เราจะทำธุรกิจขายของออนไลน์ ทุบยอดขาย ไม่ต้องลงแรงลงเงินเยอะได้อย่างไร?

  • 784
  •  
  •  
  •  
  •  

ทำธุรกิจขายของออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซ แค่ลงทุนทำการตลาด ให้มีคนเปิดดูเว็บไซต์ของเราอย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องมียอดขายและกำไรตามมาด้วย ต้องรู้จักอัพเดทคอนเทนต์ผ่านโซเชียลมีเดีย และปิดการขาย

และนี่คือ 7 วิธีที่คนทำอีคอมเมิร์ซต้องยึดไปทำตาม ทุบยอดขาย ไม่ต้องลงแรงลงเงินเยอะ

Facebook

1. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย

รู้ให้ได้ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีปัญหาอะไร ต้องการอะไร สินค้าของคุณแก้ปัญหาให้อย่างไร มีข้อมูลลูกค้าที่น่าจะมาซื้อสินค้าของคุณ คอยดูคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าพูดถึงคุณ จะได้ตอบกลับได้ทันเวลา

 

2. กรอกข้อมูลลงโปรโฟล์ให้ครบและมีชั้นเชิง

เพราะมีส่วนช่วยโน้มน้าวให้คนไว้ใจและซื้อสินค้าของคุณได้ อย่างโปรไฟล์ใน Facebook Page ก็มีรายละเอียดตามนี้

– Mission: บอกเป้าหมายของธุรกิจว่าลูกค้าจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง? ธุรกิจจะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างไร?

– Company Overview:ทำไมต้องคลิกเข้าไปดูเว็บไซต์ของคุณ? คุณเป็นใคร? มีข้อเสมออะไร? ธุรกิจจะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างไร? และโน้มน้าวให้คนมาคลิกดูเว็บไซต์ ใส่ URL ด้วย

– Product: แนะนำสินค้ายอดนิยมขายดี พร้อม URL

– Contact Info:ใส่เบอร์โทรศัพท์กับอีเมล

– About: เล่าให้ฟังว่าธุรกิจของคุณมีที่มาอย่างไร? หรือเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ สะท้อนบุคลิกของแบรนด์เองด้วย

– ใส่ปุ่ม Call to Action ให้ตรงเป้าหมายธุรกิจ เช่น Shop Now ส่วน Profile Icon ก็ใส่โลโก้ของร้านให้คนจำได้ และ Cover Image ให้โน้มน้าว ให้ข้อมูลคน

 

3. ใกล้ชิดกับทีมขาย

เพราะทีมขายจะรู้จักขาช็อปออนไลน์ดีกว่าว่าตัวเองชอบอะไร? ไม่ชอบอะไร? ทำไมต้องมาซื้อของที่ร้านคุณ? ทีมขายจะเห็นภาพรวมดีกว่าคุณ คุณจึงต้องทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มยอดขายให้ได้

 

4. คุณค่ามาก่อนเสมอ

เพราะถ้าอยากให้ลูกค้าทำอะไรให้คุณ คุณต้องให้ลูกค้าก่อนเสมอ ใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ให้คุณค่ากลุ่มลูกค้าก่อนเสมอ ผ่านคอนเทนต์ที่มีประโยชน์เป็นส่วนใหญ่ แล้วค่อยๆแทรกโพสต์โปรโมชั่นขายของ หรือข้อเสนอดีๆ ช่วยให้กลุ่มลูกค้าแก้ปัญหา ทำให้ชีวิตดีขึ้น ลูกค้าจะไว้ใจและอยากซื้อ อยากให้ข้อมูลส่วนตัว ยอดขายก็จะตามมา

 

5. เขียนคำชวนให้ยั่วยวนให้ลงมือทำ

ถ้าอยากลากแฟนเพจเข้าร้านค้า ก็ต้องเชิญชวนกันหน่อย คุณต้องใช้ปุ่มหรือคำเชิญชวนห็เหมาะกับช่องทางการสื่อสารและตัวกลุ่มลูกค้า ให้คำที่เรียกความสนใจได้ทันที ให้คนรู้ว่าเข้าไปดูแล้วคุ้มหรือไม่ ทำให้คนอยากคลิกเข้าไปดู ฉะนั้นเขียนให้สั้น ชัดเจนและกระชับเข้าไว้ และทดสอบเรื่อยๆว่าคำโฆษณานั้นได้ผลดีหรือไม่ ถ้าไม่ก็ต้องเปลี่ยน

 

6. หน้า Landing Page ต้องโดนใจ

เพราะถ้าคุณจะกดแชร์โพสต์อะไรก็ตาม คุณต้องใส่ลิงค์ของ Landing Page ที่เกี่ยวกับโพสต์เข้าไปด้วย เวลาคนคลิ๊กเข้าดู เว็บนั้นต้องใช้งานง่าย ดีไซน์สวย และที่สำคัญต้องตอบสนองเร็ว โหลดเร็วไม่ว่าจะใช้ดีไวซ์แบบไหน เรียกความสนใจคนทันที บอกไปเลยว่าคนดูได้ประโยช์อะไรจากเพจนั้น ต้องการให้เขาทำอะไร?

 

7. ทำโฆษณาเรียกความสนใจ

ใช้โอกาสนั้นเข้าถึงคนที่ไม่ใช่แฟนเพจ หรือคนที่ยังไม่ได้ติดตามช่องทางของแบรนด์ แต่ต้องให้แน่ใจด้วยว่าตอบโจทย์ธุรกิจของคุณหรือไม่ คุณโฆษณาเพิ่อสร้างแบรนด์ เพิ่มผู้ติดตาม หรือเพิ่มยอดขาย

 

ที่สำคัญอย่าลืมทำคอนเทนต์ที่เกาะกระแส คอยคุยกับแฟนเพจให้ทันสถานการณ์อยู่บ่อยๆ และทำให้ลูกค้าซื้อของช็อปป้งผ่านช่องทางของคุณบนเว็บไซต์ได้ง่ายๆรวดเร็ว หากมีกระแสลบกับแบรนด์ของคุณ ต้องใส่ใจทันทีเพื่อรักษาความพอใจของลูกค้า และขอบคุณลูกค้าที่ใส่ใจในสินค้าและบริการของแบรนด์ ตั้งรับปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

 

แหล่งที่มา

https://blog.hootsuite.com/drive-ecommerce-leads-social-media/


  • 784
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th
CLOSE
CLOSE