ทำอย่างไรให้แคมเปญปัง แบบ Netflix – ครั้งแรกของการเปิดเผยเบื้องหลัง การทำงานระหว่าง Netflix และ 2 เอเจนซี่ผู้รู้ใจ บน 5 แนวคิด การสร้างงานสุดปังของ Netflix และ “VML – จงรักดี” สร้างงานสะเทือนโลก
งาน AssetWise preset Marketing Oops! Summit 2025 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หนึ่งในเซสชั่นที่คนฟังและแน่นที่สุด เพราะเป็นครั้งแรกที่ แบรนด์ Netflix และ 2 เอเจนซี่คู่ใจ ได้แก่ VML และ “จงรักดี” ขึ้นมาบนสเตจเดียวกัน พร้อมเผยถึงเคล็ดลับการทำงานร่วมกันให้ประสบความสำเร็จ
บรีฟดีงานดี มีชัย
ผู้บริหาร Netflix พูดถึงไอเดียสำคัญในทุกๆ ครั้งของแคมเปญการตลาด คือการปั่นกระแสตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้เกิด FOMO แต่ต้องทัชใจทุกคนได้ อย่างไรก็ตาม เป็นการทำงานที่ทั้ง 2 เอเจนซี่ เห็นด้วย เพราะยิ่งบรีฟ ยิ่งทำให้เห็นภาพชัด และเห็นตรงกัน ซึ่งสามารถทำให้ out put ที่ได้ชัดเจน และแน่นอนว่างานปังแน่นอน
ถอด 5 แนวคิด ของการทำงานระหว่าง Netflix X 2 Agency รู้ สร้างงานปังระดับโลก
.
#1 Having the End in Mind
- เห็นภาพตั้งแต่ตอนต้นถึงตอนจบ ยืนยัน งานที่ออกมาไวรัลไม่ได้ประสบความสำเร็จได้เพราะโชคช่วย แต่มันเกิดจากการวางแผนที่ดี
- แม้ว่าหลายแคมเปญจะมีความเสี่ยง แต่เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากการวางแผนมาดี
ยกตัวอย่าง การนำน้องโกโกวา ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ได้โจทย์มาคือระดับโลก และ #โอลิมปิก ที่ทุกอย่างต้องทำการบ้านและวางแผนมาอย่างดี ทั้งการศึกษากระแสน้ำ น้ำขึ้นน้ำลง สภาพท้องฟ้า และช่วงเวลาตกของพระอาทิตย์ ไทมมิ่งที่ถูกต้อง เพือให้ภาพที่เกิดขึ้น สวยงาม และสามารถสร้างกระแสระดับโลกได้ ซึ่งแคมเปญนี้ของไทยเป็นที่เดียว ที่น้องโกโกวาถูกเปลี่ยนโลเคชั่นไปเรื่อยๆ ตรงกับโจทย์ระดับ #โอลิมปิก “ดังนั้น คำว่าไวรัล ไม่ใช่โชค แต่มันคือการวางแผน”
Key point: เมื่อบรีฟชัดเจน ภาพที่เห็นตั้งแต่ต้นจนจบจะตรงกัน และจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาว้าว
#2 Risk It Right
ความเสี่ยงที่กล้าหาญ แต่เป็นความเสี่ยง บนความกล้า ที่มีการวางแผนอย่างระมัดระวัง
ยกตัวอย่าง แคมเปญโกโกวา ที่ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ในซีนที่ ‘พิงก์การ์ด’ ลอยบนฟ้า เรามีการวางแผนทั้งเรื่องของน้ำหนักเพื่อให้โดรนยกได้ และไทมมิ่งที่ดี ซึ่งทั้งหมดผ่านการวางแผนมาอย่างดี รวมไปถึงระดับนำ และลม
Key point: ทั้งหมดที่ทำให้งานบรรลุเป้าหมายได้ เกิดจาก การวางแผน การทำการบ้าน และการประสานงานอย่างดี
#3 In It Together
- คือการที่ เราทำให้ทุกคนเห็นภาพบนเป้าหมายเดียวกัน
- สำหรับแคมเปญ Hunger game ซึ่งเน้นเรื่องของการสร้างประสบการณ์ มีการเปิดร้านอาหารจริง ที่เปรียบเทียบระหว่าง อาหารแบบสตรีทฟู้ด และ อาหารแบบไฟน์ไดน์นิ่ง
- มากไปกว่านั้น ยังมีการพา Netflix ไปสู่ครัว ด้วยการ Co-branding ร่วมกับซอสโรซ่า ออกมาเป็นซอสที่มีรสชาติแบบเดียวกับในซีรีส์
Key point: การมีวิชั่นร่วมกัน ใจเดียวกัน แล้วงานจะออกมาสนุก
#4 Knowing What ‘Not’ to Do
- การเรียนรูว่าจะ “ไม่” ทำ หรือ รู้ว่าอะไรที่จำเป็นและไม่จำเป็น
- แคมเปญ Money heist ถึงกระนั้นก็ไม่ได้มีไอเดียเดียว แต่มีอีกหลายไอเดียที่ขายไม่ได้ผ่าน เราได้ทำงานกันจนรู้ว่าอะไรที่จะผ่านหรืออะไรไม่ควรทำ
- แคมเปญโกโกวา ก็เช่นกัน ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 38 ไอเดีย กว่าจะเคาะเลือกมาเป็นไอเดียล่องแม่น้ำเจ้าพระยา
Key Point: สิ่งที่เรียนรู้จากข้อนี้ คือเราต้องวางไอเดียร่วมกันอย่างชัดเจน และจะรู้ถึงเส้นแบ่งระหว่างสิ่งที่ทำได้และทำไม่ได้ เพื่อให้ผลของการทำงานชัดที่สุด
#5 Never Stop Leaning
- ไม่เคยที่หยุดจะเรียนรู้ ทั้ง แบรนด์ (ในที่นี้คือ Netflix) และเอเจนซี่
- ผู้บริหาร Netflix ระบุว่า เรามีการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนือง และเรียนรู้ร่วมกันตลอดเวลา อะไรที่เราพลาดเราก็มาแชร์กับฝั่งเอเจนซี่ อะไรที่เราทำแล้วปัง เราก็มาแชร์ ทุกเสต็ปคือการทำงานและเรียนรู้ผิดและถูกร่วมกันไป
Key Point: ไม่มีกำแพงระหว่าง ลูกค้าและเอเจนซี่ หรือแม้แต่เอเจนซี่ด้วยกัน ก็สามารถแชร์ความคิดและประสบการณ์ร่วมกันได้
ความสำเร็จของงานระดับโลกระหว่าง Netflix และ 2 Agency เกิดจากการผสมผสานของ 5 หลักการสำคัญ เริ่มต้นจากการมี “วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ” ที่ทำให้ทุกฝ่ายเห็นภาพเดียวกัน รวมถึงการ “กล้าเสี่ยงอย่างชาญฉลาด” ด้วยการวางแผนที่รอบคอบ เช่น แคมเปญโกโกวาล่องแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้องคำนวณทุกรายละเอียดจากกระแสน้ำจนถึงแสงแดด การ “ทำงานเป็นหนึ่งเดียว” ที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เช่น การ co-branding ซอสโรซ่าในแคมเปญ Hunger Games การ “รู้ว่าอะไรไม่ควรทำ” จากการคัดกรองไอเดียหลายสิบข้อจนเหลือที่ดีที่สุด และที่สำคัญคือการ “เรียนรู้ร่วมกันอย่างไม่หยุดยั้ง” โดยไม่มีกำแพงระหว่างแบรนด์และเอเจนซี่ในการแชร์ทั้งความสำเร็จและความผิดพลาด ซึ่งหลักการเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่างานไวรัลระดับโลกไม่ได้เกิดจากโชค แต่เป็นผลจากการวางแผนและการทำงานร่วมกันอย่างมีคุณภาพ