‘แอ็คมี่ วรวัฒน์’ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการคว้ารางวัล “บุคคลผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งวงการบล็อกเชนและคริปโต ประจำปี 2025” จากเวทีระดับโลก “Middle East Blockchain Awards 2025” ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ โรงแรมระดับไอคอน Burj Al Arab ในเมืองดูไบ โดยมีผู้นำจากหลากหลายสาขาที่กำลังขับเคลื่อนอนาคตของ Web3, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา
โดยแอ็คมี่ วรวัฒน์ ถือเป็น “คนไทยคนแรกและเพียงคนเดียว” ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ “บุคคลผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งวงการบล็อกเชนและคริปโต ประจำปี 2025” (Most Influential Person in Blockchain & Crypto 2025) บนเวทีนานาชาติ จากการตัดสินของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ MEBA 2025 อาทิ:
- Dr. Marwan Al Zarouni — CEO ฝ่าย AI ประจำกรมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวดูไบ, ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Dubai Blockchain Center และผู้รับรางวัล Special Recognition Award
- Gareth Van Zyl — บรรณาธิการ Gulf Business
- Scott Melker — ผู้ดำเนินรายการ The Wolf of All Streets และ #CryptoTownHall
- Saqr Ereiqat — เลขาธิการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งดูไบ
- Megan Plisky หรือ “Crypto Megan” — ผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนวงการคริปโต NFT และ Web3 ระดับโลก
รวมถึงกรรมการรับเชิญจากวงการบล็อกเชน ฟินเทค และ AI ที่สะท้อนบทบาทสำคัญของภูมิภาคนี้ในการผลักดันเทคโนโลยีแห่งอนาคต
แอ็คมี่ วรวัฒน์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล “บุคคลผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งวงการบล็อกเชนและคริปโต ประจำปี 2025” รางวัลนี้เป็นชัยชนะของพวกเรา—ผู้ถือครอง $ACT(ACET) ทุกคน ACT เริ่มต้นจากศูนย์ แต่ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังของผู้คนที่ลงทุนสินทรัพย์ของตัวเอง เพื่อสร้างและรักษามูลค่าของมัน ACT อยู่ได้เพราะทุกคน และจะยังคงเป็นสินทรัพย์ของทุกคนตลอดไป—ACT is The People”
สำหรับ แอ็คมี่ วรวัฒน์ หรือ วรวัฒน์ นาคแนวดี คือ นักธุรกิจนักลงทุนชาวไทยและเป็นมหาเศรษฐีที่สร้างตัวเองจากศูนย์ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกวงการบล็อกเชนและคริปโตในเอเชีย โดยเริ่มขุดบิตคอยน์ตั้งแต่ปี 2012 และปัจจุบันถือครองบิตคอยน์มากกว่า 11,000 BTC เป็นผู้ก่อตั้ง ACT(ACET) สินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ที่มีผู้ถือครองกว่า 159,368 ราย และมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 470 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 15,980 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้ลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์ ครอบคลุมธุรกิจฟินเทค อสังหาริมทรัพย์หรู และการบริการระดับไฮเอนด์ พร้อมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งองค์กร Traderist เพื่อพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้มีความรู้ด้านการลงทุนและใช้ชีวิต เรียนรู้เพื่อที่จะความสำเร็จและช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการให้ความรู้แก่ผู้คนทั่วโลกมานานกว่า 13 ปี
ทั้งนี้ Middle East Blockchain Awards ซึ่งเป็นเวทีรวมตัวของนักลงทุน นักพัฒนา และผู้นำความคิดที่กำลังขับเคลื่อนอนาคตของเทคโนโลยีไปข้างหน้า ยังคงตอกย้ำสถานะของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในฐานะ “ศูนย์กลางนวัตกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก”