iProspect เผย เครื่องมือ SEO ตัวใหม่สำหรับ E-commerce แบบ “Rank Zero” เพิ่มคนเข้าเว็บมากกว่าติดอับดับหนึ่งถึง 30%

  • 6K
  •  
  •  
  •  
  •  

ในปัจจุบันคงไม่มีใคร ที่ไม่รู้จัก E-commerce หรือ การทำ Digital Marketing แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับโลก Online มาเนิ่นนาน นั่นก็คือ การทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งก็คือการทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกของผลการค้นหาบน Google ในคีย์เวิร์ดสำคัญ ๆ เพื่อที่จะพากลุ่มเป้าหมายเข้าเว็บไซต์และสร้างยอดขาย

ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา Google ได้พัฒนา Algorithm ชุดใหม่ เพื่อช่วยจัดอันดับผลการค้นหาให้ตอบโจทย์ผู้ใช้จริงๆ และมีความเหมือนมนุษย์มากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “Featured snippet” หรือที่เรียกว่า “Rank Zero” ซึ่งจะกลายมาเป็นอาวุธชิ้นใหม่ที่ทรงพลัง ทำให้ทั้งแบรนด์ และ SEO Agency ต้องหันมาทบทวนกลยุทธ์การทำ SEO กันใหม่ เพราะปัจจุบัน แค่ติดหน้าแรก คงไม่พออีกต่อไปแล้ว

แล้ว Featured snippet (Rank zero) ทำงานกันอย่างไร?

Feature Snippet จะคัดเลือกคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุดในหน้าแรกมาแสดง พร้อมกับบอกเนื้อหาคร่าว ๆ ของบทความ ซึ่งทำให้มีพื้นที่การแสดงผลได้มากกว่าการติด SEO ในอับดับหนึ่ง

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อ user ค้นหาข้อมูลทั่วไป เช่น ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า การ Optimize Content ที่ให้ความรู้ (How-to Content) เป็นข้อๆ (มี Bullet) ขึ้นมาติด Rank zero ทำให้แบรนด์ได้รับ Traffic มากขึ้นอย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังทำให้แบรนด์เอง ดูดี น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ช่วยสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี

ด้วย Cost-Per-Sale ที่ถูกกว่า Digital Media ตัวอื่นๆ iProspect Thailand ได้เริ่มต้นศึกษา และพัฒนาเทคนิคการทำ Rank zero อย่างจริงจังตั้งแต่ 2019 เพราะเราได้มองเห็นว่า การแข่งขันติด SEO หน้าแรก นั้นกลายเป็นเรื่อง Basic ไปแล้ว Rank Zero (Search อันดับ 0) ต่างหากที่แบรนด์ต้องทำให้ได้ หากต้องการโฟกัสที่รายได้จาก E-commerce อย่างจริงจัง

ภาพตัวอย่าง: Featured snippet (rank zero) คำว่า ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า

จากตัวอย่างด้านบน คือ Featured snippet แบบลิสต์ (Listing) ของคำว่า “ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า” ซึ่งมี Average Search Volume 4,400/เดือน นับว่าค่อนข้างสูง เพราะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่กำลังจะเริ่มไปเที่ยวต่างประเทศ มีความสนใจที่จะซื้อประกันท่องเที่ยว ทำให้ Agency สามารถนำ Traffic ไปทำ Re-Marketing ต่อได้ทันที

ในอนาคตแบรนด์ที่อยู่ในใจลูกค้า ต้องไม่ใช่เข้าใจใน Products และความต้องการของลูกค้าเท่านั้น แต่ต้องเข้าถึงและช่วยเหลือลูกค้า ให้ได้รับความสะดวกสบายในทุกๆด้านด้วย

ตัวอย่างถัดมา คือ Featured snippet แบบย่อหน้า (Paragraph) ที่เราโฟกัสคำว่า “เอกสารกู้บ้าน” ซึ่งเป็นบทความที่ให้ความรู้สไตล์ Blog สำหรับกลุ่มคนที่กำลังหาข้อมูลเพื่อกู้ซื้อบ้าน เพื่อสร้างการจดจำ และตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำให้กับแบรนด์นั่นเอง

ภาพตัวอย่าง: Featured snippet (rank zero) คำว่า เอกสารกู้บ้าน

iProspect เลือกคำนี้มาทำ Featured snippet เพราะเรามองเห็นว่า Potential Customer หลักของเรา คือผู้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย และหัวข้อยอดนิยมที่กลุ่มคนเหล่านั้นมักค้นหา คือการทำเรื่องซื้อบ้าน ซึ่งเนื้อหาภายในบทความดังกล่าว จะช่วยให้คนที่กำลังซื้อบ้านสามารถเตรียมเอกสารได้อย่างถูกต้อง เราทำให้เว็บไซต์ของลูกค้าเราเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ (เป็น Reference Content) ช่วยสร้างความเชื่อถือในแบรนด์ (Brand Trust) ซึ่งจะมีผลต่อธุรกิจในแง่มุมอื่นอีกมากมาย ไม่ใช่แค่เรื่อง Traffic หรือยอดขาย เพียงอย่างเดียว

ภาพตัวอย่าง: Featured snippet (rank zero) อายุครรภ์ 29 สัปดาห์

อีกตัวอย่างหนึ่งของ Featured snippet แบบย่อหน้า (Paragraph) เป็นของแบรนด์นมผงที่ต้องการสร้าง Relationship และสร้าง Brand Trust กับกลุ่มเป้าหมายล่วงหน้า 6-12 เดือน เพราะการดึงผู้บริโภคเข้ามาอยู่ใน Ecosystem ของแบรนด์ เป็นสิ่งที่สำตัญต่อการทำ Re-Marketing และ CRM เป็นอย่างมาก

