ดูเหมือนว่าสื่อมวลชนปัจจุบันกำลังจะเข้าสู่ยุค “สื่อมวลชน 4.0” แล้ว โดยยุคแรกคือสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งการพิมพ์ด้วยมือและเครื่องจักร ยุคต่อมาคือยุคสื่อทีวีและวิทยุ ยุคปัจจุบันคือยุคสื่อออนไลน์ และคาดกันว่าในยุค 4.0 สื่อจะเป็นการผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์หรือที่เรียกว่า “Omni Channel” แต่ก่อนจะไปถึงยุคนั้น สื่อต่างๆ ที่อยู่ในกลุ่มออฟไลน์ยังคงต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลง เมื่อ Digital ยังคงเดินหน้าเขามาทำลายล้างธุรกิจด้วยการ Disruption ต่อไป
ดูเหมือนสื่อใหญ่อย่าง “มติชน” จะรู้ทันเกมส์การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จึงทำการขยายตัวเองเข้าสู่โลกออนไลน์ภายใต้ “มติชนออนไลน์” ขณะที่ธุรกิจสิ่งพิมพ์เริ่มค่อยๆ ปิดตัวลง เมื่อถูกรุกรานจากเทคโนโลยีมากขึ้น มติชนจึงได้ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรด้วยการยุบแผนกสิ่งพิมพ์และแผนกขนส่งลง ซึ่งเป็น 2 แผนกที่มีต้นทุนสูง
พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งผลประกอบการของ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ว่า
“บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มียอดรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 918.29 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 13.36 ล้านบาท คิดเป็น 1.43% และมียอดต้นทุนขายและการให้บริการรวม 633.94 ล้านบาท ลดลง 52.21 ล้านบาท คิดเป็น 7.61% ทั้งมีรายได้จากการขายและบริการ และต้นทุนขายและการให้บริการต่างลดลงเช่นกัน
โดยต้นทุนขายและการให้บริการลดลงในสัดส่วนที่มากกว่า จึงทำให้ผลประกอบการรวมสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ของบริษัทฯ มีกำไรรวมสำหรับปี 89.78 ล้านบาท ซึ่งเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนนั้น บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนรวม 63.67 ล้านบาท
เหตุที่ทำให้มีผลประกอบการกลับมาเป็นกำไร เนื่องจากบริษัทฯ พยายามเร่งหาโอกาสในการทำธุรกิจช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะการเป็นผู้นำข่าวสารดิจิทัลอย่างครบวงจร ข่าวออนไลน์อันดับ 1 ของประเทศ รวมถึงการปรับปรุุงโครงสร้างองค์กรโดยยุบแผนกการพิมพ์และแผนกขนส่งเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม บวกกับในไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2560 บริษัทมีการนำเงินสดไปลงทุนในตราสารทุนในความต้องการของตลาดที่เป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า ซึ่งในไตรมาสดังกล่าวบริษัทรับรู้กำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนตามราคายุติธรรม รวมเป็นจำนวนเงิน 79.00 ล้านบาท”
รวมไปถึงมีรายงานข่าวการปิด บริษัท ทรีแดนซ์ โฮลดิ้ง ผู้ผลิตสื่อทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ที่ประกอบด้วยนิตยสาร Maxim, นิตยสาร Attitude, อินแมกกาซีน, อิมเมจ ออนไลน์, นิตยสารมาดามฟิกาโรและนิตยสาร Her World หลังจากที่ “ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์” หรือที่ทุกคนรู้ในชื่อ “โจ” ผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัททรีแดนซ์ โฮลดิ้ง หลังจากที่ลงทุนกว่า 45 ล้านบาท เพื่อซื้อธุรกิจสิ่งพิมพ์นิตยสาร 6 ฉบับต่อจากเครือ GMM Grammy
โดยแว่วว่าสื่อสิ่งพิมพ์ 3 เล่มที่ยังเหลืออย่าง นิตยสาร Maxim, นิตยสาร Attitude และนิตยสารมาดามฟิกาโร ซึ่งเป็นแม็กกาซีนสำหรับสายการบินแอร์เอเชีย จะวางแผนฉบับสุดท้ายในเดือนเมษายนนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้งของสื่อไทยในยุค Digital Disruption
