อาหารเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันระหว่างผู้คนเข้ากับวัฒนธรรมทุกประเทศทั่วโลกต่างมีวัฒนรรมอาหารหล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนทั้งกรรมวิธีการปรุงอาหารตลอดจนการประกอบเป็นธุรกิจอาหาร หนึ่งในเซ็กเมนต์ธุรกิจอาหารที่เติบโตมากในบ้านเราคืออาหารในทวีปยุโยปที่ใครหลายคนชื่นชอบเช่น พาสต้า, พิซซ่า, บิสกิต ฯลฯ รวมถึง “สเต็ก ”
ตลาดสเต็กในบ้านเราผู้ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% คือ ซิซซ์เลอร์ ที่มีจุดเด่นเรื่องของสลัดบาร์ไม่อั้นที่ครองใจใครหลายคน แต่รู้หรือไม่ว่าซิซซ์เลอร์นั้นอยู่คู่กับคนไทยมากกว่า 30 ปี มีจุดเริ่มต้นการปรับกลยุทธ์ไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่จะผลักดันให้สเต็กพรีเมี่ยมโดดเด่นกว่าสลัดบาร์ที่เป็นภาพจำลงลึกหาคำตอบกันว่าทำไมซิซซ์เลอร์ถึงกล้าที่ทำแบบนี้?
‘จุดเริ่มต้น’ ของซิซซ์เลอร์ร้านสเต็กที่ได้รับแรงประดาลใจจากเสียง ‘ฉ่า’ บนเตา
สเต็ก มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศสเป็นชาติแรก โดยการปรุงครั้งแรกจะมีแต่เนื้อวัวเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งด้วยเป็นอาหารที่สามารถทานได้ทั่วไปทำให้สเต็กแพร่กระจายไปอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก
แบรนด์ซิซซ์เลอร์ (Sizzler) ที่เราคุ้ยเคยกันดีนั้น ถือเป็นแบรนด์ร้านอาหารสัญชาติอเมริกัน ซิซซ์เล่อร์เป็นร้านอาหารประเภทสเต็ก ซีฟู๊ด และสลัด สไตล์ตะวันตกมีสาขาอยู่ทั่วโลกก่อตั้งโดย มร. เดล จอห์นสัน และภรรยา เฮเลน ก่อตั้งสาขาแรกขึ้นที่เมืองคลูเวอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาใน พ.ศ. 2501 สำหรับชื่อซิซซ์เล่อร์ มีที่มาจากเสียง “ฉ่า” หรือในภาษอังกฤษคือ Sizzling ของสเต็กเมื่อเสิร์ฟบนกะทะร้อนทำให้เป็นแรงบันดาลใจมาตั้งชื่อร้านว่า Sizzler
ใน พ.ศ. 2509 มร. จอห์นสัน ได้เสนอขายกิจการร้านซิซซ์เล่อร์ ให้กับ มร. จิมคอลลินส์ ซึ่งภายหลังกลายเป็นเจ้าของกิจการแฟรนไชส์ที่ใหญ่ที่สุดของธุรกิจฟาสต์ฟู้ดในฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา
ใน พ.ศ. 2528 ซิซซ์เล่อร์ได้ขยายธุรกิจไปถึงประเทศออสเตรเลีย โดยการดำเนินงานของ บริษัท คอลลินส์ ฟู้ด สาขาแรกตั้งอยู่ที่เมืองแอนเนอร์เลย์ รัฐควีนส์แลนด์ ก่อนที่จะขยายสาขากระจายไปทั่วรัฐควีนส์แลนด์ นิวเซาท์เวลล์ ออสเตรเลียเหนือ และออสเตรเลียตะวันตกในปัจจุบัน
สำหรับในประเทศไทย บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ในเครือบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้นำ “ซิซซ์เลอร์” เข้ามาในประเทศไทยและเปิดสาขาแรกที่ อาคารฟิฟฟ์ตี้ฟิฟฟ์ พลาซ่า (Fifty Fifth Plaza) สุขุมวิท 55 (ปิดบริการแล้ว) ใน พ.ศ. 2535 ปัจจุบันซิซเลอร์สาขาที่เก่าแก่ที่สุดในไทยคือที่ “อาคาร ซีพีทาวเวอร์ ถนนสีลม” ที่ดำเนินงานมากว่า 20 ปี และได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมด 60 สาขา คาดว่าในปี 2023 จะเปิดเพิ่มอีก 4 สาขา
