4 ขั้นตอนทำ Creator Marketing อย่างไรให้ได้ผล? เคล็ดไม่ลับจาก “คุณธนพล” ซีอีโอ YDM Thailand

  • 3
  •  
  •  
  •  
  •  

หนึ่งในเทคนิคการตลาดที่ได้ผลมากที่สุดในยุคนี้คือ Creator Marketing อุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน แต่การจะเลือก Creator ซักคนหรือเลือกหลายๆคนเข้ามาอยู่ในแคมเปญทางการตลาดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะในปัจจุบันมี Creator ในประเทศมากกว่า 2 ล้านคน อยู่บนแพลทฟอร์มและยังมีแนวทางการนำเสนอที่แตกต่างหลากหลายอย่างมาก คำถามก็คือมีวิธีการอะไรหรือไม่ที่จะเป็นแนวทางให้นักการตลาดทำ Creator Marketing ให้ประสบความสำเร็จไม่เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ได้

คำตอบนี้มีอยู่ในงาน Global Creator Culture Summit จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดย คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ CEO YDM Thailand กลุ่มบริษัทด้านดิจิทัลมาร์เก็ต บรรยายในหัวข้อ “กลยุทธ์ Creator Marketing สูตรสำเร็จใหม่ของธุรกิจยุคดิจิทัล” ได้แนะนำ 4 ขั้นตอนที่จะทำให้ Creator Marketing ประสบความสำเร็จและนำไปใช้ทำตามกันได้เลย

1. Define Stategy เข้าใจตัวเองก่อน

คุณธนพล ระบุว่า การร่วมมือกับ Creator นั้นมีข้อดีในเรื่องการการสื่อสาร ที่สามารถให้ข้อมูลได้ดีกว่าการลงโฆษณาที่อาจมีข้อจำกัดแค่ 15-30 วินาที สามารถเลือก Creator ที่มีอยู่หลากหลายและหาเข้าใจอุตสาหกรรม Creator ก็จะสามารถทำให้แบรนด์สามารถบรรลุเป้าหมายการตลาดได้ไม่ยากอย่างไรก็ตามก่อนจะไปถึงจุดนั้นสิ่งแรกที่ทำก็คือมองให้ออกว่าจะใช้กลยุทธ์การตลาดใดในการสื่อสาร มีเป้าหมายทางการตลาดอยู่ในช่วงไหนของ Marketing Funnel

คุณธนพลระบุว่าสินค้าหรือบริการบางประเภทลูกค้าจำเป็นต้องใช้เวลาตัดสินใจนาน ต้องหาข้อมูล ดูรีวิว ดังนั้นก็อาจไม่เหมาะกับการทำ Content ที่เน้นการขาย แต่จะเหมาะกับ Content ที่ให้ข้อมูลเพื่อสร้าง Brand Awareness หรือ Consideration ที่อยู่บน Upper Funnel มากกว่า กรณีนี้ก็จะเหมาะกับ Creator มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม มีฐานแฟนจำนวนมาก ดีกว่าที่จะเลือก Creator ที่เน้นการขาย แต่หากจะเน้นไปที่การตัดสินใจซื้อสินค้าหรือสร้าง Conversion ก็สามารถใช้ Creator ที่ขายเก่งๆก็มีให้เลือกเช่นกัน

2. เข้าใจ Content Creator

อีกเรื่องที่สำคัญก็คือความเข้าใจในตัว Creator ที่มีแนวทางที่แตกต่างกันนักการตลาดหรือแบรนด์ไม่สามารถ “ยัดเยียด” บางอย่างให้ Crator พูดได้แต่ต้องสื่อสารในแนวทางที่ Creator ถนัดจะได้ผลมากกว่า โดยในปัจจุบันคุณธนพลระบุว่ามี Creator อยู่ 4 รูปแบบด้วยกันคือ

