MINISO เปิดตัว MINISO LAND แห่งแรกในไทย พลิกโฉมประสบการณ์ช้อปปิ้งด้วยกลยุทธ์ “Super IP + Super Store” มั่นใจสู้ศึกตลาดไทยสุดหินได้ ดึงโมเดลเดียวกับที่จีน

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

MINISO แบรนด์ไลฟ์สไตล์สโตร์ชั้นนำระดับโลก ยกทัพผู้บริหารระดับสูง 3 ท่านบินตรงจากจีนมาไทย เพื่อเปิดตัว MINISO LAND สาขาแรกในประเทศไทย พร้อมเผยกลยุทธ์การทำตลาดในไทยและภูมิภาคอาเซียน

 

ผู้บริหารระดับโลกร่วมเปิดตัวแฟลกชิปสโตร์ใหม่

การเปิดตัวในครั้งนี้มีผู้บริหารระดับสูงเดินทางมาร่วมงานด้วยตนเอง ประกอบด้วย Mr. Robin Lur (โรบิน หลิว) รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ MINISO Global, Mr. Vincent Huang (วินเซนต์ ฮวง) รองประธานและผู้จัดการทั่วไป MINISO Overseas Markets และ Mr. Jun Wang (จุน หวัง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MINISO Thailand เพื่อนำเสนอวิสัยทัศน์และแผนการขยายธุรกิจในตลาดไทยและอาเซียนอย่างชัดเจน

MINISO LAND – ประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบ Immersive ที่สยามสแควร์

MINISO LAND แฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ ซอย 8 ใจกลางกรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 3 ชั้น ภายใต้แนวคิด “Life is for fun” ร้านแห่งนี้รวบรวมสินค้าไลฟ์สไตล์มากกว่า 8,300 รายการ โดยมีสินค้า IP (Intellectual Property) คิดเป็นสัดส่วนถึง 80% ของสินค้าทั้งหมด พร้อมคาแรกเตอร์มากกว่า 80 ตัว

สินค้าไฮไลต์ภายในร้าน ได้แก่ คอลเลคชั่นจาก Harry Potter, Stitch, Sanrio และที่น่าสนใจคือ การเปิดตัวครั้งแรกของคอลเลคชั่น Disney Zootopia ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในต่างประเทศ นับเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคชาวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วจากตลาดจีน

คอนเซ็ปต์ MINISO LAND เปิดตัวครั้งแรกที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในปี 2567 และสร้างปรากฏการณ์ทำลายสถิติยอดขายต่อเดือนสูงสุดของ MINISO ทั่วโลกตั้งแต่เดือนแรกที่เปิดให้บริการ ปัจจุบันมีร้านคอนเซ็ปต์นี้เปิดให้บริการแล้ว 15 สาขาในเมืองใหญ่ทั่วจีน ความสำเร็จดังกล่าวทำให้ MINISO มั่นใจที่จะขยายโมเดลนี้สู่ตลาดต่างประเทศ โดยเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกนอกจีนที่เปิด MINISO LAND

กลยุทธ์ “Super IP + Super Store” ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

MINISO เน้นกลยุทธ์การผสานคอนเทนต์ IP เข้ากับประสบการณ์ในร้านค้า เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าอย่างยั่งยืน โดยมีการทำวิจัยตลาดอย่างละเอียดและพัฒนา IP ที่แตกต่างกันไปในแต่ละตลาด รวมถึงการผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การสร้างคาแรกเตอร์ “ดันดัน” ที่ผสานกับวัฒนธรรมมวยไทย หรือการจัดงานพิเศษที่สิงคโปร์ที่สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 5 แสนบาท

ผู้บริหาร MINISO เผยว่า 1 IP สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 50 ล้านหยวน สะท้อนให้เห็นถึงพลังของกลยุทธ์การใช้สินค้า IP ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างแท้จริง

แคมเปญการตลาดแบบครบวงจร

การเปิดตัว MINISO LAND มาพร้อมกับแคมเปญการตลาดที่ครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ การตกแต่งขบวนรถไฟฟ้า BTS ด้วยลวดลายคอลเลคชั่น Zootopia สร้างความประทับใจให้ผู้โดยสารทั่วกรุงเทพฯ พร้อมกิจกรรมให้ผู้บริโภคร่วมสนุกลุ้นรางวัล

