เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา Truehits ตัดสินใจจดทะเบียนตั้งเป็นบริษัทศูนย์วิจัยนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตไทย โดยให้นักวิจัยถือหุ้นร้อยละ 51 และ สวทช. ถือร้อยละ 49 สิ่งที่เกิดขึ้น คือ นักวิจัยของ Truehits กลายเป็นเจ้าของบริษัท ต้องทำงานที่ไม่เคยทำเพื่อบริหารค่าใช้จ่ายมากมายให้บริษัทมีกำไรเลี้ยงตัวเองได้
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ Truehits ซึ่งเป็นบริการเก็บข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเพื่อการวิจัยที่เคยเป็นบริการของภาครัฐมาก่อนนั้นจะเดินไปในทิศทางใดในวันที่ Truehits กลายเป็นบริษัทเต็มตัว
คนที่จะตอบคำถามนี้ดีที่สุดคือ ดร.ปิยะ ตัณฑวิเชียร ผู้สร้าง Truehits ซึ่งยืนยันแล้วว่าแผนดำเนินงานนับจากนี้คือการควบคุมต้นทุนให้เท่าเดิม หาทางสร้างธุรกิจให้สมาชิก Truehits และยังคงจัดงาน Truehits Web Award ต่อเนื่องทุกปี บนจุดยืนเดิมคือมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเก็บสถิติการใช้งานเว็บด้วยคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเป็นบริษัทต้องคุมทุน
เป็นบริษัทต้องคุ้มทุน
นักวิจัยใต้ชายคา Truehits ในวันนี้ต้องเผชิญกับภาระและความท้าทายมากขึ้นกว่าสมัยที่ยังเป็นหน่วยงานราชการในเครือสวทช.มากนัก นอกจากวิจัยและเขียนโปรแกรม นักวิจัยต้องออกไปพบลูกค้า ต้องทำงานเอกสาร ออกใบวางบิล คิดเรื่องลงทุนให้คุ้มค่า จัดการงานภาษีให้ถูกต้อง รวมถึงต้องจ่ายค่าทรัพย์สินทางปัญญาให้ สวทช.ด้วย
ไม่ว่าค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดที่พบในการบริการงานรูปแบบบริษัทจะเพิ่มสูงเพียงใด ดร.ปิยะย้ำชัดเจนว่าไม่มีนโยบายเพิ่มค่าบริการTruethis ในขณะนี้
“เรื่องเอกสารพวกนี้เราไม่ต้องทำเมื่อตอนอยู่กับสวทช. ยอมรับว่ากระทบกับการทำงานซึ่งทำให้เราต้องรักษาสมดุลให้มากขึ้น เรามีค่าใช้จ่ายที่ไม่เคยเจอ แถมการอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีทำให้เราต้องปรับตัว แต่ยังไงก็ไม่มีนโยบายเพิ่มค่าบริการ การเพิ่มกำไรโดยเพิ่มค่าบริการใครๆ ก็คิดได้ แต่ผลที่ตามมามันไม่ใช่ สิ่งที่เราต้องทำคือการคิดว่าทำอย่างไรให้ทุนเราลดลง”
ดร.ปิยะบอกว่า ขณะนี้ Truethis กำลังพัฒนาระบบเก็บข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่เริ่มทดสอบการเก็บข้อมูลว่าอุปกรณ์รุ่นใดยี่ห้อใดที่ถูกใช้ในการท่องอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ในประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งบนหน้าเว็บ Truehits พบว่า iPhone คือโทรศัพท์มือถือที่คนไทยใช้เล่นอินเทอร์เน็ตมากที่สุด รองลงมาคือ Nokia, iPod, HTC และ Samsung
“เราเปิด beta ไปแล้วตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้เราอยากแบ่งตามค่าย AIS, DTAC ว่ามีการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างไรเท่าไหร่ ซึ่งยังต้องประสานกับหลายหน่วยงานอีกระยะหนึ่ง ส่วนเรื่องสถิติเว็บยังเป็นเรื่องที่เราให้ความสนใจมากที่สุด เรากำลังพยายามทำให้เป็น tailor-made หรือฟีเจอร์สั่งตัดให้ตรงความต้องการมากขึ้น”
