แม้ว่าเรื่องเล็กน้อยอย่าง “รูปทรงของแก้ว” อาจดูไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม แต่งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า แก้วที่ใช้เสิร์ฟเครื่องดื่ม สามารถส่งผลต่อทั้งพฤติกรรมของลูกค้า ความพึงพอใจ และยอดขายได้อย่างมีนัยสำคัญ
ลูกค้าชอบแก้วปากกว้างมากกว่า
ในการทดลองกับนักศึกษาฝรั่งเศส 120 คน นักวิจัยเสิร์ฟเครื่องดื่มในแก้วสองแบบ—ปากกว้างกับปากแคบ ผลลัพธ์พบว่า กลุ่มที่ได้เครื่องดื่มในแก้วปากกว้างมีแนวโน้มจะ “ซื้อเครื่องดื่มนั้นอีกในอนาคต” สูงกว่าอย่างชัดเจน (4.34 คะแนนจาก 7) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ดื่มจากแก้วปากแคบ (3.64 คะแนน)
รู้สึกดีขึ้น และยินดีจ่ายแพงขึ้น
การทดลองเพิ่มเติมในบาร์จริง พบว่า แก้วปากกว้างไม่เพียงทำให้ลูกค้ารู้สึกดีขึ้นระหว่างดื่มเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อ “พฤติกรรมการใช้จ่าย” อีกด้วย ในกลุ่มลูกค้า 200 คนที่ได้ทดลองชิมไวน์สองชนิด ลูกค้าที่ได้แก้วปากกว้างเลือกไวน์ราคาแพงกว่าในสัดส่วนถึง 60% ขณะที่กลุ่มแก้วปากแคบเลือกเพียง 47.5%
นอกจากนี้ เมื่อนำไปทดสอบกับนักศึกษาอีกกลุ่มโดยใช้แอปเปิลไซเดอร์ ผลคือ แก้วปากกว้างทำให้คะแนน “ความสุข ความตื่นเต้น และความพึงพอใจ” เฉลี่ยสูงกว่าชัดเจน (5.11 vs 4.56)
ทำไมแค่เปลี่ยนแก้วถึงได้ผล?
เหตุผลหนึ่งคือ แก้วปากกว้างมักดู “ใหญ่กว่า” แม้จะบรรจุปริมาณเท่ากับแก้วปากแคบ ส่งผลให้ผู้บริโภครู้สึกว่าคุ้มค่ากว่า มีความหรูหรามากกว่า และรู้สึกดีมากขึ้นในระหว่างดื่ม
นอกจากนี้ รูปทรงของแก้วยังกระทบต่อกลิ่นและรสสัมผัสในเครื่องดื่ม โดยเฉพาะไวน์ น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มมีฟอง ทำให้ประสบการณ์การดื่มโดยรวมดีขึ้นแบบไม่รู้ตัว
ในยุคที่ประสบการณ์ของลูกค้ากลายเป็นหัวใจของการแข่งขัน ร้านอาหารและบาร์อาจลองพิจารณาปรับเปลี่ยนภาชนะที่ใช้เสิร์ฟเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ “แก้วปากกว้าง” สำหรับเมนูหลัก หรือเมนูที่ต้องการส่งเสริมยอดขาย
ต้นทุนต่อใบอาจสูงขึ้นเล็กน้อย แต่หากเทียบกับแนวโน้มลูกค้าซื้อซ้ำ ความรู้สึกพึงพอใจที่เพิ่มขึ้น และการยินดีจ่ายในราคาที่สูงกว่า ก็อาจถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมากในระยะยาว
Source: WSJ