นอกจากนี้ยังได้ “วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” นักแสดงและนายแบบชื่อดังมาร่วมงานเปิดตัว ซึ่งสร้างกระแสฮือฮาอย่างมากในหมู่แฟนคลับทั้งในประเทศและต่างประเทศ สะท้อนถึงความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์

เหตุผลที่เลือกไทยเป็นตลาดสำคัญ

ผู้บริหาร MINISO มองว่าประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของภูมิภาคอาเซียน ด้วยสถานะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญ ทำให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการขยายธุรกิจ แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภคไทยในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ MINISO มองเห็นศักยภาพจากกระแส Art Toys ที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่วัยรุ่นไทย เช่น กระแส Labubu ที่สะท้อนพฤติกรรมการบริโภคของคนรุ่นใหม่ที่ยังคงมีกำลังซื้อสูง

กลุ่มเป้าหมายและความท้าทายในตลาด

MINISO กำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักคือ Gen Z และ Gen Alpha ที่กำลังเติบโตในตลาด โดยเฉพาะผู้บริโภคในไทยและอาเซียนมีความชอบที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญคือความสนใจและความชอบของวัยรุ่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งแบรนด์ต้องปรับตัวให้ทัน

มุ่งมั่นสร้างความแตกต่างท่ามกลางการแข่งขันสูง

MINISO ยอมรับว่าตลาดร้านค้าไลฟ์สไตล์ในไทยมีการแข่งขันสูง ไม่ว่าจะเป็น POP Mart หรือ MOSHI MOSHI ที่ต่างก็มีกลยุทธ์ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม MINISO มั่นใจในจุดแข็งของตนเอง ได้แก่

  1. สินค้า IP ของแบรนด์เอง ที่มีความหลากหลายและสร้างสรรค์ร่วมกับศิลปินทั้งระดับโลกและท้องถิ่น
  2. ห่วงโซ่ธุรกิจที่สมบูรณ์ ตั้งแต่การออกแบบ ผลิต จนถึงจำหน่าย
  3. ประสบการณ์จากตลาดจีน ที่ผ่านการแข่งขันรุนแรงทั้งด้านรีเทล์และอีคอมเมิร์ซ และสามารถอยู่เหนือคู่แข่งได้
  4. การเน้นคุณภาพและประสบการณ์ มากกว่าการขยายสาขาเพื่อสร้างผลกำไรระยะสั้น โดยมุ่งเน้นการวางแผนกลยุทธ์ระยะยาว

กลยุทธ์การเปิดสโตร์ในอนาคต

MINISO เน้นการสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยให้ความสำคัญกับ Strategic Location ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ผู้คนคับคั่ง เป็นศูนย์กลางการพบปะของคนรุ่นใหม่ โซนธุรกิจสำคัญ หรือย่านท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

สำหรับร้านแบบ Flagship ในประเทศไทย ปัจจุบันมีอยู่ที่ไอคอนสยาม, เดอะมอลล์ ไลฟ์ สโตร์ บางกะปิ, เอ็มบีเค เซ็นเตอร์, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ และเมกะบางนา

นอกจากนี้ MINISO ยังมองหาโอกาสในการพัฒนารูปแบบร้านใหม่ๆ เช่น การผสานคาเฟ่ การเพิ่มเกมส์ หรือการใช้นวัตกรรม 3D VR ซึ่งเป็นไอเดียที่น่าสนใจและสามารถเป็นไปได้ในอนาคต

การเปิดตัว MINISO LAND แห่งแรกในไทยครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความมั่นใจของแบรนด์ที่มีต่อตลาดไทย แต่ยังเป็นการยืนยันกลยุทธ์การทำตลาดที่ชัดเจนในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค ผสานความบันเทิงเข้ากับการช้อปปิ้ง และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ MINISO สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดไทยและภูมิภาคอาเซียนต่อไป

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!
CLOSE
CLOSE