เล็งสร้าง Community บน Truehits
ปัจจุบัน Truehits มีสมาชิกหลักหมื่นเว็บไซต์ สามารถทำรายได้จากสมาชิกราว 1,700 เว็บไซต์ที่ชำระเงินเฉลี่ย 1,800 บาทต่อปีเพื่อสิทธิ์ในการเรียกดูข้อมูลสถิติการใช้งานเว็บไซต์สำหรับนำไปปรับปรุงเว็บ แผนขยายธุรกิจของ Truehits ในอนาคตคือการพยายามสร้าง “Market place” หรือพื้นที่ซึ่งกลุ่มสมาชิกของ Truehits จะสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย มั่นใจว่าหากทำได้จะทำให้เกิดเป็น community เหนียวแน่นบน Truehits
“อาจารย์ทวีศักดิ์ ผอ.สวทช. เป็นผู้จุดประกายว่า Truehits ควรจะมี Market Place เช่น หากมีสมาชิก Truehits รายหนึ่งขายกระดาษ อีกรายขายตั๋วเครื่องบิน สมาชิกทั้งสองรายจะสามารถเทรดกันบน Market Place นี้ได้ แต่เราจะไม่สร้าง Market Place ที่เป็นระบบซื้อขายของ Truehits เอง เพราะสมาชิกของเราก็มีให้บริการระบบซื้อขายอยู่แล้ว แนวคิดตรงนี้จึงยังต้องหาข้อสรุปต่อไป โดยที่เราจะ focus ที่ประโยชน์สูงสุดของสมาชิกและต้องไม่แข่งขันกับบริการของลูกค้า นี่จะทำให้เกิดเป็น community บน Truehits เชื่อว่าเรามีศักยภาพทำได้ จะทำให้เกิดการแข่งขันแบบ win-win ที่ทุกคนดีขึ้น จะได้แข่งกับต่างประเทศได้”
ค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐเรียกเก็บจาก Truehits ในฐานะบริษัทเอกชน ทำให้ดร.ปิยะมองเห็นอุปสรรคที่ไม่ทำให้เกิดการค้ายุติธรรมระหว่างอุตสาหกรรมไอทีไทยและต่างชาติ ดร.ปิยะมองว่าหน่วยงานรัฐต้องเริ่มเปลี่ยนแปลง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจไอทีรายย่อยในประเทศไทยให้อยู่รอด
“สรรพากรต้องเปลี่ยน ไม่อย่างนั้น SME ลำบาก การเข้ามาของบริษัทต่างประเทศที่มีทุนเยอะ มีการใช้งานมากและรายได้มาก กลับไม่ถูกเก็บภาษีเพราะไม่มีสำนักงานในประเทศไทย แต่ผู้ประกอบการท้องถิ่นถูกเก็บภาษียิบย่อย เราจะปล่อยให้อีกข้างหนึ่งสูงเกินไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอีกหน่อยสังคมไทยจะกลายเป็นสังคม spending คือใช้จ่ายออกไปตลอดเวลา ควรจะต้องมีกฏหมายว่าทำอย่างไรให้เกิดคำว่ายุติธรรม”
คน Truehits ในวันนี้มีจำนวนทั้งหมด 5 คน ดร.ปิยะบอกว่าไม่มีแผนเพิ่มคนแต่จะเน้นการหาพันธมิตรที่มีแนวคิดดีโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาแทน รายได้เฉลี่ย 6 ล้านบาทต่อปีคิดว่าจะไม่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมากนักเพราะภาวะเศรษฐกิจ
“เราไม่อยากให้มีพนักงานมากขึ้น เราจะคิดว่าทำอย่างไรให้ได้ประโยชน์จากความคล่องตัวที่มี อนาคตถ้ามีเงินเยอะขึ้น ก็อยากจะทำเป็น Venture capital ให้กองทุนช่วยคนที่มีแนวคิดดีโดยไม่ได้อยู่ในฐานะลูกจ้าง ให้อิสระในความคิดโดยไม่มีการครอบงำ แต่สำหรับตอนนี้ Truehits ก็ยังต้องหาวิธีการจากประสบการณ์ต่อไป และควบคุมคุณภาพการผลิตให้ดีอยู่เสมอ”
Source: ASTV ผู้จัดการออนไลน์