โดยทุกสาขาของซิซซ์เล่อร์ในประเทศไทย ดำเนินงานตามหลักการของซิซซ์เลอร์ทั่วโลกที่มีมาตราฐานเดียวกัน โดยมีอาหารหลายชนิดให้เลือกทั้งสเต็กเนื้อ ไก่ หมู อาหารทะเลทั้งทอดและย่าง รวมทั้งสลัดบาร์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีทั้งผักสดๆ ซุป และพาสต้าให้เลือกมากมายและสามารถเติมได้ไม่จำกัดพร้อมทั้งของหวานและผลไม้ครบครัน
‘ปรับ’ กลยุทธ์มุ่ง Branding ให้แกร่งขึ้นความท้าทายในปีที่ 30 ของซิซซ์เลอร์
การดำเนินกิจการยาวนานกว่า 30 ปี ตลอดเส้นทางต้องมีการปรับเพื่ออยู่รอดเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งความท้าทายของการเป็นแบรนด์ที่อยู่มานานคือเรื่องของคู่แข่งที่เกิดขึ้นใหม่ทุกวันการปรับครั้งใหญ่ของซิซซ์เลอร์คือช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ผู้คนถูกล็อคดาวน์เดินทางออกจากบ้านไม่ได้ธุรกิจร้านอาหารที่ผู้บริโภคต้องออกมารับประทานที่ร้านต้องปรับตัวเข้าสู่การทำเดลิเวอรี่ครั้งแรกต้องปรับเพื่อลูกค้าเพื่อสร้างการจดจำและเข้าถึงในลูกค้าได้ในที่ผู้บริโภคมีข้อจำกัด และปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทางแบรนด์จัดบริการเดลิเวอรี่พร้อมโปรโมชั่นเดือด แบบ ซื้อ 2 แถม 2 เพื่อสร้างความแตกต่างเพื่อสร้างให้ลูกค้าประทับใจจนอยากเข้าใช้บริการภายในร้าน
ในปีนี้ซิซเลอร์ปรับ Branding ครั้งใหญ่ภายใต้คอนเซปต์ “OVER 30 YEARS OF SIZZLING EXPERIENCES” เสิร์ฟกลยุทธ์เอาใจผู้บริโภคทุกกลุ่มผ่าน 3 กลยุทธ์เน้นเรื่องการส่งมอบความสดใหม่ (Fresh) ความพรีเมียม (Premium) และคุณภาพ (Quality) ตั้งแต่การปรับปรุงเล่มเมนูอาหารใหม่ยกเล่ม ชูไฮไลท์การรังสรรค์เมนูจากสเต๊กจากมาสเตอร์ตัวจริงควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชัน การเดินหน้าขยายจำนวนสาขาใหม่ รวมถึงปรับโฉมการตกแต่งร้านในปัจจุบันให้มีความทันสมัย ตลอดจนการสร้างฐาน Loyalty Program E-Member ต่อเนื่องตลอดปี ทั้งหมดนี้เพื่อตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด
ผลของการปรับตัวรอบด้าน ทำให้ 3 เดือนที่ผ่านมา ซิซซ์เลอร์มียอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันหลายสาขามียอดขายแซงหน้าปี 2019 แล้วโดยปีนี้แบรนด์คาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างยอดขายแซงหน้าปี 2019 ได้ โดยปี 2566 นี้เตรียมเปิดอีก 3 แห่ง และรีโนเวตร้านใหม่อีก 3 แห่ง ซึ่งจะทำให้ปลายปีมีสาขาทั้งสิ้น 63 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพ 70% และต่างจังหวัด 30%
‘เปลี่ยน’ พระเอกดันสเต็กพรีเมี่ยมให้เด่นสลัดบาร์เป็นพระรอง
หลายคนคงแปลกใจที่ซิซซ์เลอร์กล้าที่จะเปลี่ยนแนวดันพระเอกที่เป็นสเต็กมาแทนสลัดบาร์ที่เป็นภาพจำ ซึ่งทางแบรนด์ให้เหตุผลว่า จุดกำเนิดของซิซซ์เลอร์นั่นคือสเต็กแบรนด์ไม่อยากจะหลงลืมความจริงข้อนี้ทำให้ต้องกลับมา Back To Basic พร้อมเปิดตัวเมนูใหม่ สเต๊กริบอายจานร้อน ราคา 999 บาท และ สเต๊กเนื้อนิวยอร์กสตริปลอยน์จานร้อน ราคา 899 บาท เพื่อจับกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ที่เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา โดยจากการเพิ่มเมนูดังกล่าวซิซซ์เลอร์สามารถสร้างยอดขายสเต๊กได้มากกว่าเดิมถึง 4 เท่า
ซิซซ์เลอร์คาดว่า การตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่หยุดนิ่งนี้จะส่งผลให้ในไตรมาสที่ 2 นี้ มียอดขายที่เติบโตเพิ่มมากขึ้น