  • Influencers: บุคคลที่มีอิทธิพลกับสังคมหรือตลาด อย่างเช่น LISA “ลลิษา มโนบาล”  ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก มีอิทธิพลในการสร้างความนิยมให้กับสินค้าบางอย่างได้เพียงแค่ถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียเท่านั้น เป็นต้น
  • KOL: Key Opinion Leader กลุ่มผู้นำทางความคิดที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้คน Creator กลุ่มนี้อาจไม่ต้องทำ Content อะไรมากมายแต่ผู้คนในสังคมก็พร้อมจะฟัง
  • Content Creator: บางครั้งอาจไม่ได้ดังระดับ Influencer แต่มีจุดแข็งอยู่ที่ความคิดสร้างสรรในการสร้าง Content ดังนั้นนักการตลาดก็จำเป็นต้องเชื่อมั่นในแนวทางของ Creator กลุ่มนี้มากกว่าจะชี้นำทิศทางการสื่อสารในแคมเปญต่างๆที่ร่วมมือกัน
  • MIX: คือรูปแบบของ Creator ที่ผสมผสานกันทั้งหมดเป็นทั้ง Influencer ที่มีอิทธิพลที่เมื่อใช้สินค้าอะไรคนจะใช้ตาม มีความน่าเชื่อถือแบบ KOL และทำคอนเทนต์เพื่อสื่อสารก็ได้

3. เทคโนโลยีช่วยเลือก Creator

ปัจจุบันเทคโนโลยีเดินหน้าไปไกลแล้ว นักการตลาดสามารถเลือก Creator ที่มีอยู่มากมายหลากหลาย catagories ในตลาดให้ตรงกับความต้องการได้ด้วยเทคโนโลยี เช่นเทคโนโลยี Social LIstening ที่ปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้มากมาย เพื่อดูว่าครีเตอร์คนไหนทำเนื้อหาอยู่ในรูปแบบใด มีผู้ติดตาม หรือสามารถสร้าง engagement มากน้อยแค่ไหนได้

คุณธนพลระบุว่า YDM Thailand เองก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยจัดหมวดหมู่ของ Creator ในเมืองไทยเอาไว้อย่างละเอียดด้วยเทคโนโลยี Cloud และ Social Listening ที่เก็บข้อมูลอย่างละเอียดไปจนถึงผลงานการีวิวแบรนด์ต่างๆรวมไปถึงความเติบโตโดยข้อมูลเหล่านี้ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ Agency จะมีอยู่พร้อมและสามารถให้นักการตลาดเข้าไปเลือกร่วมงานกับ Creator เพื่อตอบโจทย์แคมเปญได้เร็วที่สุด

4. การวัดผล Creator

การใช้กลยุทธ์ Creator Marketing สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือการวัดผลเพื่อให้รู้ว่าแคมเปญนั้นเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่เป็นซึ่งคุณธนพลก็ระบุว่ายิ่งวัดละเอียดได้ยิ่งดี ซึ่งสำหรับ YDM Thailand เป็น Agency ที่มีตัวชี้วัดที่ละเอียดมากไม่ว่าจะเป็น Engagement ที่วัดได้ในรูปแบบต่างๆ ถ้ามีการยิง Ads ก็วัดผลทั้งหมดทั้ง Click และ Impression เพื่อเป็นข้อมูลนำไป Match กับข้อมูลยอดขายในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อพิสูจน์ว่าแคมเปญนั้นได้ผลจริงหรือไม่ สามารถสร้าง Engagement จากกลุ่มลูกค้า สามารถทำให้เกิดการพูดถึงมากน้อยขึ้นหรือไม่อย่างไร ซึ่งสิ่งนี้เรียกว่าการทำ Co-Relation ซึ่งปัจจุบันก็สามารถนำ Genearive AI เข้ามาช่วยได้

คุณธนพล ปิดท้ายถึงเคล็ดลับของการใช้ Creator Maketing ว่าอย่าวัดผลครั้งเดียวอย่าเพิ่งตัดสินผลจากการร่วมมือกับ Creator เพียงครั้งเดียวเนื่องจากบางครั้งแคมเปญการตลาดจะได้ผลต้องใช้เวลา และจำเป็นต้องนึกถึงเรื่อง Life Time Value หรือคุณค่าที่จะเกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ลูกค้าซื้อสินค้าหรือใช้บริการของแบรนด์ ยกตัวอย่าง Use Case ของขนมเจ้าสัวที่ YDM Thailand เคยช่วยทำ Creator Marketing ด้วยกามินและแน็ก ชาลีที่นอกจากจะสามารถสร้างยอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงเวลานั้นได้แล้ว ผู้บริโภคที่ได้ลองก็จะมีโอกาสซื้อซ้ำสร้าง Life Time Value ต่อไปได้ด้วย


  • 3
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE