วสัญญาใช้เงิน เงินกู้ และหนังสือค้ำประกัน ตรวจสอบเงินเข้าและเงินออกของแต่ละบัญชี และในอนาคตแอพฯ นี้ จะถูกนำไปเชื่อมต่อกับระบบ หรือเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการเงินกับธุรกิจ
จะเห็นได้ว่า ทุกการพัฒนาของ K PLUS กับ K PLUS SME เป็นไปเพื่อ #เปลี่ยนให้ทุกเรื่องง่ายขึ้น แถมจับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ที่ชีวิตเชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลตลอดเวลา แถมยังต้องการความล้ำที่มาพร้อมกับความง่าย สะดวก และปลอดภัย
การออกมาประกาศแบบง่ายๆ แต่เล่นใหญ่ของเจ้าตลาดอย่างกสิกรไทย จึงสร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาด และเป็นที่จับตาว่า จะมีอะไรบ้างในโมบายแบงกิ้งที่จะถูกเปลี่ยนให้ง่ายขึ้น #เรียกง่ายขึ้น #ใช้ง่ายขึ้น #ประทับใจมากขึ้น #KPLUS #KPLUSSME
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.kasikornbank.com
