คุยให้รู้เรื่อง! เราจะสร้างชุมชนผู้บริโภคให้แข็มแข็ง ดันยอดขายสูงสุดในช่วงวิกฤติได้อย่างไร?

  • 73
  •  
  •  
  •  
  •  

พูดถึงการสร้างชุมชนไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ ก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะการใส่ใจลูกค้าก็เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายให้กับธุรกิจได้เช่นกัน การหมดเงินหมดเวลาไปกับการสร้างชุมชนติดตามแบรนด์ของเราอย่างเหนียวแน่นก็ถือเป็นเรื่องจำเป็น

เราเลยอยากให้คุณรู้ 7 สูตรง่ายๆสร้างชุมชนผู้บริโภคให้ธุรกิจของคุณได้ทำรายได้อย่างไม่มีสะดุด

Facebook-Audience

 

1. ทำสินค้าให้มันดีก่อนดีกว่า

เพราะลูกค้ารายแรกๆ ยอดขาย และการสร้างชุมชน ทั้งหมดจะเริ่มต้นมาจากสินค้าและบริการ จะมาสัญญากับผู้บริโภคเพียงอย่างเดียวคงเป้นไปไม่ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีกลุ่มสาวกติดตามสินค้าและบริการของคุณแล้ว อย่าลืมบอกด้วยว่าคุณจะทำให้สินค้าและบริการของคุณมันดีขึ้นอย่างไร? ให้คนอย่างนักพัฒนาซอฟท์แวร์ เว็บไซต์ หรือนักออกแบบบริการไปพูดให้ลูกค้าฟัง สิ่งสำคัญที่คุณจะได้กลับมาคือความเห็นของลูกค้า

 

2. รู้จักขอความช่วยเหลือบ้าง

รู้ใช่มั้ยว่าสินค้าและบริการมันไม่มีขา คุณต้องลองขอความช่วยเหลือคนที่ชอบสินค้าและบริการของคุณอยู่แล้วให้ช่วยสร้างกระแส สร้างกลุ่มคนที่ชอบสินค้าและบริการของคุณบ้าง จะมียกยอกันบ้างก็ยังดี

 

3. หาตัวชูโรง

ลองถามคนในทีมสิ ทุกคนก็อยากจะเริ่มสร้างชุมชนให้กับตัวสินค้ากันทุกคน แต่ใครล่ะที่จะเอาเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด อย่างน้อยคุณก็ต้องหาฮีโร่ในทีมที่สามารถปลุกแรงบันดาลใจให้คนในทีมทำได้ คนที่จบบริหารธุรกิจจะยุ่งอยู่แต่กับงานที่ตัวเองรับผิดชอบ ดังนั้นจงใช้คนที่ไม่ได้จบมาจากบริหารธุรกิจโดยตรงให้เริ่มสร้างชุมชนสาวกจะเหมาะสมที่สุด

 

4. ทำระบบเปิด

ไม่มีบริษัทไหนที่จะผูกขาดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของตัวเองหรอก และหลายๆชุมชนก็พยายามที่จะเพิ่มมูลค่าของสินค้า สิ่งที่ทุกบริษัทจะต้องทำคือการเตรียมเครื่องมือและข้อมูลให้กับชุมชน ให้สาวกผู้บริโภคในชุมชนได้ปรับแต่งฟังค์ชั่น ทำปลั๊กอิน และทำสินค้าเสริม ช่วยให้ทั้งตัวบริษัทและลูกค้าได้ประโยชน์สองฝ่าย

 

5. เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ “ขย้ำ” สินค้าของคุณบ้าง

ก็เพราะสินค้าของคุณไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะตอบโจทย์ทุกคนได้หมด แต่ละคนก็มีความต้องการแตกต่างมากน้อยกันไป การทำให้สินค้าของคุณปรับแต่งได้ตามใจผู้บริโภคเป็นเรื่องที่นอกจากทั้งตัวบริษัทและลูกค้าได้ประโยชน์อย่างที่บอกแล้ว ยังจะกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างผู้บริโภค ข้อนี้ถ้าบริษัทเปิดใจสักหน่อยว่าทีมพัฒนาสินค้าของคุณไม่ได้เก่งที่สุด คุณจะได้ชุมชนที่แข็มแข็งขึ้นมากเลย

 

6. เปิดรับคำวิจารณ์บ้าง

เพราะคุณจะรู้สึกดีที่มีแต่ลูกค้าชมสินค้าของตัวเองและซื้อสินค้าอยู่เรื่อยๆโดยที่ไม่มีคำบ่นเลยสักคำ แต่รับรองว่าถ้าสักวันมีลูกค้ามาบ่นมาว่าสินค้าของคุณละก็ คุณจะทำอะไรไม่ถูก คุณจะลนทันทีและพยายามควบคุมชุมชนผู้บริโภคทันที ซึ่งคุณทำไม่ได้หรอก ทางที่ดีคุณยืดอกรับคำวิพากษ์วิจารณ์และยินดีที่ได้ฟังดราม่าบ้างจะดีกว่า

 

7. ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนไอเดีย

การกระตุ้นให้ชุมชนผู้บริโภคได้แลกเปลี่ยนไอเดียและความเห็นทำให้คนในชุมชนกันเองสิทมากขึ้นและแบรนด์ก็สนิทกับผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ใช่แค่โยนคำถามลงไปใน Facebook Page เท่านั้นแต่เป็นการสร้างแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ให้ผู้บริโภคได้ไปคุยกันต่อในนั้นด้วย บริษัทมีอีเวนท์อะไร ทุกคนต้องมีส่วนร่วมไม่เว้นแต่ CEO ของบริษัท นี่ไม่ได้หมายความว่าให้ชุมชนมายุ่มย่ามกับบริษัท แต่คุณจะต้องฟังเสียงผู้บริโภคบ้าง

 

และสุดท้ายคุณต้องประกาศให้รู้ว่าบริษัทของคุณก็มีชุมชนผู้บริโภคเหมือนกัน ให้ชุมชนผู้บริโภคที่คุณมีได้ส่งเสริมการขายและการตลาดบ้าง เพราะสาวกผู้บริโภคที่คุณมีจะทำให้คุณรักษาฐานของตลาดได้ส่วนหนึ่ง เป็นการสร้างกำลังใจให้กับพนักงานในทีมและทีมขายด้วย

 

facebook-brain-connections

 

แหล่งที่มา

The Art of Creating a Community จากหนังสือ Reality Check โดย Guy Kawasaki


  • 73
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th