แบรนด์ทะเลที่ไทยเลือก: ‘Seafood from Norway’ โตสวนกระแส ส่งออกทะลุหมื่นล้านในไทย พร้อมรุกตลาดผ่านแคมเปญใหญ่ ฉลอง 120 ปีมิตรภาพไทย-นอร์เวย์

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี “Seafood from Norway” ภายใต้การดูแลของ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ประกาศชัดว่า “ไทย” กำลังกลายเป็นตลาดยุทธศาสตร์ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลจากนอร์เวย์

ตลาดไทยพุ่งแรง แซงเพื่อนบ้าน

นอร์เวย์สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในปี 2567 ด้วยการก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งออกอาหารทะเลระดับพรีเมียมกว่า 2.8 ล้านตัน ไปยังกว่า 150 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นมูลค่ากว่า 560,000 ล้านบาท หรือกว่า 1.75 แสนล้านโครนนอร์เวย์ เทียบเท่ามื้ออาหารกว่า 38 ล้านมื้อต่อวัน

ในตลาดไทย ตัวเลขการนำเข้าอาหารทะเลจากนอร์เวย์พุ่งขึ้นถึง 13% หรือราว 10,000 ล้านบาท โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้น 8% หรือ 42,500 ตัน ซึ่งในจำนวนนั้นถึง 91% เป็นปลาในตระกูลแซลมอนสด (แซลมอนและฟยอร์ดเทราต์รวมกัน) สะท้อนชัดถึงความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย และตอกย้ำแบรนด์ “Seafood from Norway” ว่าเป็นที่จดจำและไว้วางใจของตลาดไทย

รุกตลาดผ่านความร่วมมือ พร้อมฉลอง 120 ปีไทย-นอร์เวย์

ปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งปีสำคัญ เพราะนอกจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดอาหารทะเล ยังตรงกับวาระ ครบรอบ 120 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-นอร์เวย์ ซึ่งทาง NSC เตรียมเดินหน้ากิจกรรมการตลาดชุดใหญ่ อาทิ:

  • แคมเปญ Salmon Saturday เสาร์สุดฟิน ชวนกินแซลมอน ร่วมมือกับร้านอาหารและค้าปลีกทั่วประเทศ
  • แคมเปญ From Sea to Sky: 120 Years of Friendship ร่วมกับสายการบินไทย
  • เทศกาล Seafood from Norway เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าของอาหารทะเลจากนอร์เวย์

ทั้งหมดนี้จะถูกใช้เพื่อขยายแบรนด์ ‘Seafood from Norway’ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคไทยในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

นางสาว โอซฮลิด์ นักเค่น ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ NSC

เทรนด์การบริโภคอาหารทะเลในไทย: โอกาสทองที่นอร์เวย์ไม่มองข้าม

นางสาว โอซฮลิด์ นักเค่น ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ NSC เผยว่า “ประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะแซลมอนที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 70% และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย”

นอกจากนี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยที่มีมากกว่า 5,700 แห่ง ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนความนิยมในอาหารทะเลจากนอร์เวย์ โดยเฉพาะ:

  • แซลมอน: นำเข้า 19,000 ตัน มูลค่า 6,000 ล้านบาท
  • ฟยอร์ดเทราต์: 8,000 ตัน มูลค่า 2,310 ล้านบาท
  • นอร์วีเจียนซาบะ: 11,500 ตัน มูลค่า 940 ล้านบาท

โดยคาดว่าปลายปี 2568 ปริมาณการนำเข้าในกลุ่มแซลมอนอาจทะลุ 31,000 ตัน แซงหน้าญี่ปุ่น และใกล้เคียงกับจีนและเกาหลีใต้

นาย คริสเตียน เครเมอร์ CEO ของ NSC

ความแข็งแกร่งระดับโลก หนุนตลาดไทยทะลุเป้า

นาย คริสเตียน เครเมอร์ CEO ของ NSC กล่าวในงานว่า “แม้ปี 2567 จะเผชิญกับความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ แต่การส่งออกของนอร์เวย์ยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563-2567) ที่มูลค่าการส่งออกเติบโตกว่า 225,000 ล้านบาท หรือ 70,000 ล้านโครนนอร์เวย์ แสดงให้เห็นถึงพลังของอุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศเรา”

นอร์เวย์ยังได้รับประโยชน์จาก ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยและสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ที่จะช่วยลดภาษีนำเข้า และขจัดอุปสรรคทางการค้าในอนาคต คาดว่าตลาดไทยจะโตต่อเนื่องถึง 16% ภายในปี 2573

สรุป: ทำไม ‘Seafood from Norway’ ถึงเข้าเป้าในไทย

  • นอร์เวย์ส่งออกอาหารทะเลกว่า 2.8 ล้านตันต่อปี
  • ประเทศไทยนำเข้าอาหารทะเลจากนอร์เวย์คิดเป็นมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทในปี 2567
  • 91% ของสินค้าที่นำเข้าเป็นแซลมอนและฟยอร์ดเทราต์
  • ไทยมีร้านอาหารญี่ปุ่นกว่า 5,700 แห่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • NSC เตรียมกิจกรรมตลาดเต็มรูปแบบในปี 2568 เนื่องในโอกาสครบรอบ 120 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-นอร์เวย์

สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) เป็นบริษัทมหาชนภายใต้กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และการประมง สภาฯ ทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของนอร์เวย์ เพื่อพัฒนาและขยายตลาดอาหารทะเลส่งออกจากนอร์เวย์ เป็นตัวแทนผู้ส่งออกอาหารทะเลและอุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศนอร์เวย์ ‘Seafood from Norway’ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงแหล่งกำเนิดของอาหารทะเลที่จับได้หรือเพาะเลี้ยงในแหล่งน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งรุกตลาดด้วยข้อมูล ความเข้าใจวัฒนธรรมผู้บริโภค และความเชื่อมโยงระดับประเทศที่กลายเป็นพลังทางการตลาดได้อย่างทรงพลังในประเทศไทย


  •  
  •  
  •  
  •  
  •