ระหว่างงานมิวสิคเฟสติวัลของนิวซีแลนด์ แบรนด์เบียร์สำหรับวัยรุ่น Beck อยากสร้างสีสันให้กับตัวเองเลยคิดแคมเปญโปสเตอร์สุดล้ำนำไปติดหน้าทางเดินเข้างาน โดยโปสเตอร์นี้เป็น “โปสเตอร์อันแรกของโลกที่สามารถเล่นเพลงได้” มีส่วนประกอบของหมึกและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่นำเอาเพลง 10 เพลงของสุดยอดศิลปินนิวซีแลนด์ 10 รายมาบรรจุไว้ในโปสเตอร์
ภาพรวมแคมเปญ
เทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกับแคมเปญนี้คือ social arm หรือฟีเจอร์ที่ช่วยเชื่อมต่อเพลงจากโปสเตอร์ให้ไปสู่โปรแกรมโหลดเพลง และโปรแกรมเปลี่ยนกราฟิคของฉลาก Beck บนโปสเตอร์ ซึ่งเทคโนโลยีชวยตื่นตาเหล่านี้ช่วยให้ทุกคนหันมาสนใจแคมเปญนี้
แล้วทำไมมันถึงได้ผลล่ะ?
ก็มันใหม่
ทุกคนอยากอยู่ร่วมกับอะไรสักอย่างที่จะกลายเป็นตำนาน เมื่อโปสเตอร์อันนี้เป็น “โปสเตอร์อันแรกที่มีเสียงเพลง” แล้วใครล่ะจะไม่อยากลองใช้มัน นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังใฝ่หา new experience หรือ ประสบการณ์แปลกใหม่ที่จะอยู่ในความทรงจำของพวกเขา หากคุณทำให้เขาประทับใจได้ เป้าหมายสู่การเป็นแบรนด์ในดวงใจก็อยู่ไม่ไกล
ต้องไม่เกี่ยวกับเบียร์ซะทีเดียว
การทำโฆษณาให้แก่แบรนด์หมิ่นเหม่ผิดศีลธรรมนั้นเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจ ในหลายประเทศซึ่งรวมถึงนิวซีแลนด์ด้วย ผู้บริโภคยังมีแนวโน้มจะต่อต้านโฆษณาทำนองนี้อยู่ ดังนั้น โฆษณาของแบรนด์เหล่านี้ส่วนใหญ่จึงสุดยอดเพราะพวกเขาขายของตรงๆ ไม่ได้อย่างแบรนด์อื่นๆ ก็ต้องเลี่ยงไปขายความสนุกสนาน สุขภาพ ไลฟ์สไตล์ และอื่นๆ กันไป
ในกรณีของ Beck โปสเตอร์ทำให้คนสนุก คนดูก็สนุก คนลองก็สนุก แน่นอนว่าคนอาจไม่สนใจมากนักว่าแบรนด์ของคุณคือแบรนด์อะไร แต่อย่างน้อยที่สุดก็ดีกว่าไม่โฆษณาอะไรออกไปเลย อย่างไรก็ตาม Beck ไม่ใช้เจ้าแรกที่ออก interactive billboard ออกมาเพราะก่อนหน้านี้ Spotify และ Schwartz เคยทำไปแล้ว แต่ไม่ได้เผยแพร่กลางถนนแบบนี้
ถ้าสนใจแล้วลองชมวีดีโอโฆษณาของเขาได้เลยครับ
httpv://youtu.be/gclJe_kSnd4