มีงานวิจัยจากต่างประเทศยืนยันว่าแบรนด์ที่ขึ้นอยู่ในตำแหน่ง Rank Zero เป็นประจำ จะมีผู้บริโภคถึง 33% เกิดความรู้สึกว่า (Brand Perception) นี่น่าจะเป็นแบรนด์ที่เป็นเจ้าตลาด หรือเป็น Market Leader ไปโดยอัตโนมัติ พูดอีกแบบหนึ่งก็คือ Rank Zero ช่วยทำให้เกิด Halo Effect ในโลกของ Digital Marketing ยุคใหม่นั่นเอง

ความพิเศษของ Featured snippet คืออะไร

ความพิเศษของ Featured snippet คือการแสดงผลที่อยู่เหนือผลลัพธ์แบบธรรมชาติ (Organic Result) ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น วิดีโอ แถบรูปภาพ รวมทั้งเว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1 ก็ยังเป็นรองให้กับ Rank Zero มีเพียงแค่ SEM ที่ส่วนใหญ่จะแสดงผลอยู่เหนือกว่า ซึ่งกับ SEM นั้น เราต้องจ่ายเงินเพื่อโฆษณาอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่จ่ายเงินเมื่อไหร่ การรับรู้ก็จะเหลือศูนย์ทันที ในขณะที่ Rank Zero ไม่ต้องจ่ายเงิน

แต่อย่างไรก็ดี ทั้งสองอย่างก็มีเป้าหมายทางธุรกิจ (Business Objective) ที่แตกต่างกันออกไป SEM สามารถทำแล้วคาดหวังผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว (ใช้เงินซื้อโฆษณาตรงๆ) ในขณะที่การทำ SEO แบบ Rank Zero ต้องใช้เวลา 1-4 เดือน กว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ภาพตัวอย่าง: search result page คำว่า วิธีสมัครบัตรเครดิต

คำถามสำคัญต่อมา ก็คือ ทำไมแบรนด์ที่กำลังทำ SEO หรือมีแผนที่จะทำ SEO ควรให้ความสำคัญกับ Rank Zero? ซึ่ง iProspect Thailand ได้สรุปออกมาเป็น 5 ข้อ

1.Rank Zero มีการแสดงผลที่อยู่ก่อนอันดับ 1 ทำให้ค่า CTR (Click-through-Rate) หรืออัตราคนเข้าเว็บไซต์สูงกว่าอับดับ 1 หนึ่งถึง 30%

2.ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้อย่างมาก เนื่องจาก Google จะเลือกคอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานมาแสดงเท่านั้น (Halo Effect)

3.สร้าง Brand Awareness ให้กับแบรนด์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะผู้ใช้งานจะสังเกตเห็น Rank Zero ก่อนผลการค้นหาแบบอื่น โดยที่ไม่ต้อง Click เข้าไปอ่าน

4.รองรับการค้นหาด้วยเสียง (Voice Search) เมื่อผู้ใช้งานใช้ Google Assistant ระบบจะพยายามดึงข้อมูลจาก Rank Zero ออกมาตอบก่อนเสมอ

5.การทำ Rank Zero ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับ Google และเป็นการแสดงผลระยะยาว (Long-term Investment) ทำให้ Cost-per-Traffic หรือ Cost-per-Conversion ต่ำ มีความคุ้มค่ากว่า

ที่ผ่านมาทีมงาน iProspect Thailand ยังได้มีการทำ SEO Research เพื่อหาสูตรสำเร็จของการทำ Rank Zero หรือ Featured snippet แบบอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น YouTube Video Optimization, Native SEO Content Editing, Natural Backlink Strategy, Load Speed (On-Page) Optimization, Hi-Speed SEO (New Solution!)

ติด Rank SEO ภายใน 1 สัปดาห์ด้วย Hi-Speed SEO

นวัตกรรมล่าสุดที่ทาง iProspect ได้นำเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็ว ในการทำ SEO นั่นก็คือ Hi-Speed SEO ที่ใช้เทคนิคการ Leverage พลังของเว็บไซต์ Publisher ในเครือข่าย มาช่วยเสริมพลังของ SEO ทำให้ลูกค้าสามารถติด SEO ในตำแหน่ง Premium ได้ในเวลาอันสั้น

ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา หากลูกค้าต้องการทำ SEO ใน keyword ที่มีการแข่งขันสูงมากๆ และมีเวลาค่อนข้างจำกัด การทำ Hi-Speed SEO ควบคู่ไปกับการทำ Rank Zero (Long-term Investment) ช่วยให้ Brand ได้รับทั้ง Awareness และ Trust จากผู้บริโภคที่อย่างต่อเนื่อง และเป็นธรรมชาติมากกว่า

ซึ่งวิธีการทำ Hi-Speed SEO ต้องมีการวางพื้นฐานในการทำ SEO ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับ Publisher อย่างต่อเนื่อง ถึงจะได้รับผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งนั้นเป็นอีกหนึ่งใน relationship พิเศษที่ทาง iProspect Thailand มีต่อ Publisher ทั้งหลาย…

สุดท้ายนี้เราเชื่อว่า การตลาด Online ในปี 2020 เป็นปีที่ทุกแบรนด์ ต้องใช้เม็ดเงินโฆษณาทุกบาทให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด iProspect เชื่อว่า เราสามารถบริหารเงินของลูกค้าให้ได้ ROI ที่ดีที่สุด และต้องการให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของลูกค้าจะติด Rank Zero (Featured snippet) ได้อย่างยั่งยืน และสร้างยอดขายได้ในระยะยาว

“ไม่ว่า Google จะขยับไปทางไหน iProspect จะขยับตาม Google เป็นคนแรกเสมอ”

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ iProspect


  • 6K
  •  
  •  
  •  
  •