เปิดตัว iPhone 17 Series ใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมจุดเด่นจนต้องร้องว้าว และครั้งแรกของความจุ 2TB ที่ราคาสูงถึง 80,900 บาท!!!

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ถือเป็นธรรมเนียมในช่วงเวลานี้ของทุกปีที่ Apple จะจัดเต็มพร้อมยกระดับประสบการณ์มือถือใหม่ไปอีกขั้น โดยปีนี้เรียกว่าเป็นอีกปีที่สาวก iPhone ต้องร้องว้าว!!! กับ iPhone 17 Series ที่มาพร้อมกับ 4 รุ่นย่อยทั้ง iPhone 17, iPhone 17 Pro, iPhone 17 Pro Max และการมาครั้งแรกของสมาชิกใหม่อย่าง iPhone 17 Air

โดย iPhone 17 Air จะเข้ามาแทนที่รุ่น Plus พร้อมด้วยดีไซน์ใหม่ที่บางเฉียบ แต่ยังคงหน้าจอใหญ่แบบเต็มตา! พร้อมไฮไลต์เด็ดแต่ละรุ่นที่จัดเต็มตามสไตล์ iPhone ทั้ง

  • iPhone 17: ที่โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว พร้อมจอ ProMotion 120Hz และ Ceramic Shield 2 ที่แข็งแรงสุดๆ มาพร้อมกับชิป A19 ใหม่ล่าสุด เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน AI ผ่านระบบ Apple Intelligence ที่ลื่นไหล และกล้องหลังคู่ 48MP แบบ Dual Fusion ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ในมุมกว้าง รวมถึงถ่ายภาพมาโครโดยเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น พร้อมกล้องหน้า Center Stage ใหม่ มาพร้อมกับสีลาเวนเดอร์, สีฟ้าหมอก, สีเขียวเสจ, สีขาว และสีดำ พร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลความจุ 256GB และ 512GB

  • iPhone 17 Air: น้องใหม่ที่มีดีไซน์บางเฉียบเพียง 5.6 มม. และเบาที่สุดด้วยกรอบไทเทเนียม เต็มพลังกับชิป A19 Pro สุดแรง, N1 และ C1X ทำให้ iPhone Air เป็น iPhone ที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ด้านหลังของ iPhone Air ยังปกป้องด้วย Ceramic Shield ในขณะที่ด้านหน้าใช้ Ceramic Shield 2 ซึ่งทนการขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า พร้อมด้วยกล้องหลังแบบ Fusion 48MP เทียบเท่าการมีเลนส์ 4 ตัว และกล้องหน้า 18MP แบบ Center Stage โดยมีให้เลือกทั้งสีดำสเปซแบล็ค, สีขาวปุยเมฆ, สีทองอ่อน และสีสกายบลู พร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นที่ 256GB, 512GB และ 1TB

 

  • iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max ที่ถูกดีไซน์ใหม่ โดยทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยชิป A19 Pro มาพร้อมกับการผลิตแบบ Vapor Chamber ที่ออกแบบให้เชื่อมติดด้วยเลเซอร์ ทำให้ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max ระบายความร้อนได้ดีที่สุด และระบบกล้องหลังแบบ Fusion 48MP จำนวนสามตัว ทั้งกล้องหลัก อัลตร้าไวด์ และเทเลโฟโต้เทียบเท่ากับการมีเลนส์ 8 ตัว สามารถซูมได้ยาวที่สุดที่ 8 เท่า พร้อมด้วยกล้องหน้า 18MP แบบ Center Stage และคุณสมบัติด้านวิดีโอที่สร้างมาสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ โดย iPhone 17 Pro จะมีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ส่วน iPhone 17 Pro Max จะมีหน้าจอขนาด 6.9 นิ้ว โดยมีให้เลือก 3 สีใหม่ ทั้งสีน้ำเงินเข้ม, สีส้มคอสมิก และสีเงิน สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 กันยายน และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น

AirPods Pro 3 หูฟังไร้สายที่คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด มาพร้อมระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ลดเสียงรบกวนได้ดีขึ้นถึง 4 เท่า พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่สุดว้าว “Live Translation” ที่สามารถแปลภาษาสดแบบ Realtime ได้ทันใจ พร้อมด้วยระบบการจับอัตราเต้นของหัวใจ อัตราเผาผลาญ Cal มาพร้อมกับแบตเตอรี่สุดอึดใช้ต่อเนื่องได้ถึง 8 ชั่วโมง

Apple Watch Ultra 3 Smart Watch ที่โดดเด่นด้วยการเชื่อมต่อผ่านระบบ 5G รองรับการเชื่อมต่อดาวเทียมเพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน มีระบบตรวจจับความดันโลหิตที่จะมีการแจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติ พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง โดยตัวเรือนทำจากไทเทเนียมรีไซเคิล 100% เหมาะกับสายลุยผจญภัย

Apple Watch Series 11 กับดีไซน์ที่ออกแบบมาใหม่ พร้อมจอที่ทนทานขึ้น 2 เท่า ด้วยกระจก Ion-X ที่สำคัญยังสามารถแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบอาการความดันโลหิตสูง โดยทั้งรุ่น Apple Watch SE 3 และ Apple Watch Series 11 สามารถเชื่อมต่อกับระบบ 5G และดาวเทียมเพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้

Apple Watch SE 3 ที่ได้รับการออกแบบมาให้บางเบาสามารถชาร์จเร็วมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า มาพร้อมกับชิป S10 ที่เร็วและแรงและสามารถเป็นเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิได้

แล้วก็มาถึงสิ่งที่หลายคนรอคอยกับราคาค่าตัวของผลิตภัณฑ์แต่รุ่นว่า จะคว้ารุ่นไหนมาครอบครองได้บ้าง โดยเริ่มจาก

  • iPhone 17 มีให้เลือกถึง 2 รุ่นทั้ง
    • รุ่นความจุ 256GB เริ่มต้นที่ 29,900 บาท
    • รุ่นความจุ 512GB เริ่มต้นที่ 37,900 บาท

  • iPhone 17 Air มีให้เลือกถึง 3 รุ่นทั้ง
    • รุ่นความจุ 256GB เริ่มต้นที่ 39,900 บาท
    • รุ่นความจุ 512GB เริ่มต้นที่ 47,900 บาท
    • รุ่นความจุ 1TB เริ่มต้นที่ 55,900 บาท

 

  • iPhone 17 Pro มีให้เลือกถึง 3 รุ่นทั้ง
    • รุ่นความจุ 256GB เริ่มต้นที่ 43,900 บาท
    • รุ่นความจุ 512GB เริ่มต้นที่ 51,900 บาท
    • รุ่นความจุ 1TB เริ่มต้นที่ 59,900 บาท

  • iPhone 17 Pro Max มีให้เลือกถึง 4 รุ่นทั้ง
    • รุ่นความจุ 256GB เริ่มต้นที่ 48,900 บาท
    • รุ่นความจุ 512GB เริ่มต้นที่ 56,900 บาท
    • รุ่นความจุ 1TB เริ่มต้นที่ 64,900 บาท
    • รุ่นความจุ 2TB เริ่มต้นที่ 80,900 บาท

ส่วน AirPods Pro 3 ราคาเริ่มต้นที่ 8,490 บาท

Apple Watch Ultra 3 ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท

Apple Watch Series 11 ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท

Apple Watch SE 3 ราคาเริ่มต้นที่ 8,500 บาท


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา