Microsoft ฟันธงงบโฆษณาออนไลน์ ปี52 ตลาดรวมใหญ่ขึ้นไม่ต่ำกว่าหลักพันล้าน

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ไมโครซอฟท์เชื่อตลาดโฆษณาออนไลน์ปีหน้าใหญ่ขึ้น มูลค่าไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาท ขณะที่ช่องว่างการใช้สื่อทีวีกับอินเทอร์เน็ตใกล้เคียงกัน เพราะวิกฤตเศรษฐกิจบีบ คนลดค่าใช้จ่าย พร้อมเผยสำรวจ PAX สำหรับผู้ใช้เน็ตในไทย มีการใช้งานสูงขึ้น และไทยเป็นอันดับ 2 ใน 10 ตลาดที่มีการสำรวจ

กมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ไมโครซอฟท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง กล่าวถึงผลสำรวจของ PAX ที่เจาะพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยว่า ขณะนี้คนใช้สื่อในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ระหว่างทีวีกับอินเทอร์เน็ตใกล้กันมาก หรือห่างกันประมาณ 1% จากเดิมที่ห่างกันมาก และในอนาคตอันใกล้อาจจะมีสัดส่วนเท่ากัน หรือมีการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตมากกว่า เนื่องจากมีภาวะเศรษฐกิจเป็นตัวกระตุ้นในการใช้จ่ายงบด้านนี้ เพราะการใช้สื่อโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ตราคาจะถูกกว่าสื่อทีวี

นอกจากนี้ จากการสำรวจดังกล่าวพบว่า

  1. จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์เพิ่มขึ้น 33% ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2007-ไตรมาส 2 ปี 2008
  2. กลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดอายุระหว่าง 25-34 ปี และเป็นผู้มีรายได้สูง
  3. รายได้ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสูงเฉลี่ยประมาณเดือนละ 4,100 เหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่ารายได้ของผู้ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตถึง 500 เหรียญสหรัฐ
  4. ชาวกรุงเทพฯ ใช้อินเทอร์เน็ตถึง 77% และใช้อินเทอร์เน็ตที่บ้าน 76%
  5. กว่า 68% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการในองค์กร
  6. ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเดินทางทริปทำงานต่างประเทศสูงกว่าผู้ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตถึง 4 เท่า
  7. ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นผู้ที่คำนึงถึงคุณภาพสินค้า เป็นผู้นำด้านความคิด และยังเป็นผู้ใช้สินค้าและบริการใหม่ๆ เป็นกลุ่มแรกๆ
  8. Hotmail เป็นบริการอีเมลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
  9. Windows Live Messenger เป็นบริการ Instant Messaging ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 และ
  10. เกือบ 2 ใน 5 ของผู้ใช้บริการ Windows Live อยู่ในระดับผู้บริหารระดับสูงและระดับกลาง

จากผลสำรวจของ PAX ครั้งนี้ได้มีการเซอร์เวย์ในไทเป, กรุงเทพฯ, โซล, กัวลาลัมเปอร์, สิงคโปร์, มะนิลา, จาการ์ตา, ฮ่องกง, เมลเบิร์น/ซิดนีย์ และอินเดีย ทั้งนี้ จากจำนวนที่ PAX สำรวจการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งเรื่องของเบราเน็ต อีเมล และเมสเสจจิ้งไทยอยู่ในอันดับ 2 (ไม่รวมญี่ปุ่น) และการใช้อินเทอร์เน็ตในไทยมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

ผู้บริหารไมโครซอฟท์กล่าวว่า จากผลการสำรวจนี้ไมโครซอฟท์จะนำไปวิเคราะห์เพื่อหากิจกรรมให้ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ และขณะนี้ได้มีการจัด 2 แคมเปญขึ้นประกอบด้วย

  1. Play at MSN ที่นำเสนอความบันเทิงในรูปแบบคอนเสิร์ตพิเศษแก่ผู้บริโภคชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยผู้บริโภคสามารถร่วมสนุกได้ด้วยการเขียนบรรยายถึงเพลงฮิตบีทมันๆ อย่าง “Can’t Get You Out of My Head” และ “Love At First Sight” ซึ่งจะมาเปิดคอนเสิร์ตในไทยวันที่ 23 พ.ย.นี้ เพื่อร่วมสนุกและลุ้นชิงบัตรคอนเสิร์ต
  2. Live Your Travel ซึ่งเป็นแคมเปญสำหรับผู้รักการท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้ได้แชร์ประสบการณ์การเดินทางในรูปแบบรูปภาพ วิดีโอ หรือบล็อก ผ่าน Soapbox, Photo gallery และ Spaces Blog ของวินโดวส์ ไลฟ์ ใครที่มีประสบการณ์การเดินทางที่โดนใจได้รับการโหวตมากที่สุดจะได้รับรางวัลพิเศษเป็นโทรศัพท์มือถือโมโตโรล่า สำหรับแคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พ.ย.นี้

กมลภัทรกล่าวถึงการลงโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ว่า การลงโฆษณาขณะนี้จะเปลี่ยนรูปแบบไป จากเดิมที่ลงเป็นแบบนิ่งๆ แต่ขณะนี้จะเป็นรีสมีเดียโดยภาพที่ลงสามารถยืดหยุ่นได้ 2.มีออปชันให้เลือกมากขึ้น ซึ่งการลงโฆษณาในปัจจุบันจะเน้นให้ยูสเซอร์มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มากขึ้น ส่วนมูลค่าของการลงโฆษณาโดยรวมมีการประเมินเมื่อต้นปีไว้ที่แสนล้านบาท เป็นสื่อออนไลน์ประมาณ 1-2% หรือหลักพันล้านบาท แต่ก็ถือว่าโตขึ้นเพราะปีที่ผ่านมามูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท เป็นสื่อออนไลน์เพียง 1%

“งบโฆษณาบนสื่อออนไลน์ไม่ถึง 2% ของงบที่แต่ละองค์กรจัดเตรียมไว้ แต่เทรนด์โฆษณาออนไลน์ปีหน้าเชื่อว่ามาแน่ อยู่ที่ว่าองค์กรจะใช้เมื่อไหร่ และตลาดน่าจะโตขึ้น หรือไม่ก็เท่าของเดิม เพราะยังมีการขายของหรือมีการลงทุนไปแล้วอย่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือรถยนต์ที่จำเป็นต้องมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์”

สำหรับการลงโฆษณาบนผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ปีนี้คาดว่าจะโตขึ้นประมาณ 30% โดยมีลูกค้าหลักคือโทรคมนาคม คอนซูเมอร์ อสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มที่ไมโครซอฟท์โฟกัสยังเป็นออฟฟิตตี้ แอดเวอร์ไทซิ่ง เป็นหลัก

Source: ผู้จัดการ


  •  
  •  
  •  
  •  
  •