พูดถึงการสร้างชุมชนไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ ก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะการใส่ใจลูกค้าก็เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายให้กับธุรกิจได้เช่นกัน การหมดเงินหมดเวลาไปกับการสร้างชุมชนติดตามแบรนด์ของเราอย่างเหนียวแน่นก็ถือเป็นเรื่องจำเป็น
เราเลยอยากให้คุณรู้ 7 สูตรง่ายๆสร้างชุมชนผู้บริโภคให้ธุรกิจของคุณได้ทำรายได้อย่างไม่มีสะดุด
1. ทำสินค้าให้มันดีก่อนดีกว่า
เพราะลูกค้ารายแรกๆ ยอดขาย และการสร้างชุมชน ทั้งหมดจะเริ่มต้นมาจากสินค้าและบริการ จะมาสัญญากับผู้บริโภคเพียงอย่างเดียวคงเป้นไปไม่ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีกลุ่มสาวกติดตามสินค้าและบริการของคุณแล้ว อย่าลืมบอกด้วยว่าคุณจะทำให้สินค้าและบริการของคุณมันดีขึ้นอย่างไร? ให้คนอย่างนักพัฒนาซอฟท์แวร์ เว็บไซต์ หรือนักออกแบบบริการไปพูดให้ลูกค้าฟัง สิ่งสำคัญที่คุณจะได้กลับมาคือความเห็นของลูกค้า
2. รู้จักขอความช่วยเหลือบ้าง
รู้ใช่มั้ยว่าสินค้าและบริการมันไม่มีขา คุณต้องลองขอความช่วยเหลือคนที่ชอบสินค้าและบริการของคุณอยู่แล้วให้ช่วยสร้างกระแส สร้างกลุ่มคนที่ชอบสินค้าและบริการของคุณบ้าง จะมียกยอกันบ้างก็ยังดี
3. หาตัวชูโรง
ลองถามคนในทีมสิ ทุกคนก็อยากจะเริ่มสร้างชุมชนให้กับตัวสินค้ากันทุกคน แต่ใครล่ะที่จะเอาเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด อย่างน้อยคุณก็ต้องหาฮีโร่ในทีมที่สามารถปลุกแรงบันดาลใจให้คนในทีมทำได้ คนที่จบบริหารธุรกิจจะยุ่งอยู่แต่กับงานที่ตัวเองรับผิดชอบ ดังนั้นจงใช้คนที่ไม่ได้จบมาจากบริหารธุรกิจโดยตรงให้เริ่มสร้างชุมชนสาวกจะเหมาะสมที่สุด
4. ทำระบบเปิด
ไม่มีบริษัทไหนที่จะผูกขาดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของตัวเองหรอก และหลายๆชุมชนก็พยายามที่จะเพิ่มมูลค่าของสินค้า สิ่งที่ทุกบริษัทจะต้องทำคือการเตรียมเครื่องมือและข้อมูลให้กับชุมชน ให้สาวกผู้บริโภคในชุมชนได้ปรับแต่งฟังค์ชั่น ทำปลั๊กอิน และทำสินค้าเสริม ช่วยให้ทั้งตัวบริษัทและลูกค้าได้ประโยชน์สองฝ่าย
5. เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ “ขย้ำ” สินค้าของคุณบ้าง
ก็เพราะสินค้าของคุณไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะตอบโจทย์ทุกคนได้หมด แต่ละคนก็มีความต้องการแตกต่างมากน้อยกันไป การทำให้สินค้าของคุณปรับแต่งได้ตามใจผู้บริโภคเป็นเรื่องที่นอกจากทั้งตัวบริษัทและลูกค้าได้ประโยชน์อย่างที่บอกแล้ว ยังจะกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างผู้บริโภค ข้อนี้ถ้าบริษัทเปิดใจสักหน่อยว่าทีมพัฒนาสินค้าของคุณไม่ได้เก่งที่สุด คุณจะได้ชุมชนที่แข็มแข็งขึ้นมากเลย
6. เปิดรับคำวิจารณ์บ้าง
เพราะคุณจะรู้สึกดีที่มีแต่ลูกค้าชมสินค้าของตัวเองและซื้อสินค้าอยู่เรื่อยๆโดยที่ไม่มีคำบ่นเลยสักคำ แต่รับรองว่าถ้าสักวันมีลูกค้ามาบ่นมาว่าสินค้าของคุณละก็ คุณจะทำอะไรไม่ถูก คุณจะลนทันทีและพยายามควบคุมชุมชนผู้บริโภคทันที ซึ่งคุณทำไม่ได้หรอก ทางที่ดีคุณยืดอกรับคำวิพากษ์วิจารณ์และยินดีที่ได้ฟังดราม่าบ้างจะดีกว่า
7. ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนไอเดีย
การกระตุ้นให้ชุมชนผู้บริโภคได้แลกเปลี่ยนไอเดียและความเห็นทำให้คนในชุมชนกันเองสิทมากขึ้นและแบรนด์ก็สนิทกับผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ใช่แค่โยนคำถามลงไปใน Facebook Page เท่านั้นแต่เป็นการสร้างแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ให้ผู้บริโภคได้ไปคุยกันต่อในนั้นด้วย บริษัทมีอีเวนท์อะไร ทุกคนต้องมีส่วนร่วมไม่เว้นแต่ CEO ของบริษัท นี่ไม่ได้หมายความว่าให้ชุมชนมายุ่มย่ามกับบริษัท แต่คุณจะต้องฟังเสียงผู้บริโภคบ้าง
และสุดท้ายคุณต้องประกาศให้รู้ว่าบริษัทของคุณก็มีชุมชนผู้บริโภคเหมือนกัน ให้ชุมชนผู้บริโภคที่คุณมีได้ส่งเสริมการขายและการตลาดบ้าง เพราะสาวกผู้บริโภคที่คุณมีจะทำให้คุณรักษาฐานของตลาดได้ส่วนหนึ่ง เป็นการสร้างกำลังใจให้กับพนักงานในทีมและทีมขายด้วย
แหล่งที่มา
The Art of Creating a Community จากหนังสือ Reality Check โดย Guy Kawasaki